รวมหนังสือ Made My Day เล่มจิ๋ว เนื้อหาแจ๋ว อ่านสนุก พกไปอ่านได้ทุกที่

avatar writer
โดย : Ying
avatar writer7 เม.ย. 2565 avatar writer971
รวมหนังสือ Made My Day เล่มจิ๋ว เนื้อหาแจ๋ว อ่านสนุก พกไปอ่านได้ทุกที่


เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเปย์เป้เก็บกวาดห้องตามสไตล์คนว่าง และแน่นอนในระหว่างทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูอยู่นั้นก็จะมีหยิบหนังสือออกมาระลึกความหลังกันบ้าง เล่มนี้เขียนดี เล่มนั้นตลก เล่มที่เคยมีมันหายไปไหน แล้วเล่มโน้นมาได้ไง ซื้อมาเมื่อไหร่ ? ระหว่างที่จัดชั้นหนังสือก็เปิดอ่านเพลินๆ ไปหลายเล่ม แล้วก็ค้นพบว่าหนังสือหลายเล่มซื้อมาเพราะสร้าง Made my day ให้เปย์เป้แบบสุดๆ

เปย์เป้เลยคัดมาให้เล่มไหนบ้างที่จัดว่าเป็นความผ่อนคลายระหว่างวัน เล่มไหนกันที่สร้างไอเดีย สร้างจินตนาการให้เรา แล้วเล่มไหนที่อ่านแล้วชวนขบคิด แล้วเล่มไหนกันที่ไม่ว่าจะกลับมาอ่านอีกกี่รอบก็ยังสนุกไม่มีเบื่อ ที่สำคัญเนื้อเรื่องก็อ่านง่าย อ่านเพลิน ไม่เครียด เหมาะกับทุกคน ใครๆ ก็อ่านได้ รับรองว่าทั้งสนุก มีสาระ เล่มเล็กพกง่าย อยากอ่านเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหา จะพกไปอ่านระหว่างทริปเที่ยวทะเลก็ได้  ร้านอาหารก็ดี อ่านระหว่างรอแม่เม้าท์มอยกับคุณป้าตอนจ่ายตลาดก็เก๋กู๊ดไปเลย !


 

ถึงเล่มจะเล็ก แต่เนื้อหาเด็ดแน่นอน 
📓 📒 📕 

 

 

PARIS in PAIRS ( ปารีสบนดาวดวงอื่น )

 

เริ่มที่เล่มเล็กสีแดง เนื้อหาของเล่มนี้เป็นการปรุงแต่งขึ้นมาโดยนักเขียนที่ใช้เวลาพักผ่อนที่ปารีส 10 วัน โดยการปรุงแต่งนี้เป็นการนำผู้คนและสิ่งที่นักเขียนพบเจอระหว่างวันมาแต่งเติมใส่เรื่องราวเข้าไปตามจินตนาการของเธอ การนำเสนอเรื่องราวจะมาในรูปแบบเรื่องสั้น 13 เรื่อง แต่ละเรื่องแอบมีจุดที่เชื่อมโยงกันอยู่ ถึงจะเป็นเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้นมา แต่ตัวหนังสือก็ยังบอกเล่าถึงความเป็นปารีสได้ดีทั้งบรรยากาศและผู้คน

 

เล่มนี้เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้ฉูดฉาดมากมาย แต่อ่านเพลินและสบายสมอง อ่านเรื่อยๆ เผลอแป๊บเดียวก็จบเล่มซะงั้น อีกทั้งตัวหนังสือยังมีแนบรูปถ่ายเมืองปารีสเข้าไปด้วย ทำให้เวลาอ่านยิ่งสบายตามากขึ้นไปอีก

 

INTERN CHEF ( บันทึกไม่ลับ ฉบับนักศึกษาวิชาอาหาร )

 

ว่าด้วยการไปฝึกงานที่โรงแรมในปารีสของ 2 นักศึกษาวิชาอาหาร ผู้เขียนนำมาถ่ายทอดได้สนุก และตลก ความโรงแรมตั้งอยู่ในเมืองห่างไกลของปารีส (ปารีสอีกแล้ว) ความเจ้าของโรงแรมผู้รับงานซ้อน รับงานโหดเหมือนโกรธเชฟ ความจัดเทศกาลอาหารไทยในโรงแรม ลองจัดเล่นๆ แต่เหนื่อยจริง ความเชฟใหญ่ผู้ใจดีและความมืออาชีพของเขา ความต้องจำชื่อไอศกรีมทุกรสให้แม่น อะไรที่เป็นความบันเทิงเล่มนี้มีหมด อีกทั้งยังได้เห็นถึงการทำงานที่เป็นระบบเป็นมืออาชีพของเชฟโรงแรมที่เปย์เป้ก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเชฟตามโรงแรมนี่ก็งานหนักเอาการเหมือนกัน 

 

หนังสือเล่มนี้ต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจซื้อ ด้วยตัวเราไม่ได้ชอบทำอาหารขนาดนั้น แต่ก็ตัดสินใจซื้อมา พออ่านแล้ว เฮ้ยยย สนุก วางไม่ลงเลยแม่ อ่านรวดเดียวจบ ขำเล็กขำน้อยอยู่ในร้านกาแฟ พอเวลาเราได้อ่านประสบการณ์ของใครสักคน เราอาจจะต้องอาศัยการนึกภาพเพื่อให้เราเข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกของเขา ณ ตอนนั้น แต่เรื่องนี้เหมือนเราไป นั่งล้อมวงฟังเพื่อนเม้าท์มอย บ่นขิง บ่นข่า ซึ่งนักเขียนก็บ่นได้ดี เพราะนอกจากสนุกแล้วยังทำให้เปย์เป้รู้สึกว่าหลายๆ อย่างบนโลกใบนี้น่าสนใจและน่าลองไปหมด

 

FULL-TIME DIRECTOR , PART-TIME LOSER

 

เล่มนี้เขียนโดยหนุ่มแว่นนามว่า ธนชาติ เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวการทำงานในกองถ่ายให้เราได้อ่าน และได้เห็นขั้นตอนว่า กว่าจะมาเป็น 1 ฉากในหนัง 1 ซีนในโฆษณา และ 1 หยดน้ำตาใน MV มันยากขนาดไหน ทำไมกว่าจะได้หนังสัก 1 ฉากองค์ประกอบมันเยอะจัง ทำไมดารา/นักแสดง ถึงต้องทำอารมณ์ แล้วทำไมแค่โฆษณาสั้นๆ 1 ชิ้นใช้เวลาถ่ายกันนาาาาาน เหลือเกิน หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราเข้าใจการทำงานทั้งหมด พวกรายละเอียดยิบย่อย เช่น การจัดแสง การหาโลเคชั่น รวมไปถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำให้ธนชาติเป็นผู้แข็งแกร่งจนทุกวันนี้

 

สำหรับเล่มนี้แน่นอนว่าเล่าเรื่องได้สนุก เล่าปัญหาที่โครตใหญ่ให้เหมือนเป็นปัญหาเล็กๆ ภาษาที่ใช้เขียนทำให้คนอ่านอารมณ์ดีรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็เป็นความสนุกที่มีสาระได้เห็นความทุ่มเทของ Director ตลอดจนทีมงานทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการผลิตสื่อดีๆ มันก็ทำให้เราเห็นเลยว่ามืออาชีพจะไม่มองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อย อีกทั้งเล่มนี้ช่วยเติมเต็มความคิดของเปย์เป้ด้วยว่าความเป็นตัวเรานั้นไม่เหมือนใคร ธนชาติเองก็มีความเป็นตัวเองสูง และธนชาติก็ดึงความเป็นตัวเองออกมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ ด้วย

 

 

THE WHY CAFÉ ( คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง )

 

หนังสือเล่มนี้พูดถึงหนุ่มออฟฟิศที่เหน็ดเหนื่อยกับชีวิต เขาได้ลาพักร้อนเพื่อไปพักผ่อน แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางเขาดันขับรถหลงทางบนถนนที่ไม่รู้จัก และไปพบกับคาเฟ่ข้างทางแห่งหนึ่งชื่อว่า “ The Why Are You Hear Café ” จากที่จะเข้ามาแค่พักให้หายเหนื่อย สอบถามเส้นทาง และหาอะไรกินแก้หิวเท่านั้น แต่เรื่องกลับไม่ใช่แค่นั้น ในค่าเฟ่เขาพบกับบุคคลที่เรียกได้ว่าแปลก เมนูแปลกๆ และคำถามแปลกๆ  แต่คำถามแปลกๆ นี้แหละ ที่ทำให้ตัวเขาได้ขบคิดเกี่ยวกับความเหน็ดเหนื่อยในชีวิต

 

พอได้อ่านเล่มนี้บอกเลยไม่ใช่แค่จอห์นหรอกที่รู้สึกแปลกตัวเปย์เป้เองก็รู้สึกแปลก มันเป็นความรู้สึกแปลกที่เหมือนไฟฟ้าช็อตในสมองเบาๆ รู้สึกตื่นตัวกับคำถาม 3 ข้อที่ผู้เขียนนำมาเสนอ และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้อ่านหน้าถัดไป อยากติดตามว่าคำตอบมันจะเป็นอย่างไร หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนเล่าออกมาอย่างกระชับรวดเร็วเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความยืดยาว เล่มนี้ก็เช่นเคยเปย์เป้อ่านรวดเดียวจบ และช่วงเวลาครึ่งวันหลังจากอ่านจบเปย์เป้ก็นั่งคิดตามคำถามในหนังสือ คิดถึงบทเรียนจากเรื่องเต่าตนุบทเรียนที่สอนว่า อย่าเสียพลังงานไปกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายในชีวิต

 

 

THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO

 

หนังสือรวมเรื่องสั้น 25 เรื่อง ภายในหนังสือเล่มเล็กขนาดกว้าง x ยาว เพียงแค่ 10.5 X 18 เซนติเมตร และหนาแค่ 1.5 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้หนังสือเล่มนี้พกง่ายสุด และด้วยความที่เป็นเรื่องสั้นก็ยิ่งอ่านง่ายเข้าไปอีก เล่มนี้นักเขียนยกทุกเรื่องรอบตัวมาเขียนทุกเรื่องจริงๆ ที่เราพอจะคิดออก หยิบมาเขียนมาแต่งเพิ่มแล้วแต่งได้ลงตัวด้วย ที่สำคัญ มีทุกอารมณ์ ทั้ง ตลก เศร้า เหงา จิกกัด เรียกว่าเล่มนี้อ่ะ มีครบ !

 

อีกหนึ่งหนังสือ Made My Day สำหรับเปย์เป้ อ่านเพลิน เนื้อหาย่อยง่าย สิ่งตกค้างหลังอ่านเสร็จคือรอยยิ้ม จำได้ว่าตอนนั้นเปย์เป้หยิบเล่มนี้มาอ่านบนรถไฟฟ้าระหว่างเดินทางกลับบ้าน มีหลายครั้งเลยที่หัวเราะออกมาเบาๆ จนคนข้างๆ หันมามอง หนังสือปรุงแต่งได้พอดี บางครั้งก็มีการหักมุมเล็กน้อยให้พอได้ตกใจ  เนื้อหาบางตอนอาจจะมีเหงาๆ เศร้าๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดึงอารมณ์เราให้จมดิ่ง รับรองว่าเพื่อนๆ สามารถหาความบรรเทิง เบาสมอง จากหนังสือเล่มนี้ได้แน่นอน

 

 

LOST AND FOUND ( ตัวตนที่หล่นหาย ปารากวัยหาเจอ )

 

เล่มนี้เป็นหนังสือที่นำมาตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง อาจจะดูหนาไปสักนิดเมื่อเทียบกับเล่มอื่นๆ ก่อนหน้า แต่รับรองว่ายังคงคอนเซ็ปต์ พกง่าย อ่านง่าย เข้าใจง่าย ได้สาระกลับมาแน่นอน หนังสือพูดถึงเด็กชายวัย 16 ที่ไม่ชอบชีวิตของตัวเองเอามากๆ เขาได้ลุกขึ้นมาพาตัวเองออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ โดยเขาสอบเข้าร่วมโครงการ AFS และสุดท้ายเขาก็ได้ออกเดินทางไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศปารากวัย ได้เจอ Host Family ที่มีลูกอยู่แล้วถึง 5 คน ได้อยู่ในสังคมใหม่โรงเรียนใหม่ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน ได้ใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกได้ว่าปารากวัยทำให้เขารู้จักตัวเองจริงๆ

 

หนังสือเล่มนี้เล่าความทรงจำออกมาได้ชัดเจนจนเรานึกภาพตามได้ ว่าประเทศปารากวัยเป็นอย่างไร เพราะในเล่มไม่เพียงแต่เล่าเรื่องการเรียนเท่านั้น แต่เล่าไปถึงบ้านเมือง ประเพณีวัฒนธรรม เทศกาลต่างๆ ของชาวปารากวัย และที่สำคัญเปย์เป้ซื้อเล่มนี้มาเพราะข้อความข้างหลังบอกเอาไว้ว่า “ เรื่องจริงที่ต้องอ่าน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่พอใจกับชีวิตตนเอง ” เราจะเห็นว่าผู้เขียนเปลี่ยนตัวเองแบบก้าวกระโดดดึงตัวเองออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ เขาไม่ได้เป็นแค่เด็กอายุ 16 ที่มีเป้าหมายอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเหมือนกับอีกหลายๆ คน แต่เขาเป็นเด็กอายุ 16 ที่กล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาทำเป้าหมายให้เป็นจริง  เปย์เป้เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้สามารถสร้างพลังให้กับหลายๆ คนได้แน่นอน 

 



หนังสือแต่ละเล่มก็จะให้ประโยชน์กับเราแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเล่มเล็กเล่มใหญ่ บางเล่มให้ความรู้ บางเล่มให้พลังใจ บางเล่มให้ความสนุกผ่อนคลาย เปย์เป้เชื่อว่าต่อให้หนังสือเล่มที่เราอ่านจะไม่ใช่ Top 10 Best Seller ของร้าน หรือไม่ใช่หนังสือที่อยู่ในกระแสตาม Social Media แต่ทุกครั้งที่เราอ่านจบ เราก็ได้อะไรดีๆ จากหนังสือแน่นอน มีคำกล่าวว่า “ ต่อให้เป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุด  ก็ยังให้บทเรียนที่มีค่ากับเราได้ หนังสือก็เช่นกัน ” ท้ายนี้หนังสือแต่ละเล่มที่เปย์เป้นำเสนอไปนั้นยังคงหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือจะสั่งซื้อทางออนไลน์ก็สะดวกดีเช่นกันนะฮะ

 

 

  • avatar writer
    โดย Ying
    ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨
แสดงความคิดเห็น