Lazy Consumer ธุรกิจเพื่อคนขี้เกียจ โอกาสเติบโตเพียบ!
โดย : Master
Lazy Consumer ธุรกิจเพื่อคนขี้เกียจ จะทำให้ "รวย" ได้ไม่รู้ตัววว 💲
ลองมาเจาะลึก 5 ธุรกิจที่น่าลงทุน
รวยได้ง่ายๆ จะรออะไร
อยากรวยไม่ต้องรอหวยแล้ว โลกเปลี่ยนไปทุกวันแต่ความขี้เกียจยังอยู่เหมือนเดิมจ้า ใจเย็นค่ะอย่าไปซีเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ถ้าจะเอามาใช้ประโยชน์ก็ได้นะแถมสามารถทำเงินได้ด้วย ก็ไม่นานมานี้ทางวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เขาได้จัดการประชุมสัมนา ในหัวข้อ "การตลาดคนขี้เกียจ หรือ Lazy Consumer" ที่ถือเป็นหัวข้อที่แปลกแต่จริง! เขาวิจัยความขี้เกียจของคนไทยแล้วลิสต์ออกมาให้ดูแบบจริงจังถือเป็นสัญญาณดีของคนที่กำลังอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่กลัวไม่รวยไม่ปัง มาทางนี้เลยค่ะปันโปรขอเสนอธุรกิจเพื่อคนขี้เกียจไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าสินค้าและบริการเหล่านี้ ทำเงินได้จริง!
อ่ะก่อนอื่นเรามาดู 5 กิจกรรมสุดขี้เกียจ ที่คนไทยเป็นกันมากที่สุดก่อนดีกว่า
ก็โลกนี้มันหมุนไวเหลือเกินพี่บัวลอยยย เทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมายจะมาทำเองทุกอย่างก็ใช่เรื่องใช่ไหมคะ ยอมจ่ายอีกนิดเพื่อความสะดวกสบายก็ถือว่าคุ้มนะ แล้วชีวิตของคนขี้เกียจยังอยากได้สินค้าหรือบริการแบบไหนอีกบ้างก็ต้องมาดูค่ะ ว่าแบบไหนมนุษย์ขี้เกียจพร้อมเปย์ แบบว่าจ่ายเยอะได้แต่ฉันต้องสบาย!
1. ธุรกิจประเภท "On Demand Service" หรือ "ธุรกิจทำแทน"
เพื่อคนที่มีเงินแต่ไม่มีเวลา เช่น Line Man, Grab, Get, foodpanda หรืออื่นๆอีกมากมาย ธุรกิจนี้ทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นมากกก อยากกินอาหารร้านดังแต่ขี้เกียจต่อคิวรอสามารถใช้บริการเหล่านี้ได้ไม่ต้องไปรอเอง ขั้นตอนก็ไม่มากสะดวกสบายแบบนี้ก็ไม่แปลกที่นุษย์ขี้เกียจจะติดใจ เจ้าของธุรกิจก็รับทรัพย์กันไปเต็มๆเลยจ้าาา แต่บริการต่างๆก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกันก็ต้องอยู่ที่ความสะดวกของผู้บริโภคเองแล้วล่ะค่ะว่าเจ้าไหนตอบโจทย์ได้มากที่สุด
2. ธุรกิจแบบ "Automation" และ "Hand Free"
ธุรกิจไม่ต้องหยิบ ไม่ต้องจับ ก็ทำได้! สินค้าและบริการประเภทนี้จะสร้างความสะดวกสบายสุดๆนอนอยู่เฉยๆแล้วสั่งการอุปกรณ์ต่างๆก็ทำให้แบบไม่มีบ่น สินค้าพวกนี้มีอยู่มากมายเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นสินค้าพวกนี้อาจมาจากความเกรียนแต่ก็ถูกพัฒนาไปเรื่อยๆจนกลายเป็นสินค้าแบบจริงจัง ใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายขายได้จริงๆ รวยๆกันไปอีกจ้า
3. ธุรกิจแบบ "Ready to ..." ขั้นตอนเดียวจบๆ
อาจจจะคล้ายกับที่กล่าวมาข้างต้นแต่แบบนี้อาจจจะต้องมีลงมือทำกันบ้างแต่ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์หรือขั้นตอนอะไรมากมายแบบเดิมดีที่สุดคือมีขั้นตอนเดียวแล้วใช้ได้เลย อย่างเช่น อาหารแช่แข็ง, ชุดเมนูอาหารที่มีวัตถุดิบพร้อมปรุง, Dry Shampoo, ชานมแบบกระป๋อง, อายแชโดว์แบบปาดครั้งเดียวจบ เป็นต้น เรียกได้ว่าสินค้าแต่ละตัวมีมาเพื่อกำจัดขั้นตอนที่ยุ่งยากได้เป็นอย่างดียิ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำอยู่แล้วเป็นประจำยิ่งดี ถ้ามีสินค้าแบบนี้เยอะๆจะช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนของเราไปมากๆเลยล่ะค่ะโดยเฉพาะสาวๆ เครื่องสำอางแบบ Ready to ถ้ามีเยอะๆแอดว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นวลลล
4. ธุรกิจที่ช่วยสร้างแรงจูงใจหรือ "Community"
ข้อนี้จะแปลกแหวกแนวกว่าเพื่อนหน่อย เป็นให้สังคมเกิดแรงจูงใจไปทำกิจกรรมต่างๆที่ดี ยกตัวอย่างง่ายๆ การออกกำลังกาย กว่าที่จะออกกำลังกายได้แต่ละครั้งมันไม่ง่ายเลยว่าไหมคะแต่ก็มีการได้นำเสนอรูปแบบการออกกำลังกายแบบง่ายๆออกที่บ้านได้สบายๆก็ยังขี้เกียจอีก นอนออกกำลังกายได้ง่ายๆก็ขี้เกียจอีก ออกยากออกเย็นจนแทบจะฝันออกกำลังกายเอาไปเล้ยยย ด้วยเหตุนี้ค่ะเลยต้องมีธุรกิจที่สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกายขึ้นมา หลายเพจเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดียเพื่อเป็นผู้นำ จูงใจในเรื่องต่างๆและแน่นอนเมื่อเพจได้รับความนิยม สปอนเซอร์ก็เข้าสิจ๊ะ
5. ธุรกิจ "สร้าง Content"
เพื่อคนขี้เกียจอ่าน มีไม่น้อยเลยค่ะเห็นข้อความยาวๆแล้วเลื่อนหนี แต่รู้ไหมข้อความพวกนั้นสามารถกลายเป็นเสียงให้ฟังกันได้แบบเพลินๆมีสาระ ใช่ค่ะมันคือ Podcast คลิปเสียงบรรยายออนไลน์ฟังได้สะดวกสบายผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ไม่ต้องพกไม่ต้องจ้องนานๆ ฟังแทนเพลงได้เลยจ้าหรืออยากให้น่าสนใจกว่านั้นต้องสร้างเป็นสตอรี่ไปเลยค่ะ ยิ่งแปลกยิ่งน่าสนใจและเช่นเคยค่ะน่าสนใจก็สปอนเซอร์เข้ารวยตามๆกันไป ยิ่ง Content มีความครีเอทีฟมากเงินก็มากเช่นกันนะ
เห็นไหม "ความขี้เกียจ" ไม่ได้แย่เสมอไป ยังสามารถสร้างเศรษฐีได้เหมือนกันแต่จะถูกสร้างสรรค์ออกมาแบบไหนก็ต้องมาลุ้นกันแล้วล่ะ หวังว่าข้อมูลของปันโปรจะสร้างเศรษฐีหน้าใหม่ของเมืองไทยได้นะจ๊ะ
และสุดท้ายนี้ "ใครอยากเป็นเศรษฐี?"
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- ความขี้เกียจไม่ใช่เรื่องดีแต่ถ้านำมาผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ก็สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาลก็จะดีนะ
- เทคโนโลยีมีประโยชน์มากมายก็จริงแต่ก็ไม่ควรให้ความสำคัญเกินกว่าคนใกล้ตัวน้าาา
- การลงทุนมีความเสี่ยง คิดจะลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนจะได้ไม่พลาดกันนะคะ
-- ขอบคุณข้อมูลจาก Lazy Consumer และ Brandinside.com --
โดย Master
hello