New Normal ปรากฏการณ์สังคมใหม่หลังโควิด ที่เราทุกคนต้องปรับตัว!

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer24 เม.ย. 2563 avatar writer4.9 K
New Normal ปรากฏการณ์สังคมใหม่หลังโควิด ที่เราทุกคนต้องปรับตัว!

หมดโควิด ก็ได้เวลาก้าวเข้าสู่ยุคสังคมใหม่ หรือ New Normal
ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ทุกประเทศต้องปรับตัว
มาเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางเข้าสู่ยุคใหม่นี้ไปด้วยกัน
บอกเลยงานนี้ใครพร้อมก่อนคนนั้นได้เปรียบ!


New Normal ไม่ใช่คำที่เพิ่งได้รับการคิดค้นขึ้นมาใหม่ แต่เป็นคำที่เคยถูกนิยามและให้คำจำกัดความมาตั้งแต่ปี 2008 โดย Bill Gross นักลงทุนชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทบริหารเงินลงทุนรายใหญ่ระดับโลก ที่เคยให้คำอธิบายเกี่ยวกับคำว่า New Normal ไว้ว่า เป็นผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศๆ เดียว แต่ยังกระทบต่อประชากรทุกคนในสังคมโดยตรง

โดย New Normal นี้ถ้าพูดในภาษาที่เข้าใจง่าย เราอาจจะเรียกมันว่าวิธีการแก้ปัญหาของคนในสังคมโดยอาศัยวิกฤตที่เคยเกิดขึ้นเป็นบทเรียน หรือบางคนก็เรียกมันว่า ยุคสังคมใหม่อันเต็มไปด้วยพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้บริโภคก็ได้เหมือนกัน ซึ่งสังคมของเรานั้นคงจะใกล้โอกาสใหม่ครั้งนี้เข้าไปทุกที แต่ก่อนที่เราจะคว้าโอกาสใหม่นี้มาถือไว้ในมือ ได้เวลาทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมกับการเปลี่ยนไปที่กำลังจะเกิดในอนาคตกัน

 

 


การมาของ New Normal จะทำให้ทุกๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเรานั้นเปลี่ยนไป..


คำจำกัดความของคำว่า New Normal นั้นถูกให้ความเข้าใจในคำอธิบายที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้ถูกวางไว้ในกรอบแห่งความเข้าใจอันเดียวกันนั่นก็คือ โอกาสครั้งใหม่ของสังคมที่เป็นเหมือนการปรับปรุงและพัฒนาช่องโหว่ทุกๆ ด้านให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์อันร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกว่าเมื่อไหร่ แต่การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างใหม่ โดยอาศัยสถานการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จะทำให้สังคมของเราเป็นสังคมที่แข็งแกร่งขึ้นและพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

โดยเหตุการณ์ในอดีตที่พูดถึงกันนี้คงจะหนีไม่พ้น สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศมหาอำนาจอย่างจีน ก่อนจะส่งผลกระทบไปทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากสถานการณ์ไวรัสระบาดนี้ส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ปัญหาที่ไม่เคยอยู่ในความสนใจก็ได้รับความสนใจขึ้นมา

นับตั้งแต่ปัญหาเรื่องของรายได้ เพราะไม่ใช่ทุกอาชีพที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ อาชีพไหนที่ไม่สามารถกู้สถานการณ์คืนมา ก็ได้แต่นับเวลาถอยหลังทุกวันๆ นอกจากรายได้แล้วปัญหาที่ตามมาควบคู่กันนั่นก็คือปัญหาเรื่องของคนตกงาน โดยมีสาเหตุมาจากการขาดรายได้ของบริษัทที่ไม่มีเงินมากพอที่จะจ้างพนักงานต่อ ผลกระทบที่ตามมาก็หนีไม่พ้นการเลิกจ้าง

แถมยังลามไปถึงปัญหาเรื่องความเครียด ที่มีสาเหตุมาจากการขาดการเข้าสังคมเป็นระยะเวลานาน และปัญหาอื่นอีกมากมาย ซึ่งไม่ต้องอธิบายมากแต่เราก็เชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจเหมือนๆ กัน

 

 

ซึ่งการมาของ New Normal นั้นเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้สังคม ที่อาศัยการคิดใหม่ ทำใหม่ และคิดให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจส่งผลทำให้อะไรหลายๆ อย่างที่เราคุ้นเคยกันในก่อนหน้านี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ธุรกิจจะมีการปรับตัวใหม่ จะมีการหันเข้าหาเทคโนโลยีมากขึ้น กำลังการผลิตจะกระจายตัวออกไป ไม่ได้กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่งเหมือนอย่างที่ผ่านมา

กำลังการผลิตในยุคใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับกำลังการผลิตในประเทศ  ซึ่งเห็นภาพได้ชัดเจนมากหลังจากที่ประเทศจีน ประเทศที่มีกำลังการผลิตเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลทำให้กระบวนการผลิตทุกอย่างหยุดชะงักลง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บ้านเราประสบปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยเช่นเดียวกัน

ซึ่งเมื่อเราเห็นแล้วว่าอะไรคือปัญหา เราก็แค่ทำการแก้ไขมันด้วยการหันมาอาศัยกำลังการผลิตในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ต้องรับรู้ถึงปัญหาและเร่งพัฒนากำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน

 

 

 

และนอกจากธุรกิจจะต้องมีการปรับตัวแล้ว รูปแบบการทำงานของพวกเราทุกคนก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย จากสถานการณ์ไวรัสระบาดที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพของการ Work from Home ได้เป็นอย่างดี ซึ่งยุคสังคมใหม่อย่าง New Normal นี้ก็จะมีการต่อยอดรูปแบบของการทำงานแบบ Work from Home ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเมื่อพูดถึงการทำงานรูปแบบนี้ทำให้เรานึกถึงผลที่ตามมาอย่างรูปแบบการใช้ชีวิต นับตั้งแต่ตื่นไปจนถึงเข้านอน รวมไปถึงเวลาทำงานที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามรูปแบบการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อเข้าสู่สังคมยุคใหม่แล้วรูปแบบการใช้ชีวิตของเราก็คงจะมีความยืดหยุ่นขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว

นอกจากรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างกิจวัตรประจำวันแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย การรักษาความสะอาดจะเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิต คนจะมีการนึกถึงผลกระทบและเป็นห่วงสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น มีการติดต่อสื่อสารด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น มิหนำซ้ำรูปแบบของการเรียนการสอนก็จะเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับการเรียนผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 


บุคลากรทางการแพทย์ อาชีพที่จะมีบทบาทมากขึ้นในยุคสังคมใหม่


จากผลกระทบของสถานการณ์ไวรัสโควิดระบาดนั้นทำให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ และระบบสาธารณสุขขึ้นมา มีบุคลากรทางการแพทย์หลายคนที่สละแรงกาย แรงใจของตัวเองให้เชื้อไวรัสโควิดนี้ไปเยอะมาก ดังนั้นเมื่อเราเดินทางเข้าสู่ยุคสังคมใหม่ การเตรียมความพร้อมและการพัฒนาความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ก็ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นยังรวมไปถึงเครื่องมือแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นหยูกยา สถานที่รองรับการรักษา รวมไปถึงจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ควรได้รับการสนับสนุนและได้รับโอกาสกันมากกว่าที่ผ่านมา

ซึ่งทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ ถ้าทุกประเทศร่วมมือกัน เว้นจากการทำสงครามกับเพื่อนร่วมโลก แล้วหันมาร่วมมือในการพัฒนาสังคม บุคลากร รวมไปถึงความรู้ เพื่อต่อกรกับศัตรูตัวฉกาจอย่างโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ถือเป็นทางออกที่จะนำไปสู่ยุคสังคมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ก็เข้าใจว่าการจะนำเราไปสู่จุดนั้นได้ ต้องเริ่มมาตั้งแต่ความคิดและทัศนคติของตัวเราเองก่อน ซึ่งถ้าเราทุกคนเปลี่ยนความคิดใหม่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมกันมากขึ้น ทุกอย่างคงจะง่ายกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย ขอเพียงแค่ค่อยๆ กล้าที่จะเปลี่ยน ต่อให้ใช้เวลานานแค่ไหนมันก็คุ้มค่าที่จะรอจริงไหม?

 

 


ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องปรับตัว


   • ปรับตัวกับโอกาสครั้งใหม่ที่จะต้องคิดใหม่ ทำใหม่ และคิดให้ใหญ่ขึ้น

   • ปรับตัวกับธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง

   • ปรับตัวกับกำลังการผลิต ที่ไม่ได้กระจุกอยู่แค่ประเทศจีน แต่กำลังการผลิตในประเทศก็สำคัญ

   • ปรับตัวกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป หลังจากนี้เราอาจจะเห็นรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่แค่ในออฟฟิศอย่างเดียว

   • ปรับตัวกับรูปแบบการใช้ชีวิต เวลานอน เวลาตื่น เวลาทำงานจะไม่มีกฏตายตัวเหมือนอย่างที่ผ่านมา

   • ปรับตัวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ความสะอาดและสุขภาพจะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 

   • ปรับตัวกับความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นกำลังคนรวมไปถึงอุปกรณ์ทางการรักษาต่างๆ

   • ปรับตัวกับการศึกษา ที่หลังจากนี้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาท ทำให้เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือที่โรงเรียนอีกต่อไป

   • ปรับตัวกับการเตรียมความพร้อม ที่ไม่ใช่การรอให้เหตุการณ์เกิดก่อนแล้วค่อยแก้ไข แต่ต้องหาวิธีเตรียมความพร้อม วิธีรับมือกับปัญหาต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

   • ปรับตัวกับความเชื่อมั่นและเชื่อว่าบุคลากรทุกฝ่ายรวมทั้งตัวเราจะสามารถนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   • สุดท้าย กับการปรับตัวให้กับความไว้เนื้อเชื่อใจ เชื่อว่าถ้าทุกประเทศร่วมมือกันต่อสู้กับปัญหา โลกของเราก็จะเอาชนะเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ไปด้วยกันได้

 

 

 

สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะฝากทอล์กดีๆ ที่บิล เกตส์ นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์เคยพูดไว้ตั้งแต่ปี 2015 ให้ทุกคนได้ฟังเพื่อทบทวนสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก่อนจะมองย้อนกลับมายังสังคมที่เราเห็นหน้าค่าตากันทุกวันนี้ ว่าในสถานการณ์ที่เราทุกคนกำลังเผชิญกันอยู่นี้ เราพร้อมแล้วหรือยังกับการก้าวเข้าไปสู่ยุคสังคมใหม่ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงจริงๆ

 

เพราะถ้าเรายังไม่คิดที่จะเปลี่ยน สังคมจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ยังไงล่ะ จริงไหม?

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น