'เก็บตัว ปิดกั้น ไม่น่าคบหา' ว่ากันว่าชาว Introvert เป็นแบบนี้จริงหรอ ?

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer22 ก.พ. 2565 avatar writer3.7 K
'เก็บตัว ปิดกั้น ไม่น่าคบหา' ว่ากันว่าชาว Introvert เป็นแบบนี้จริงหรอ ?

 

ถ้าพูดถึงคน Introvert

เพื่อน ๆ จะนึกถึงคนแบบไหนกันบ้าง ?

 

นึกถึงคนที่พูดน้อย ไม่เข้าสังคม ไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดูสนุกสนาน หรือดูไม่น่าเข้าหากันอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่... ได้เวลาทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้ใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วชาว Introvert ไม่ได้ดูน่ากลัว หรือตั้งท่าว่าจะปฏิเสธทุกอย่างขนาดนั้น แม้เราจะดูเหมือนปิดกั้น แต่ทว่าลึก ๆ แล้ว เราไม่ได้ปิดกั้นกับทุกอย่างขนาดนั้นนะ !

 


 

 

สวัสดี 'เรา Introvert' และนี่คือเรื่องราวของเรา 😊 

 

ปกติแล้วเวลาที่เราได้ยินคำว่า Introvert มักจะมาควบคู่กันกับคำว่า Extrovert ซึ่งทั้ง 2 คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียก บุคลิกภาพของมนุษย์  โดยอ้างอิงจากปฏิกริยาภายนอกที่มนุษย์แสดงออกต่อสิ่งเร้ารอบตัว ซึ่งข้อดีของการรู้จักและเข้าใจบุคลิกภาพต่าง ๆ นี้จะทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม รวมถึงเข้าใจผู้อื่นได้ และจากบุคลิกทั้ง 2 แบบนี้ เปย์เป้ว่าบุคลิกภาพที่น่าจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีที่สุดน่าจะเป็นคนที่มีบุคลิกแบบ Extrovert เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่กล้าแสดงออก มีความรู้สึกสบายใจทุกครั้งเวลาที่ต้องเข้าสังคม ได้เจอกลุ่มคนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยได้โดยที่ไม่อึดอัด

 

ผิดกันกับคนที่มีบุคลิกภาพแบบ Introvert ที่มักจะเก็บตัว เข้าสังคมไม่เก่ง ค่อนไปทางปฏิเสธการเข้าสังคม คนกลุ่มนี้เลยมักจะแสดงออกถึงความอึดอัดได้อย่างชัดเจนเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย เจอคนแปลกหน้า หรือถูกบังคับให้ทำอะไรที่พวกเค้ารู้สึกไม่สะดวกใจ ดังนั้นการที่เรารู้จักกับคนที่มีบุคลิกภาพทั้ง 2 แบบนี้จะทำให้เราเข้าใจความเป็นมนุษย์ และสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับคนประเภทต่าง ๆ ได้ แบบไม่ถึงกับต้องดีที่สุด แต่แค่เราเข้าใจคนกลุ่มนั้นได้มากที่สุดก็พอ

 

ซึ่งบุคลิกภาพทั้ง 2 แบบนี้ได้ถูกพัฒนาต่อยอดมาเป็นบุคลิกภาพอีกหลายอย่าง หรือที่เราเรียกกันว่า MBTI ซึ่งถ้าเรารู้จักบุคลิกภาพแบบลึกซึ้งของตัวเองไปอีกขั้น จะยิ่งทำให้เราเข้าใจความเป็นตัวเรา รวมถึงคนรอบตัวได้มากขึ้น เพราะเรื่องของบุคลิกภาพนั้นเป็นอะไรที่ซับซ้อนนอกจากจะเป็นเรื่องของภายนอกแล้ว มันยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดที่อยู่ข้างใน ที่ไม่ได้แสดงออกมาเวลาที่เราพบเห็น หรือพูดคุยกับคน ๆ นึงอย่างแน่นอน

 

อย่างในมุมของเปย์เป้นั้นมองว่า คนที่มีบุคลิกภาพแบบ Introvert เป็นคนที่มีความน่าค้นหามาก เพราะคนกลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่แสดงออกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด หรือรู้สึกอยู่ออกมาโต้ง ๆ แต่เมื่อได้อยู่รายล้อมกับคนรอบข้าง เราจะสามารถจับจุดกันได้ว่าคน Introvert คนนี้กำลังมีความอึดอัดหรือรู้สึกไม่สบายใจอยู่ สวนทางกับคนที่มีบุคลิกภาพแบบ Extrovert ที่มักจะเป็นที่รักของคนรอบตัว เนื่องจากว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่ถนัดและช่ำชองในเรื่องของการเข้าสังคม รู้จักวิธีการผูกมิตร การตีซี้กับเพื่อนใหม่ สังคมคือความท้าทายที่น่าไขว้คว้า

 

ซึ่งถ้าถามว่าเปย์เป้เป็นประชากรกลุ่มไหน เปย์เป้ขอตอบแบบภาคภูมิใจว่าเป้เป็นหนึ่งในชาว Introvert นะจ๊ะ  และไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เปย์เป้เลยอยากให้เพื่อน ๆ ที่อาจจะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจชาว Introvert ลองเปิดใจและทำความรู้จักพวกเรากันดูสักนิด แล้วทุกคนจะรู้ว่า ประชากรชาว Introvert อย่างเราไม่ได้เลวร้าย หรือปฏิเสธโลกภายนอกเสมอไปนะ 😍 

 


 

 

Introvert เก็บตัวเพื่อชาร์ตพลัง

หรือนี่เป็น 'ข้ออ้าง' ของคนที่ไม่อยากคบหากับคนอื่นหรือเปล่า ?

 

ทักษะการเข้าสังคมของมนุษย์เราก็เปรียบได้กับ แบตเตอรี่ก้อนนึง  ที่จะต้องมีทั้งดีดและแผ่ว ซึ่งคนที่มีบุคลิกเก็บตัวมักจะมีแนวโน้มที่จะ 'แผ่ว' ได้เร็วและมากกว่าคนที่มีบุคลิกเปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าแค่การมีปฏิสัมพันธ์นิด ๆ หน่อย ๆ มันจะส่งผลต่อพลังงานแบตเตอรี่ของคน ๆ นึงได้มากถึงขนาดนี้

 

และอย่างที่เราคงพอจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า คนที่มีบุคลิกเก็บตัว หรือ Introvert มักจะชอบทำอะไรคนเดียว ดังนั้นการที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ก็เหมือนกับดาบสองคม เพราะนี่ถือว่าเป็นการฝืนธรรมชาติเพื่อที่ตัวเองจะได้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสังคม ซึ่งมันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามนุษย์เก็บตัวทุกคนจะต้องอาศัยอยู่คนเดียวไปตลอด อย่างน้อยเราก็ต้องพบปะคนอื่นทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้นเรียน ดังนั้นเปย์เป้ว่าการเข้าสังคม หรือการเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับสังคมได้แบบเป็นธรรมชาติ ผ่านการพูดคุย การยิ้มแย้มแจ่มใส นั้นเป็นสิ่งที่คนเก็บตัวจำเป็นที่จะต้องทำ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการทำให้สูญเสียพลังงานเป็นอย่างมากก็จริง

 

เพราะฉะนั้น การชาร์ตพลังที่ดีที่สุดของพวกเรา

ก็คือ การกลับไปสู่ธรรมชาติ ซึ่งสำหรับคนเก็บตัวนั้นก็คือ 'การอยู่คนเดียว'

 


 

 

รู้จักกันให้มากขึ้น !

นี่แหละ 'ธรรมชาติของชาว Introvert'

 

หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังเข้าใจว่า เฮ้ย คนที่มีบุคลิกแบบ Introvert ลักษณะเด่นของเค้าจะมีแค่การเก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใครเท่านั้น จะบอกว่าไม่ใช่นะ เพราะจริง ๆ แล้ว ลักษณะเด่นของชาว Introvert ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมาก เดี๋ยวเปย์เป้จะมาสาธยายให้ฟัง !

  • ชาว Introvert ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ สุงสิงกับใคร แต่พวกเราชาว Introvert จะให้ความสำคัญกับ ตัวเอง มากกว่าคนอื่น ก็ตรงกับชื่อภาษาไทยของเค้าเลยที่บอกว่า เก็บตัว ก็คือเก็บตัวจริงไม่อิงนิยาย ก็อย่างที่บอกว่าพอได้อยู่กับตัวเองพลังงานของเราจะล้นหนักมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกหรอกว่าชาว Introvert มักจะทำอะไรตอนอยู่คนเดียวได้ดีและมีประสิทธิภาพกว่าเวลาที่ต้องใช้เวลาร่วมกันกับคนอื่น ๆ  

  • ชาว Introvert จะ ชอบการพูดคุยแบบจริงจัง มากกว่าเล่น ๆ เพราะพวกเค้าคิดว่าพลังงานของตัวเองมีจำกัด ดังนั้นถ้าจะต้องให้พูดคุย ก็ขอให้เป็นเรื่องที่จริงจังระดับนึง ถ้าจะให้พูดเล่น หรือเม้าท์มอยอะไรนาน ๆ บอกเลยว่าทำไม่ค่อยได้ (แต่ถ้ากับคนสนิท ๆ กัน เราถึงจะทำ)

  • ชาว Introvert ต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคง อันนี้ต่อยอดมาจากข้อที่แล้ว ที่หลายคนอ่านปุ๊บ น่าจะสัมผัสถึงความซีเรียสในตัวพวกเราได้ระดับนึง ซึ่งเรื่องของความสัมพันธ์เราเองก็ซีเรียสเหมือนกัน หากใครเป็นชาว Introvert แล้วกำลังอ่านบทความนี้กันอยู่ ลองสำรวจตัวเองกันดูเล่น ๆ ว่า เรามีเพื่อนน้อย แต่เต็มไปด้วยคุณภาพ กันหรือเปล่า คุณภาพในที่นี้คืออะไร ?  ก็คือความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง ผ่านการศึกษากันมาระดับนึง จนรู้สึกว่าเข้าขากันได้ ไม่ใช่ว่าเจอหน้ากันแค่ 2 วันแล้วจะสามารถจับมือเป็นเพื่อนซี้กันได้เลย แต่ชาว Introvert จะมีมาตรฐานในการคบคนอยู่ (ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน) ดังนั้นถ้าคิดจะมาเล่น ๆ กับพวกเรา บอกเลยว่า พักก่อน 🤨 

  • อาจฟังดูย้อนแย้ง แต่ชาว Introvert ก็ เอนจอยกับการเข้าสังคม อยู่เหมือนกันนะ หากใครเป็นเพื่อนกับชาว Introvert ลองสังเกตกันดู ว่าเวลาที่เค้าอยู่กับเรา เค้าทำตัวปกติมากน้อยแค่ไหน อย่างบางคนคือพูดเป็นต่อยหอย จนถึงขั้นทำให้สงสัยเลยว่าไหนคือความเก็บตัวที่ว่าเอ่ย ? ซึ่งความแลดูปกตินี้ได้ทำให้ชาว Introvert หลายคนมักจะโดนเข้าใจผิดว่าพวกเราเป็นชาว Extrovert (อย่างเปย์เป้เองก็มักจะโดนเข้าใจผิดอยู่บ่อย ๆ)

    ซึ่งจริง ๆ แล้ว พลังงานอันล้นหลามนี้มักจะมา เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารู้สึกสบายใจ และสนิทด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะปล่อยพลังออกมาตลอดเวลาแบบชาว Extrovert อ้อ ที่สำคัญเราขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า บางทีคุณเห็นเรานิ่ง ๆ นั่นไม่ได้แปลว่าเราหยิ่งหรืออะไรนะ แต่ถ้าคุณเข้าหาเราจนสนิทใจ คุณจะได้เห็นตัวตนที่ร่าเริงของเราเอง (บอกเลยแรร์ไอเทมอยู่นี่แล้ว !)

 

  • สิ่งที่ชาว Introvert แสดงออกมาคือ ความธรรมชาติ เพราะ พวกเราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้  อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าชาว Introvert มักจะควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าไม่ค่อยได้ เอาง่าย ๆ คือลองวัดจากเวลาที่เราต้องเข้าสังคมกับคนหมู่มากดู บอกเลยว่ารัศมีความอึดอัดแผ่ออกมาเกิน 50% แน่นอน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเป็นคนไม่มีมารยาทหรืออะไรทำนองนั้นนะ คือถ้าจำเป็นที่จะต้องเข้าสังคม พวกเราก็สามารถที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้นได้เหมือนกัน

    แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรากำลังปั้นหน้าว่าโอเคกับคนรอบข้างอยู่นะ เพราะจริง ๆ แล้วเราเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งกับคนรอบข้าง อยากมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเค้าเหมือนกัน เพียงแต่ว่าการเข้าสังคมมันทำให้พวกเรารู้สึกว่าหมดพลังไวกว่าเวลาที่ได้อยู่คนเดียว อย่างบางทีก็คือต้องปรับโหมดตัวเองให้กลายเป็นคนร่าเริงในทันที ซึ่งไม่ใช่ว่าเราทำไม่ได้ แต่มันอาจจะพ่วงมาด้วย ความเหนื่อยและหมดพลัง แบบชนิดที่ว่าต้องรีบจัดการชาร์ตแบตให้ตัวเองด่วน ๆ หลังจากเสร็จภารกิจการเข้าสังคมเป็นที่เรียบร้อย

  • ชาว Introvert ให้ความสำคัญกับการกระทำมากกว่าคำพูด  เพราะเราไม่ค่อยพูด555 ล้อเล่น 😂  คือต่อยอดมาจากข้อต้น ๆ เลยที่เปย์เป้บอกไปว่าชาว Introvert จะให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ และค่อนข้างจะมีมาตรฐานในตัวเองสูง ดังนั้นถ้าคิดจะมา ๆ หาย ๆ บอกเลยว่าอย่าเข้าใกล้อาณาเขตเราจะเป็นการดีที่สุด

    ซึ่งคนโสดชาว Introvert เองก็ได้รับอานิสงค์จากข้อนี้ไปด้วยเช่นกัน เพราะพวกเราจะมีความระแวดระวังในตัวเองสูงมาก คือไม่เปิดใจให้ใครง่าย ๆ คำพูดอ่อนหวานมีผลกับพวกเรา 'น้อยมาก' เมื่อเทียบกับการกระทำ โดยเฉพาะใครที่ใส่ใจพวกเรามาก ๆ บอกเลยว่าโอกาสที่พวกเราจะเปิดใจยอมรับให้คนเข้ามามันก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 

  • ชาว Introvert เป็นเพื่อนที่ดี  ที่เราสามารถไว้ใจได้ โดยเฉพาะถ้าใครต้องการคนรับฟังที่ดีที่มาพร้อมกับคำแนะนำ บอกเลยว่าชาว Introvert นี่แหละ คือช้อยส์ที่ดีมากเวอร์ ที่สำคัญพวกเราจะให้คำแนะนำทุกคนแบบจริงจัง (และจริงใจ) ไม่เน้นพูดไปเรื่อย แต่เราจะเน้นพูดในสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่เน้นอวยใคร ผิดถูกก็ว่าไปตามนั้นเลย 😉 

  • แม้ว่าชาว Introvert จะไม่ชอบเข้าสังคม แต่พวกเราก็ อยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคม นะ เหตุผลง่าย ๆ เลยก็คือ พวกเราเข้าสังคมไม่เก่ง ดังนั้นการที่ชาว Introvert มีเพื่อนเป็นขั้วตรงข้ามอย่างชาว Extrovert นับว่าเป็นอะไรที่วิเศษมาก เพราะชาว Extrovert จะเป็นประเภทที่ชอบเปิดหูเปิดตา ดังนั้นโอกาสที่พวกเค้าจะพาชาว Introvert ให้ก้าวออกจากกรอบของตัวเองจึงมีความเป็นไปได้สูง (คือถ้าหวังว่าชาว Introvert จะเป็นฝ่ายก้าวออกจากกรอบเอง บอกเลยว่าโอกาสคือน้อยมาก ถ้าไม่เอาปืนจ่อบอกเลยว่าไม่มีทาง) 

 


 

 

🎵 อย่าเข้าใจฉันผิด โปรดอย่าเข้าใจฉันผิด 🎶

กับเรื่องที่คนมัก 'เข้าใจผิด' เกี่ยวกับชาว Introvert

 

🗣  ใครว่าประชากรชาว Introvert จะมีน้อย แต่ที่ไหนได้... ปาไปค่อนทวีป !

 

เปย์เป้ถึงขั้นอยากลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือให้เลย เพราะทุกคนจะได้ใจชื้น และเลิกคิดว่าตัวเองเป็นประชากรส่วนน้อยกันสักที ทำไมน่ะเหรอ ? ก็เพราะว่าทวีปเอเชียที่เราอาศัยกันอยู่นั้นมีประชากรชาว Introvert อาศัยอยู่เยอะมากเมื่อเทียบกับทวีปอื่น ๆ เอาที่เห็นภาพง่าย ๆ เลยก็คือ เวลาที่เราเจอกับชาวตะวันตก เราจะพบว่าพวกเค้ามีความกล้ามากกว่าพวกเรามาก ถึงแม้ว่าบางคนจะมั่นอกมั่นใจว่าชั้นกล้าแสดงออกในระดับนึงแล้ว แต่ถ้าได้เจอกับคนตะวันตกเข้าไปบอกเลยว่าต้องยอม เพราะบุคลิกของคนในบ้านเค้า (ย้ำว่าส่วนใหญ่เลยนะ) จะมีบุคลิกแบบ Extrovert ที่กล้าแสดงออก  และกล้าได้กล้าเสียมากกว่าคนในบ้านเราเยอะมาก

 

ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ข้อมูลทั่วไปนะ แต่มันถึงขั้นมีงานวิจัยออกมาเลย (ซึ่งเปย์เป้คิดว่าน่าจะมีเพื่อน ๆ บางคนเคยได้ยิน หรือได้ทราบข้อมูลอะไรทำนองนี้กันมาแล้ว) ถ้าถามว่าสาเหตุมาจากไหน  อะไรที่เป็นตัวกำหนดที่ทำให้ประชากรในบ้านเรามีความเป็น Introvert อยู่ในตัวสูง เปย์เป้ว่ามันน่าจะต้องเท้าความกันไปไกลตั้งแต่สมัยโบราณ ที่คนในสมัยนั้นอาจจะมีบุคลิก Introvert มากกว่า Extrovert ซึ่งเราก็ได้นำความเป็น Introvert นี้ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนส่วนใหญ่ในทวีปเอเชียบ้านเราถึงมีแต่คนขี้เกรงใจ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็น (เมื่อเทียบกับคนตะวันตก)

 

แต่อย่าเพิ่งเสียใจหรือน้อยเนื้อต่ำใจกันไปนะ เพราะเรื่องบุคลิกนี้มันสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ โดยเฉพาะถ้าเราเอาตัวเองไปคลุกคลี หรือใกล้ชิดกับคนที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับเราเยอะ ๆ อย่างคนไทยที่ไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน เมื่อนานวันเข้ากาลเวลาก็ได้เปลี่ยนให้คน ๆ นึง จากเดิมที่ไม่กล้าแสดงออก กลับกลายเป็นคนที่กล้าแสดงออกขึ้นมา โดยการเปลี่ยนแปลงที่ว่าก็เป็นส่วนหนึ่งในทักษะการเอาตัวรอดของมนุษย์ในเรื่องของการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดด้วยเช่นเดียวกัน

 

 

🗣  ปิดกั้น จนไม่น่าคบหา เป็นอย่างที่เค้าว่าจริงหรอ ?

 

ถ้าใช้คำว่าปิดกั้นเห็นทีว่าจะไม่ถูก เพราะนี่คือบุคลิกที่เป็นธรรมชาติของชาว Introvert อยู่แล้ว และไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่รู้สึก หรือไม่มีหัวใจกันนะ เพียงแต่ว่าพลังในการเข้าสังคมของเราอาจจะไม่เต็มหลอดเหมือนกับชาว Extrovert เค้า (แถมยังลดลงเร็วมากด้วย) เลยไม่แปลกใจที่จะมีคนมอง หรือรู้สึกกับชาว Introvert แบบนั้น เพราะด้วยความนิ่ง บวกกับความที่ไม่เข้าหาคนอื่นก่อน เลยทำให้คนรอบข้างมักจะมองว่าพวกเราปิดกั้น ไม่น่าคบ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว เราก็อยากผูกมิตร และอยากมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเราอาจจะเข้าหาคนอื่นไม่เก่ง และไม่สันทัดในเรื่องของการเปิดบทสนทนาก่อนก็เท่านั้นเอง

 

🗣  Introvert มากไป จนกลายเป็น โรคซึมเศร้า

 

มีหลายคนที่เข้าใจว่าชาวเก็บตัวมักจะมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายกว่าคนที่มีบุคลิกแบบอื่น สืบเนื่องมาจากความเก็บตัว ไม่พูดไม่จา ไม่ชอบสร้างความสัมพันธ์กับใคร เลยส่งผลทำให้คนอื่นมักจะเข้าใจว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าทั้งหลาย ส่วนใหญ่แล้วก็จะหนีไม่พ้นพวกคนเก็บตัวทั้งนั้น ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นยังไง ? 

 

จากผลการวิจัยโดย D S Janowsky ได้พูดถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างคนที่มีบุคลิกเก็บตัว กับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเอาไว้ว่า การเก็บตัวเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของโรคซึมเศร้า ซึ่งบุคลิกหลายอย่างของชาว Introvert ก็มีความคล้ายคลึงกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีปฏิกริยาตอบสนองต่ออารมณ์และความรู้สึกที่ง่ายและเร็ว, ความคิดฟุ้งซ่านโดยเฉพาะความคิดในแง่ลบที่ส่งผลทำให้อารมณ์ของพวกเค้าดาวน์ลง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยออกมาอีกด้วยว่า จากการติดตามผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี อาการซึมเศร้านั้นได้เปลี่ยนให้คน ๆ นึงกลายเป็นคนเก็บตัวได้จริง ๆ แต่ใดใดเปย์เป้อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนสบายใจไว้ก่อนได้เลยว่า

 

'ไม่ใช่คนเก็บตัวทุกคนที่จะเป็นโรคซึมเศร้า

และไม่ใช่คนที่เป็นโรคซึมเศร้าทุกคนจะเป็นคนเก็บตัว'

 


 

 

ผิดหรอที่เราเกิดมาเป็นคน Introvert ?

 

อย่าตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าทำไมเราถึงเกิดมาเป็นคน Introvert  และอย่าตั้งคำถามกับคน Introvert ว่าทำไมเค้าถึงเงียบ ไม่เข้าหาคนรอบข้าง เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด !

 

เคยได้ยินไหมกับประโยคที่ว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ และต่อให้เลือกเกิดได้ แต่การที่คน ๆ นึงจะมีนิสัยอะไร มันก็ไม่ใช่เพราะเรื่องของพันธุกรรมอย่างเดียว เพราะการที่คน ๆ นึงจะมีบุคลิกอะไรนั้น สังคมภายนอกก็มีส่วนในการหล่อหลอมและเปลี่ยนแปลงทำให้เรากลายเป็นคนเก็บตัวขึ้นมาก็ได้เช่นกัน ซึ่งเปย์เป้เชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่อยากเกิดมาแล้วเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเอง หรือไม่เอาอะไรเลยจากโลกภายนอก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์สังคม จะให้อยู่ตัวคนเดียวมันก็ชักจะยังไงอยู่ ดังนั้นเป้เลยอยากได้เพื่อน ๆ มองว่าการที่คน ๆ นึงกลายเป็นคนเก็บตัว หรือคนเปิดเผยได้นั้น สภาพสังคมมีส่วนในการหล่อหลอมและเปลี่ยนแปลงคน ๆ นึงได้จริง ๆ

 

ส่วนคนเก็บตัวคนไหนที่อยากเปลี่ยนมาเป็นคนชอบเข้าสังคม จริง ๆ แล้วขั้นตอนของมันก็ไม่ได้ยากนะ แค่เอาตัวเองไปคลุกคลีกับคน Extrovert และอ้าแขนเปิดรับสังคมให้มาก ๆ เราเชื่อว่าการเข้าหาแบบนั้นจะทำให้เรากล้า และมั่นใจในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ง่ายขึ้น แถมพลังก็จะไม่ได้หมดเร็วขึ้นเหมือนที่ผ่านมาด้วย (แต่ย้ำว่าต้องใช้เวลาคลุกคลีกับคนกลุ่มนั้นให้นาน ๆ ไม่ใช่แค่วันสองวันจะเปลี่ยนเราได้เลย)

 

แต่ถ้าใครรักในความเป็น Introvert ของตัวเองกันอยู่แล้ว ก็ขอให้มั่นใจในตัวเอง และใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจของตัวเองกันต่อไป เพราะจริง ๆ แล้ว เราไม่จำเป็นที่จะต้องฝืนตัวเองกับทุกเรื่องตลอดเวลา  ขอแค่อย่าปิดกั้น หรือปิดประตูให้กับทุกสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามา เพราะนั่นอาจจะทำให้เราเครียด จนทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ 

 

และแนะนำว่า ให้เอาตัวเองเข้าไปหาสังคมภายนอกบ้าง สักนิดหน่อยก็ยังดี  เพราะนั่นจะทำให้เรามีความคุ้นเคยและมี ภูมิคุ้มกัน ต่อสังคมภายนอกได้ดียิ่งขึ้น เพราะนอกจากในตัวของชาว Introvert จะมีแบตเตอรี่ประกอบอยู่ด้วยแล้ว มันยังจะมีปุ่มเปิด-ปิดการเข้าสังคมซ่อนอยู่ด้วย ยังไงก็ต้องหมั่นใช้ปุ่มเปิด-ปิดนั้นอยู่บ่อย ๆ แทนที่จะปิดกั้นและปิดกรอบกับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาอย่างเดียว

 


 

 

พินิจดูกันให้ดี ๆ หรือบางทีเราอาจจะไม่ใช่ Introvert แท้

แต่เป็น 'ลูกผสม'

 

เปย์เป้เชื่อว่าจะต้องมีเพื่อน ๆ บางคนกำลังสงสัยกันอยู่แน่ ๆ ว่าจริง ๆ แล้วตัวเราเป็นคนเก็บตัวจริงหรอ ? เอาง่าย ๆ ลองเลื่อนขึ้นไปอ่านธรรมชาติของชาว Introvert ด้านบนกันดูใหม่ ถ้าเราคิดว่ามีข้อที่ตรงกับเราแค่ไม่กี่ข้อ และเราก็ไม่ใช่คนที่เปิดเผยจนถึงขั้น Extrovert ขนาดนั้นก็ขอให้แปะโป้งเดาเอาไว้ก่อนเลยว่า หรือจริง ๆ แล้วเราอาจจะเป็นประเภท Ambivert มากกว่าก็ได้

 

Ambivert ที่ว่าคืออะไร ? สำหรับบุคลิกภาพแบบนี้ถ้าเรียกตามภาษาบ้าน ๆ เราจะมองว่าเค้าเป็นลูกผสม คือเป็นการผสมผสานระหว่าง Introvert กับ Extrovert ที่จะค่อนข้างมีทั้งความเก็บตัว และเปิดเผยอยู่ในคน ๆ เดียว และทุกคนพอจะเดากันออกไหมว่าจุดเด่นของคน Ambivert นี้คืออะไร คำตอบก็คือ พวกเค้าจะสามารถปรับตัวเข้ากับบุคลิกภาพทั้ง 2 แบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ เอาง่าย ๆ คือไม่ว่าจะอยู่ในสังคมของคนแบบไหน ยังไงก็รอด

 

ซึ่งคนที่มีบุคลิกแบบนี้จะเป็นบุคลิกที่คนส่วนใหญ่ชอบ เพราะไม่เวิ่นจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่เก็บตัวจนเกินไป สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพสังคมแบบต่าง ๆ ได้ง่ายและเอาตัวรอดได้ดีกว่า จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมองค์กรส่วนใหญ่ถึงค่อนข้างที่จะชอบคนทำงานในลักษณะนี้ เพราะคน ๆ นั้นจะมีความสามารถหลากหลาย สามารถทำงานหลายอย่างได้ในคนเดียว จะให้เข้าสู่โหมดซีเรียสก็ได้ หรือจะให้เข้าสู่โหมดของความสนุกสนานก็ได้ด้วย

 


 

 

การมาของคน Ambivert

จะทำให้คน Introvert กับ Extrovert 'ตกกระป๋อง' หรือเปล่า ?

 

จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ ถึงแม้ว่าคน Ambivert จะมีข้อได้เปรียบมากกว่าก็จริง แต่ถ้าควบคุมข้อได้เปรียบนั้นไม่ได้ ก็จะไม่ต่างอะไรกับคนไบโพลาร์ ที่เดี๋ยวก็ปรับตัวได้ แต่บทจะปลีกวิเวกก็คือปลีกวิเวกไปเลย อันนี้ก็บ่าได้นะ  เพราะเปย์เป้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าเราจะเป็นคนที่มีบุคลิกไหนนั่นคือ การปรับตัว คือเราต้องปรับตัวให้ได้ ไม่ว่าจะมีบุคลิกแบบไหนก็ตาม คนเก็บตัวก็ต้องปรับตัวในการเข้าสังคมรอบข้าง ส่วนคนเข้าสังคมจ๋าอยู่แล้วก็ต้องลด ๆ พลังงานลงบ้างเพื่อที่จะได้ไม่ดูเป็นการยัดเยียดตัวเอง หรือฟุ้งมากจนเกินไป ส่วนคนที่เป็นลูกผสมก็ต้องบาลานซ์และเลือกที่จะเปิด-ปิดโหมดของตัวเองให้ดี ให้ทุกอย่างมันดำเนินไปให้คงเส้นคงวามากที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้ก็พอ

 

และเหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเอาให้ชัดกันไปเลยเปย์เป้ก็อยากจะชวนเพื่อน ๆ มาทำแบบทดสอบ MBTI กัน เพราะอันนี้นอกจากจะบอกว่าเราเป็นคน Introvert, Extrovert หรือ Ambivert ได้แล้วยังสามารถเจาะลึกลงรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่เหมาะสมกับเรา, วิธีการเข้าหา, จุดเด่น, จุดด้อย ที่ลึกซึ้งกว่าแบบวัดบุคลิกภาพธรรมดามาก ๆ หากใครไม่เคยลอง ตามลิงก์ด้านล่างนี้ไป ทำแล้วได้อะไรแวะมาเม้าท์มอยได้นะจ๊ะ 😘 

 


 

สุดท้ายนี้เปย์เป้อยากให้ทุกคนภูมิใจกับบุคลิกภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคนเก็บตัว หรือเปิดเผย ก็ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราก็มีเสน่ห์ในแบบของเรา (ใครจะมองยังไงก็ไม่อิมแพคเท่ากับเรามองตัวเองกันนะ) เราอาจจะเข้าหาคนอื่นไม่เก่งก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากให้คนอื่นเข้าหา หรือว่าไม่อยากเข้าหาคนอื่นสักหน่อย เพียงแต่ว่าธรรมชาติของเราเป็นแบบนั้น ดังนั้นใครที่เคยมองเราว่าปิดกั้นไม่น่าเข้าหามาก่อน ได้เวลาเปลี่ยนความคิดใหม่กันแล้ว /ขยิบตาส่งซิกให้หนึ่งที

 

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง  : goodtherapy, quoraleapfroggingsuccess และ healthline

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น