ได้เวลา ‘จัดบ้านเปลี่ยนชีวิต’ เมื่อทฤษฎีการจัดบ้านส่งผลทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น
โดย : imnat
การจุดประกายความสุขในโลก เริ่มต้นด้วยการจัดระเบียบ
- มาริเอะ คนโด -
หลังจากที่เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตมาอยู่ติดกับบ้านมากขึ้น บางคนอาจจะมีความรู้สึกว่า สถานที่แห่งนี้มันเคยเป็นบ้านไม่ใช่ที่ทำงาน เลยทำให้ต้องจัดหาพื้นที่เฉพาะกิจมาไว้ใช้สำหรับทำงานกันอย่างเร่งด่วน ส่วนบางคนอยู่แต่บ้านมันก็เบื่อๆ เลยลุกขึ้นมาจัดตรงโน้นที ตรงนี้ที ส่งผลทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง ประจวบกับล่าสุดที่แอดมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ที่ถูกนำมาฉายอีกครั้งใน Netflix ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่พูดถึงการจัดระเบียบบ้านอยู่ค่อนข้างเยอะ มันเลยกลายเป็นความสงสัยที่ว่า การจัดระเบียบบ้านจะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนๆ นึงได้จริงเหรอ? ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน
บ้านคือวิมานของเรา
เหตุผลสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือความสำคัญของบ้าน อย่างคำกล่าวที่เรามักจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ‘บ้านคือวิมานของเรา’ คำกล่าวนี้เห็นว่าท่าจะจริง เพราะว่าบ้านคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ บ้านเป็นเสมือนศูนย์รวมความสุข ความสบายใจ ความรัก ความอบอุ่น หรือแม้กระทั่งความทรงจำ ถ้าจะให้พูดว่าบ้านนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเห็นทีจะไม่ปฏิเสธ ดังนั้นการที่เราจะลุกขึ้นมาดูแล และให้ความใส่ใจต่อปัจจัยนี้มันจึงไม่แปลก แถมผลพลอยได้อาจจะทำให้บรรยากาศโดยรวมภายในบ้านนั้นดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้
ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว
ผู้ที่ทำให้เกิดประโยควรรคทองนี้ขึ้นมาก็คือ มาริเอะ คนโด ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบ้านอันดับหนึ่งของโลก และถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยไป ทฤษฏีที่น่าสนใจของมาริเอะก็มักจะถูกหยิบมาใช้และพูดถึงกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทฤษฎีที่น่าสนใจนี้มีเทคนิคที่เรียกว่า คอนมาริ ซึ่งคอนมาริคือวิธีการในการจัดเก็บข้าวของต่างๆ โดยที่เราสามารถจำแนกออกมาได้เป็น 5 หมวด ได้แก่ เสื้อผ้า, หนังสือ, เอกสาร, ของจุกจิก รวมไปถึงของที่มีคุณค่าทางจิตใจ โดยที่ทุกหมวดนั้นจะมีวิธีการในการจัดเก็บที่เหมือนกันนั่นก็คือ การคัดเลือกของ การทิ้งของ และการจัดเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง
ทฤษฎีของมาริเอะมีสิ่งที่เรียกว่าจิตวิทยารองรับอยู่ นั่นแปลว่านอกจากเราจะสังเกตเห็นผลในแง่ของความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เรายังจะเห็นผลในด้านของความคิดและทัศนคติต่อความเป็นบ้านที่ต่างออกไปจากเดิม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มาริเอะพยายามจะสื่อสารมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอออกหนังสือที่มีชื่อว่า "ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว" ในปี พ.ศ. 2557 ก่อนนิตยสารชื่อดังระดับโลกอย่าง TIME จะยกย่องให้เธอเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปีต่อมา
สิ่งสำคัญที่สุดของทฤษฎีคือการ Spark Joy
ใครที่เคยชมภาพยนตร์เรื่องฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ กันมาก่อน คงจะพอคุ้นๆ กับคำว่า Spark Joy กันมาบ้าง ซึ่งจะบอกว่ามาริเอะได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า Spark Joy นี้มากๆ ถ้าพูดกันในภาษาที่เข้าใจง่ายๆ Spark Joy คือสิ่งที่ปลุกพลังความสุขให้เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อถูกนำมารวมไว้กับการจัดระเบียบบ้าน Spark Joy ก็หมายถึงข้าวของบางอย่าง เสื้อผ้าบางตัว หรือหนังสือบางเล่มที่ทุกครั้งเมื่อเราเห็น เราจะสัมผัสได้ถึงพลังของความสุขที่ซ่อนอยู่ โดยมาริเอะได้แนะนำวิธีง่ายๆ คือให้เราหยิบของชิ้นหนึ่งมาถือไว้ตรงหน้า ถ้าเรารู้สึกพิเศษกับมัน หรือสัมผัสได้ถึงความสุขจากสิ่งๆ นั้นเราถึงค่อยเก็บ ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่รู้สึกอะไรเราก็สามารถทิ้งมันไปได้เลย โดยที่จะต้องไม่ลืมขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่เราเคยมีร่วมกับของชิ้นนั้นกันก่อนด้วย
สำหรับแนวคิด Spark Joy นี้ มาริเอะเชื่อว่าการที่บ้านของเราเต็มไปด้วยข้าวของที่ปลุกพลังในแง่บวก มันจะยิ่งทำให้บ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยพลังแห่งความสุข ซึ่งเราจะสามารถสัมผัสกันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือจัดระเบียบบ้านเลยแหละ
ข้าวของที่เราครอบครอง ล้วนเป็นผลมาจากการตัดสินใจตลอดทั้งชีวิตของเรา
การจัดบ้านจึงช่วยให้มองเห็น ว่าจริงๆ แล้วเราชอบอะไรกันแน่
สำหรับขั้นตอนการจัดระเบียบบ้านตามเทคนิคของมาริเอะ คนโด หรือที่เรียกว่าคอนมารินั้นมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน โดยที่เราจะต้องเริ่มทำไปทีละส่วน อันได้แก่
• จัดบ้านตามหมวดหมู่ - โดยปกติเราอาจจะคุ้นชินกับการจัดเก็บบ้านไปทีละห้อง แต่ทฤษฎีของมาริเอะนั้นให้เลือกทำตามหมวดหมู่ของสิ่งของ ได้แก่ เสื้อผ้า, หนังสือ, เอกสาร, ของจิปาถะ ก่อนไปสิ้นสุดที่ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ตามห้องไหน หรือมุมใด เราสามารถจัดการจัดระเบียบพร้อมกันทีเดียวได้เลย
• รวบรวมของไว้รวมกัน - ขั้นตอนนี้เราจะต้องทำการนำเอาข้าวของทั้งหมด (ทีละหมวดหมู่) มากองรวมกันในที่ๆ เดียว โดยจะต้องทำการจัดวางอย่างเป็นระเบียบเท่าที่จะทำได้ และหลีกเลี่ยงการโยนหรือขว้างข้าวของชิ้นนั้น
• เลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่ Spark Joy - เมื่อเราจัดการนำของมากองรวมกันเรียบร้อยแล้วให้เราทำการหยิบของเหล่านั้นขึ้นมาทีละหนึ่งชิ้น แล้วใช้สิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกพิเศษหรือ Spark Joy ในการคัดเลือกสิ่งที่ใช่เก็บไว้ แล้วขอบคุณสิ่งที่ไม่ใช่ก่อนจะนำมันไปทิ้ง
• ห้ามเสียดายเด็ดขาด - ขั้นตอนนี้ดูเหมือนจะยากสำหรับของในหมวดสุดท้ายอย่าง ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งมาริเอะแนะนำว่าให้เราเริ่มต้นจากเสื้อผ้าแล้วค่อยๆ ไล่ไปที่ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ เพราะถ้าเราได้ใช้วิธีค้นหาสิ่งที่ใช่มาแล้วถึง 4 หมวด มันจะยิ่งช่วยทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในหมวดสุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุดคือการพึงระลึกไว้อยู่เสมอว่าอะไรที่ไม่ใช่ และไม่ได้ให้ความรู้สึกสบายใจ เราก็ไม่ควรที่จะเก็บมันเอาไว้ ของชิ้นไหนที่ทำให้เราไม่มีความสุข ห้ามเสียดายมันเด็ดขาด!
• ตัวช่วยเสริมนั่นก็คือกล่อง - สำหรับเสื้อผ้าหรือของชิ้นใหญ่ๆ อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่สำหรับข้าวของจิปาถะชิ้นเล็กๆ นั้น เราสามารถเลือกใช้กล่องในการจัดเก็บเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ มาริเอะแนะนำให้เลือกเป็นกล่องขนาดกำลังพอดีสักหนึ่งใบ ก่อนจะเสริมด้วยกล่องใบเล็กๆ ที่จะช่วยแยกข้าวของทุกอย่างออกจากกันอีกที วิธีนี้นอกจากจะเพื่อความเป็นระเบียบแล้วมันยังจะทำให้เราหาของเจอได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
บทพิสูจน์ การจัดบ้านช่วยเปลี่ยนชีวิตของพวกเราทุกคนได้
หลังจากมาริเอะปล่อยหนังสือเกี่ยวกับการจัดบ้านในฐานะนักเขียนออกมา เธอก็ได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับการจัดระเบียบบ้านให้เป็นไปในทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้น สังเกตจากหลายคนที่ได้เสพผลงานของเธอมีการหันมาจัดเก็บข้าวของต่างๆ ภายในบ้าน ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับเรานั่นแปลว่าได้ผล ซึ่งล่าสุดมาริเอะก็ได้ออกผลงานกับทาง Netflix กับรายการที่มีชื่อว่า Tidying Up with Marie Kondo (ซีซั่นแรกมีทั้งหมด 8 ตอน สามารถหาดูกันได้แล้ว) โดยรายการนี้มาริเอะจะทำการออกเดินทางไปให้คำแนะนำพร้อมกับช่วยจัดบ้านให้กับครอบครัวหลายครอบครัว ซึ่งมีตั้งแต่ครอบครัวใหญ่, คู่รักที่กำลังสร้างครอบครัว, คู่รักสูงวัย, คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว รวมไปถึงคู่รัก LGBT ซึ่งในรายการเราจะได้เห็นมุมมองการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัวกันตั้งแต่เริ่ม ไปจนกระทั่งได้รู้จักกับวิธีการจัดระเบียบบ้านใหม่ โดยที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างกันได้จริงๆ หลังจากที่ได้ดู
ผลลัพธ์ที่ได้การจัดระเบียบบ้านนอกจากความเป็นระเบียบแล้ว เราจะสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ดีขึ้น บรรยากาศที่ดีขึ้น การเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวพูดคุยและให้ความสนใจกันมากขึ้น ซึ่งนี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้จากสิ่งที่เรียกว่าการจัดบ้านที่เราอาจคาดไม่ถึง! และถึงแม้ว่าทุกคนอาจจะยังไม่ได้สนใจการจัดระเบียบบ้านกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามีเวลาว่างแอดแนะนำให้ลองชมรายการนี้ทาง Netflix กันดู รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินและสัมผัสได้ถึงความ Spark Joy จนมีความคิดที่อยากจะจัดบ้านกันขึ้นมาเลย
ปันโปรสรุปให้
• บ้านคือวิมานของพวกเราทุกคน ยิ่งช่วงนี้เราจะต้องใช้เวลาทำงานอยู่ที่บ้านซะเป็นส่วนใหญ่ ลองหาเวลามาจัดบ้านโดยใช้ทฤษฎีของมาริเอะ คนโด กันดูไหม รับรองว่าแค่จัดบ้านครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้จริงๆ
• หลักการจัดบ้านของมาริเอะคือการให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า Spark Joy ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เรามีความสุข สร้างพลังบวก รวมถึงสร้างบรรยากาศดีๆ ให้เกิดขึ้นภายในบ้าน โดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องจับทุกอย่างยัดลงถุงดำเหมือนอย่างที่จีน ตัวละครจากฮาวทูทิ้งทำ แต่เป็นการเปลี่ยนมาพิจารณาของแต่ละชิ้นทีละอย่าง สิ่งไหนใช่ก็เก็บไว้ สิ่งไหนไม่ใช่ก็แค่ขอบคุณแล้วทิ้งมันไป
• สำหรับใครที่อยากรู้จักมาริเอะ คนโด กันให้มากขึ้นสามารถไปติดตามผลงานของเธอได้ในรูปแบบของหนังสือ รวมไปถึงรายการทาง Netflix อย่าง Tidying Up with Marie Kondo แล้วหวังว่าทุกคนจะหาสิ่งที่ Spark Joy ของตัวเองกันได้นะ
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)