เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท รีสอร์ตท่ามกลางธรรมชาติ สไตล์ Pool Party
โดย : MilD
เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท รีสอร์ตท่ามกลางธรรมชาติ
ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสวรรค์บนดินที่ใครๆ ก็มาพักผ่อนได้
บรรยากาศสไตล์ Pool Party เข้าพักเป็นหมู่คณะสบายๆ แฮปปี้สุด!
ราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 1,900.- เท่านั้นจ้า
หลายคนเวลาแพลนจะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือจัดกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ สำหรับคนกลุ่มใหญ่เป็นหมู่คณะ ก็จะต้องหาสถานที่ซึ่งสามารถรองรับคนจำนวนเยอะๆ และตอบโจทย์ความต้องการได้ ซึ่งบางครั้งก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทาง งบประมาณ หรือพื้นที่ต่างๆ อยู่เยอะ แต่สิ่งแรกที่จะต้องวางแผนกันก่อนเลยก็คือจะไปที่ไหนดี?
หากกำลังมองหาที่พักบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นานมาก ลองเลือกโซนแถบ "เขาใหญ่" ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย เพราะแถวนี้เป็นพื้นที่สีเขียวที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความเงียบสงบ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะว่างเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มโชคชัย, เขื่อนลำตะคอง, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, โบนันซ่า เขาใหญ่, ปาลิโอ เขาใหญ่ เลยไปอีกนิดก็สามารถเข้าตัวเมืองโคราชไปเที่ยวได้ด้วย อยากเที่ยวแบบไหนก็ตามใจ แถมยังมีตัวเลือกที่พักแบบจุกๆ จะว่าไปก็อาจจะเป็นร้อยแห่ง เลือกกันไม่ถูกเลยอ่าดิว่าจะพักที่ไหนดีน้า
ถ้านึกถึงที่พักเริดๆ บรรยากาศดีสุดเหมือนเป็นสวรรค์บนดิน ต้องมาที่นี่เลย "เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท" แค่ชื่อก็น่าจะพอรู้แล้วว่าเด็ดแค่ไหน รีสอร์ตที่เน้นความเป็นส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพันธุ์ใหม่นานาชนิด แถมยังมีลำธารธรรมชาติไหลผ่านให้ฟังเสียงน้ำไหล นั่งจิบเครื่องดื่มเพลินๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำภายในรีสอร์ตได้ตลอดทั้งวันอีกด้วยแหละ ส่วนใครที่มากลุ่มใหญ่พร้อมสนุกเต็มที่ จะจัดปาร์ตี้ริมสระน้ำส่วนตัวก็ได้!
เกริ่นมาซะขนาดนี้แล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าที่ "เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท" จะมีรูปแบบห้องพักแบบไหนให้เราเลือกบ้าง เจาะไล่กันไปทีละห้องเลย บ้านพักแต่ละห้องคือน่าอยู่ทั้งน้านนน~
Villa Heaven
Villa Heaven จะประกอบด้วยบ้านพัก 4 หลังหลัก ได้แก่ President House (บ้านประธาน), Riverside House (บ้านริเวอร์ไซด์), Waterfall House (บ้านน้ำตก) และ Fragant Wood House (บ้านไม้หอม) โดยจะมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง สามารถเล่นน้ำหรือจัดกิจกรรมกันได้เพลินสุด ถ้าเข้าพักกันเป็นกลุ่มใหญ่คนเยอะๆ ก็ปิดโซนนี้เป็น Private Zone ได้เลยนะ จะได้ความเป็นส่วนตัวแบบที่สุดเลยล่ะ
President House
ความพิเศษของบ้านประธานหลังนี้คือมีเยอะมากจ้า เริ่มจากโดยรอบนั้นจะเป็นกระจกทั้งหมด ไม่มีผ้าม่าน เรียกว่าไม่ว่าจะทำอะไรคนข้างนอกก็เห็นหมดนะจ๊ะ แต่ทำดูโปร่งโล่งสบายตา แถมยังเห็นวิวธรรมชาติภายนอกได้อีกด้วย แล้วเห็นมั้ยว่ามีบันไดขึ้นไปชั้น 2 อีกด้วย เพราะหลังนี้มีชั้นบนด้วยนะเออ ใครอยากนอนบน ใครอยากนอนล่างก็เลือกกันได้เลยน้า
Riverside House
บ้านพัก Riverside House สามารถเข้าพักได้สูงสุด 5 คน ลักษณะของบ้านพักจะเป็นแนวยาวขนานไปกับสระว่ายน้ำเลย เริ่มต้นด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะนั่งเล่นดูหนัง ร้องคาราโอเกะกับแก๊ง หรือรับประทานอาหารก็แบ่งเป็นสัดส่วนในบริเวณนี้ จากนั้นก็จะเป็นโซนของห้องนอน ต่อไปยังห้องแต่งตัว และห้องน้ำ สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้อย่างสบายๆ เลยจ้า
จากตัวบ้านพักจะมีทางเชื่อมออกมาที่ศาลาในสระว่ายน้ำด้วย จะมานั่งเล่นชิลๆ ก็ได้เลยจ้า บรรยากาศคือดีมาก
Waterfall House
เราเรียกบ้านพักหลังนี้ว่า "บ้านน้ำตก" ก็เพราะว่าบริเวณระเบียงหน้าห้องพัก จะมีน้ำตกไหลลงมายังสระว่ายน้ำอย่างสวยงาม ยิ่งตอนกลางคืนเปิดไฟก็คือสวยงามสุดอะ สำหรับบ้านน้ำตกจะสามารถพักได้ 3 คน เต็มที่คือ 4 คนก็ได้อยู่จ้า
Villa Petrichor
หลังจากที่เราดูโซน Paradise Villa 1 แล้ว ก็ยังมี Paradise Villa 2 ให้เลือกพักได้อีกด้วยนะ ซึ่งประกอบด้วย Scenic House, Cascade House และ Freshome อีก 5 ห้อง รวมจำนวนคนที่สามารถเข้าพักในโซนนี้ได้ เอาแบบเต็มที่สุดๆ ก็ประมาณ 30 คนจ้า บ้านพักทั้งหมดจะอยู่ในโซนเดียวกันเลย ถ้าหากมากันเป็นแก๊งใหญ่ก็สามารถปิดโซนนี้ได้จ้า ก็จะมีความเป็นส่วนตัวสูงเลยล่ะ
Scenic House
บ้านพัก Scenic House สามารถเข้าพักได้สูงสุดถึง 8 คน แบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง พักได้ห้องละ 4 คน โดยมีพื้นที่ส่วนกลาง สามารถเพลิดเพลินและบันเทิงได้อย่างเต็มที่ ใครชอบร้องคาราโอเกะต้องเลิฟแน่นอน จะเปิดยูทูปร้องเพลงแค่ไหนก็ได้เลย
Cascade House
สามารถเข้าพักได้สูงสุด 7 คน โดยจะอยู่ตั้งใกล้กับ Scenic House จะมีพื้นที่ส่วนกลาง และแยกเป็น 2 ห้องนอนคล้ายๆ กันเลยน้า ตกแต่งในลักษณะธีมเดียวกัน มาเข้าพักเป็นหมู่คณะคือเหมาะสุดๆ ไปเลยจ้า แถมด้านหน้าห้องพักยังมีน้ำตกอีกด้วย ได้ยินเสียงน้ำไหลใจก็พองโตแล้ว 55
Freshome
ห้องพักแบบ Freshome จะมีทั้งหมด 5 ห้อง สามารถเข้าพักได้ห้องละ 2 คน หรือจะเพิ่มเตียงเสริมเป็นสูงสุด 3 คนก็ได้จ้า จะเห็นว่าการตกแต่งและรูปแบบห้องมีความโมเดิร์นอยู่นะเออ แถมยังอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวรอบด้านเลย ตอนเช้าจะออกมานั่งชิลๆ เงียบๆ ก็ได้อยู่ ขออินกับธรรมชาติหน่อย
Villa Filicity
ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวแบบสูงสุด ก็ต้องเลือกนี่เลย "Villa Filicity" เพราะบ้านพักจะแยกออกมาจากตัวรีสอร์ตเลย เป็นบ้านขนาด 2 ชั้น สามารถเข้าพักได้สูงสุดถึง 10 คนแบบเหลือๆ พื้นที่ใช้สอยเยอะมากจ้า แถมบรรยากาศก็เริดมาก แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้เล่นกับเพื่อนๆ ได้เต็มที่ไปเลย
วิวตรงนี้คือนึกว่าอยู่ต่างประเทศยังไงยังงั้นเลย ต้องแชะภาพสวยๆ ซะหน่อย
Garden Home
โซนนี้จะเป็น Garden Home ห้องพักอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวขจี ออกจากห้องพักมาก็คือเจอเลย ธรรมชาติได้อีก เป็นห้องพักจำนวน 3 ห้องอยู่ติดกัน ขนาดห้องกำลังดีเลย เน้นโทนสีขาว เพื่อให้รู้สึกสบายตา สบายอารมณ์จ้า
กิจกรรมภายในรีสอร์ต มีให้เลือกทำมากมายเลย
หลังจากที่เราดูบ้านพักแต่ละแบบมากันจนครบหมดแล้ว เชื่อว่าจะต้องมีที่ถูกใจแน่นอนแหละ คราวนี้ก็มาถึงกิจกรรมที่เราสามารถเลือกทำได้ที่นี่กันบ้าง เธอเห็นลำธารนั่นไหม คือเป็นสายน้ำธรรมชาติเลย ที่นี่แหละเราจะเลือกพายเรือคายัค เล่นแทรมโพลีน หรือลงเล่นน้ำก็ได้หมดเลยจ้า ใช้เวลาเพลินๆ ได้เท่าที่ต้องการเลยล่ะ แต่อย่าลืมช่วยกันรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบนี้ด้วยน้า
"อาหารเย็น" เต็มอิ่มมากๆ ใน "บรรยากาศยามค่ำคืน" คือดีย์งาม
ทำกิจกรรมเหนื่อยมาตลอดทั้งวันแล้ว ก็ต้องเติมพลังด้วยอาหารเย็นมื้อใหญ่กันหน่อยแล้ว ซึ่งที่นี่เราสามารถสั่งอาหารเย็นมารับประทานได้ รวมถึงสั่งบาร์บีคิวมาปิ้งทานยามค่ำคืนแบบนี้ได้เลยจ้า มาถึงรีสอร์ตบรรยากาศดีขนาดนี้ก็ต้องจัดซะหน่อย ยิ่งทานคู่กับเครื่องดื่มด้วยแล้ว บอกเลยว่าดีงามสุดค่ะพี่แอนนา
หลังจากที่เราได้เห็นบรรยากาศของรีสอร์ตในช่วงกลางวันไปแล้ว แอบมาส่องในช่วงยามค่ำคืนกันบ้าง ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไฟสีเหลืองสลัวๆ มันช่างได้ฟิลซะเหลือเกินอ่าาา สระว่ายน้ำเปิดไฟแล้วน่าเล่นได้อีก
"อาหารเช้า" จัดเต็มสำหรับทุกคน
เติมเต็มเช้าอันแสนสดใส ด้วยไลน์อาหารบุฟเฟต์ตอนเช้าของทางรีสอร์ตกันดีกว่าจ้า เพราะที่นี่เค้าจัดให้แบบเต็มอิ่ม ทั้งเมนูอาหารไทย ไข่ดาว ขนมปัง สลัด ผลไม้ เครื่องดื่ม กาแฟ ทานกันได้แบบไม่อั้นเลย เพราะรู้ว่ามื้อเช้านี่แหละสำคัญที่สุด เลือกทานกันได้แบบแฮปปี้มากจ้า ถึงจะมาสายนิดนึงก็ยังได้ทานอยู่นะ เข้าใจว่าเมื่อคืนอาจจะดึก 555
ตอนเช้าก็จะกินได้เยอะหน่อยแบบนี้แหละ แต่บอกเลยว่ากินหมดนะจ๊ะ เพราะต้องใช้พลังงานเยอะมากจ้า
นั่งจิบกาแฟชิลๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ
บรรยากาศดีๆ แบบนี้ก็ต้องมีเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นกันหน่อย ซึ่งที่นี่มีคาเฟ่ของตัวเองเลย สามารถเลือกสั่งเมนูโปรดได้ กาแฟที่นี่คือเข้มถูกใจมาก และยังมีเมนูเด่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Purple Blink Italian Soda, Blood Orange Italian Soda และ Bananapresso ส่วนตัวแอดเลิฟชาเป็นพิเศษก็คือชอบสุด ต้องมาลองให้ได้เลยนะแกรรร
ทางรีสอร์ตเปิดให้เช็คอินเวลา 14.00 น. และเช็คเอ้าท์เวลา 12.00 น. นาจา และหลังจากที่ได้เห็นรีวิวแบบจัดเต็มขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงสนใจอยากมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้อย่างแน่นอน เพื่อนๆ สามารถติดต่อเพื่อจองห้องพักที่ "เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท" ได้หลากหลายช่องทางตามนี้เลยจ้าาา~
• โทรศัพท์ : 081-918-1212, 086-013-6464 หรือ 044-002-244 (เวลา 10.00-17.30 น.)
• LINE : @Khaoyai_paradise
• เว็บไซต์ : https://www.khaoyaiparadise.com
• อีเมล : [email protected] หรือ [email protected]
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook ของเขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท ได้ที่ http://bit.ly/39T26KZ
🌈 สรุปให้ก่อนไปเที่ยว 🌈
• เขาใหญ่ พาราไดซ์ ออนเอิร์ท เป็นรีสอร์ตที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง ความเขียวอยู่รอบตัวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเลือกมาพักผ่อนแบบชิลๆ ท่ามกลางธรรมชาติเงียบสงบ หรือจะมาปาร์ตี้สังสรรค์เป็นแก๊งใหญ่ก็จัดให้ได้หมด!
• ห้องพักมีหลากหลายรูปแบบ เข้าพักได้ตั้งแต่ 2-10 คนเลยนะ ถ้ามาเป็นหมู่คณะคนเยอะๆ ก็ไม่มีหวั่นจ้า สามารถปิดโซนแบบ Private ได้เลย แถมมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้เพลิดเพลินกันได้เต็มที่ไปเลยจ้าาา~
• ภายในรีสอร์ตมีกิจกรรมให้เลือกทำได้ตามความชอบเลย ถ้าอยากแอดเวนเจอร์หน่อยก็มี อยากพักผ่อนชิลๆ ก็เลือกมุมนั่งพักสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้แบบเพลินมาก จะจัดกิจกรรมภายในรีสอร์ตก็ทำได้สบาย
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3