Pinocchio Effect อาการหลังโกหก ที่ไม่ใช่แค่พินอคคิโอ.. แต่เราทุกคนก็เป็นได้
โดย : imnat
เมื่อเอ่ยถึงตัวละครที่มาจากวรรณกรรมสำหรับเด็ก
เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะพอได้ยินเรื่องราวของหุ่นไม้ที่ชื่อ พินอคคิโอ กันมาบ้าง
นอกจากพินอคคิโอจะเป็นชื่อของตัวละครแล้ว
รู้กันหรือเปล่าว่าพินอคคิโอยังเป็นชื่ออาการของคนที่ชอบโกหกอีกด้วยนะ!
พินอคคิโอ ตัวละครหุ่นไม้จากวรรณกรรมคลาสสิกสำหรับเด็กที่มีหน้าตาน่ารัก แต่กลับมีนิสัยไม่ค่อยจะน่ารักเอาเสียเลย สำหรับวีรกรรมของพินอคคิโอหรือหุ่นกระบอกไม้ตัวนี้คือ เค้ามักจะชอบพูดโกหก และไม่รักษาสัญญา โดยสิ่งที่แสดงออกเวลาที่พูดโกหกนั้น ก็คือจมูกที่ยื่นยาวออกมาเหมือนด้ามไม้กวาด ซึ่งทุกคนรู้กันหรือเปล่าว่าคนเราก็สามารถแสดงอาการพินอคคิโอเวลาที่พูดโกหกได้เหมือนกัน
เมื่อคุณโกหก จมูกของคุณจะ...
ผลการวิจัยด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเกรนาดา ประเทศสเปนระบุว่า เมื่อใครคนใดคนนึงโกหก คนๆ นั้นจะแสดงอาการหลังโกหกหรือที่เรียกว่า Pinocchio Effect ออกมา โดยสามารถวัดได้จากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณรอบจมูกลามไปถึงบริเวณเบ้าตาด้านใน ซึ่งนอกจากร่างกายจะแสดงปฏิกริยาดังกล่าวนี้ออกมาเวลาที่โกหกแล้ว ในคนที่วิตกกังวลหรือทุกข์ใจมากๆ นอกจากรอบจมูกกับเบ้าตาแล้วอุณหภูมิบริเวณใบหน้าก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ซึ่งปฏิกริยาดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นหลักฐานทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกันระหว่างสมองกับคำพูด โดยมหาวิทยาลัยเกรนาดาได้ทำการวิจัยนี้ขึ้นมาโดยใช้กล้องถ่ายภาพความร้อน หรือ Thermography ในการพิสูจน์หาคนที่โกหก ซึ่งจากผลการพิสูจน์นั้นพบว่าสามารถวัดผลได้เหมือนกันทั้งผู้ชายและผู้หญิง และเมื่อสมองของเราพยายามหาเหตุผลหรือข้อโต้แย้ง อุณหภูมิในร่างกายก็มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นๆ เรื่อยๆ
โดยการทำงานของสมองที่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นนั้นมีที่มาจากกระบวนการทำงานของสมองส่วนที่เรียกว่า อินซูลา (Insula) ที่มีหน้าที่กำหนดและควบคุมอุณหภูมิในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อเราพูดโกหก สมองส่วนที่เรียกว่าอินซูลานี้ก็จะทำงานหนักขึ้น ส่งผลทำให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิที่สูงขึ้น เหมือนอย่างที่นางฟ้าพูดกับหุ่นกระบอกไม้พินอคคิโอว่า "จมูกของเธอทำให้ฉันรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่นะจ๊ะ"
ผิดมากไหม ถ้าคนเราจะโกหก
การโกหกถือเป็นอีกหนึ่งทักษะการเอาตัวรอดของมนุษย์ และการที่เราโกหกไม่ได้แปลว่าเราเป็นโรคร้ายแรงหรืออะไร แต่การโกหกมักจะเริ่มต้นขึ้นมาจากความไม่สบายใจของเราต่อเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใดๆ ที่ส่งผลทำให้เกิดเป็นความวิตกกังวลขึ้นมา และเมื่อเราเกิดความไม่สบายใจมากๆ สิ่งที่ตามมาก็คือการเอาตัวรอดด้วยการโกหกเพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งตนเองและผู้อื่น
หลายครั้งที่คนเราเลือกใช้วิธีการโกหกเพื่อรักษาสิ่งต่างๆ เอาไว้ ทั้งมิตรภาพ ความรัก ความสัมพันธ์ เชื่อว่าแทบจะทุกคนบนโลกใบนี้ใช้วิธีการโกหกกันมาแล้วทั้งนั้น อย่างที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า สังคมที่ก้าวหน้ามักจะเป็นสังคมที่มีแต่การโกหกหลอกลวง สัตว์จะยิ่งฉลาด ถ้ายิ่งมีการโกหก ดังนั้นการโกหกไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป ตราบใดที่เรารู้ว่ากำลังทำอะไร และผลของการโกหกนั้นจะออกมาเป็นแบบไหน
สุขสันต์วันแห่งการโกหก
วันที่ 1 เมษายนของทุกปี ทั่วโลกจะมีการเฉลิมฉลองเนื่องในวัน April Fool's Day หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่าวันแห่งการโกหก ซึ่งเป็นวันที่คนทั่วโลกจะออกมาเล่นมุกตลกหรือเล่าเรื่องหลอกลวงก่อนออกมาเฉลยในวันถัดไป และถึงแม้ว่าประเทศไทยของเราจะไม่ได้กำหนดให้วันโกหกนี้เป็นวันสำคัญของประเทศ แต่ก็มีคนบางส่วนที่รับเอาวัฒนธรรมนี้มาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนไปกันมากขึ้น
และนอกจาก April Fool's Day จะถูกเรียกว่าวันแห่งการโกหกแล้ว มันยังถูกเรียกในชื่อว่า "วันเมษาหน้าโง่" อีกด้วย สาเหตุที่ถูกเรียกว่าวันเมษาหน้าโง่นี้ก็เพราะว่าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ประเทศฝรั่งเศสมีวันปีใหม่ที่ตรงกับวันที่ 1 เมษายน ก่อนจะถูกเปลี่ยนให้กลายมาเป็นวันที่ 1 มกราคมในเวลาต่อมา แต่ด้วยความที่ในยุคสมัยนั้นข่าวสารไม่ได้แพร่กระจายไปไวเหมือนอย่างตอนนี้ คนที่รับรู้ข่าวสารช้าจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนโง่ ดังนั้นเพราะเหตุนี้วันที่ 1 เมษายนจึงกลายเป็นที่มาของ วันเมษาหน้าโง่ ด้วยนั่นเอง
ปันโปรสรุปให้
• นอกจากพินอคคิโอจะเป็นชื่อของตัวละครหุ่นไม้หน้าตาน่ารักแล้ว พินอคคิโอยังกลายมาเป็นชื่อเรียกของปฎิกริยาที่แสดงออกเวลาที่เราโกหกกันอีกด้วย
• อาการพินอคคิโอนี้ถูกวิจัยขึ้นมาโดยมหาวิทยาลัยเกรนาดา ประเทศสเปน ซึ่งเป็นปฎิกริยาทางร่างกายที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นบริเวณรอบจมูกลามไปถึงเบ้าตาด้านในเวลาที่พูดโกหก และถึงแม้ว่าการโกหกจะไม่ได้ทำให้จมูกของเรางอกยาวออกมา แต่มันก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้เหมือนกันนะว่าใครกำลังโกหกอยู่
• และเมื่อพูดถึงเรื่องการโกหก คงจะหนีไม่พ้นวันสำคัญของโลกอย่าง April Fool's Day ถึงแม้ว่าปีนี้สีสันอาจจะน้อยลงกว่าปีก่อนๆ แต่ประชาชนชาวตะวันตกก็ได้ออกมาเฉลิมฉลองพอหอมปากหอมคอเหมือนอย่างทุกปีเช่นเคย ส่วนบ้านเราก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าห้ามพูดโกหกว่าตัวเองติดโควิด-19 ไม่เช่นนั้นจะโดนทำโทษทั้งจำและปรับเอาน้าา
- ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก sciencedaily และ sanook -
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ