CHA BAR BKK “เริ่มต้นจาก Baby Step แต่เต็มไปด้วย Quality” ปันโปร | Interview

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer10 ก.ย. 2563 avatar writer2.4 K
CHA BAR BKK “เริ่มต้นจาก Baby Step แต่เต็มไปด้วย Quality” ปันโปร | Interview

ปันโปร | Interview
พูดคุยกับ CHA BAR BKK
กับความตั้งใจในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด
ส่งตรงถึงมือของลูกค้าทุกคน


กระแสชานมไข่มุกในบ้านเราก็เหมือนกราฟที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะว่าเป็นธุรกิจที่ดูเกิดง่าย ขายคล่อง แต่ท่ามกลางการแข่งขันก็มีแบรนด์ไทยที่นำวัตถุดิบไทยๆ มาเป็นจุดต่าง เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแฟนๆ แบรนด์นี้อยู่ด้วยล่ะ ปันโปรถือโอกาสคว้าตัวคุณเจ้น และคุณนาว สองสาว Co-Founder จาก CHA BAR มาเม้าท์มอยกันสักหน่อย ซึ่งสาวๆ ก็ได้ให้คำนิยามเส้นทางของตัวเองเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า "พวกเราเริ่มต้นจาก Baby Step แต่มันเป็น Baby Step ที่เต็มไปด้วย Quality" ปูทางมาดีขนาดนี้ เห็นทีต้องเม้าท์กันยาว ว่าแต่ละก้าวของ CHA BAR  เป็นไง | มาไง กันบ้าง

 

คุณเจ้น ธันยพร รุ่งเรืองธัญญา และคุณนาว แพรวไพลิน ศรีแสงนาม

 


| กว่าจะเป็น CHA BAR


คุณนาว แพรวไพลิน ศรีแสงนาม

 

CHA BAR : ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ในช่วงนั้นถือว่าเป็นยุคเครื่องดื่ม คาเฟ่ เลยก็ว่าได้ คือร้านกาแฟเปิดกันเยอะมาก แต่เราไม่ค่อยเห็นร้านชานมที่เป็นคาเฟ่เท่าไหร่ จะมีอยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นในกรุงเทพ แถมเราก็ยังชอบชานมมากๆ แอบชอบมากกว่ากาแฟด้วยซ้ำ เลยเกิดเป็นไอเดียขึ้นมา ว่าเราอยากทำชานมที่สามารถดื่มได้ทุกวัน โดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะหวานไปไหม ดื่มทุกวันแล้วจะส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือเปล่า

 

เราเลยทำชานมขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่รักชานม
แล้วอยากจะดื่มทุกวันเหมือนกันกับเรา

 

ตอนนั้นเราก็มาสังเกตว่ายังไม่มีชานมที่ใช้วัตถุดิบของไทยเลย เลยอยากที่จะลองเอาตรงนี้เข้ามาเป็นจุดเด่นไปด้วย และด้วยความที่เรามีความรู้ด้าน Design แต่ไม่มีความรู้ด้านอาหารเลย เราเลยลองไปชวนเพื่อนที่ออฟฟิศ ซึ่งก็คือ เจ้น มาช่วยดูไอเดียนี้ว่ามันพอจะเป็นไปได้ไหม หลังจากนั้นพวกเราก็ทดลองวัตถุดิบต่างๆ ในไทยมาเรื่อยๆ โดยมี นิว พี่สาวของนาวเข้ามาช่วยดูเรื่องสูตรกันอีกแรง

ตอนนั้นเราต้องการให้ชานมเราเป็นเหมือน ทางเลือก ให้คนได้เลือกดื่ม คล้ายๆ Guilty Pleasure ไม่ได้อยากให้มันเสียเอกลักษณ์ของความเป็นชาที่หวาน มัน หอม แต่จะปรับให้มันดู Healthy ขึ้น ดีต่อร่างกายมากขึ้น ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี 

 


| โจทย์ที่ท้าทาย คือทำยังไงให้ 'ดีกว่า'


 

CHA BAR : การที่ต้องทำชานมให้ยังคงความเป็นชานม แต่มีประโยชน์ แล้วสุขภาพดี ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายพวกเรามาตั้งแต่ต้น เจ้นกับนิวเลยเริ่มตามหาวัตถุดิบเพื่อเอามาทดลอง พวกเราใช้เวลากันประมาณ 2-3 เดือน โดยใช้วิธีแยกส่วนประกอบของชานมออกมาก่อน แล้วทดแทนแต่ละส่วนด้วยวัตถุดิบที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่น ส่วนที่เป็นผงชา หรือ ครีมเทียม เราก็ไปตามหาใบชาสดจากภาคเหนือ มา blend ให้เป็นแบบที่พวกเราชอบ

มีการลองเอานมวัวสดมาใช้แทนนมผง และครีมเทียม ส่วนที่เป็นน้ำตาลทราย เราก็ลองแทนด้วย น้ำตาลมะพร้าว จากอัมพวา เพราะเป็นภูมิปัญญาไทย แถมยังให้ความหวานที่พอดี มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนที่เป็นไข่มุก เจ้นกับนิวก็มีไอเดียขึ้นมาว่า ลองใช้แป้งข้าว มาแทนดีมั้ย จะได้มีประโยชน์และอิ่มท้องมากขึ้นอีกทั้งยังแสดงความเป็นไทยได้ดีด้วย 

 

พวกเราทดลองสูตรกันมาเรื่อยๆ
จนมาไฟนอลที่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่
ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์
อีกทั้งยังเป็นพันธุ์ข้าวพระราชทานจากในหลวง ร.9

 

หน้าตาของไข่มุกข้าวไรซ์เบอร์รี่ก่อนจะถูกนำไปต้ม

 


| กระแสตอบรับช่วงแรก เกินคาดมาก


คุณเจ้น ธันยพร รุ่งเรืองธัญญา

 

CHA BAR : เอาจริงๆ ยังถามตัวเองอยู่เลยว่ามันจะเวิร์คไหม เพราะว่ามันดู Healthy มาก คนจะเข้าใจรึเปล่า ซึ่งในตอนแรกเราตั้งใจว่าจะทำออกมาเป็นขวด เพราะเทรนด์ Delivery มันกำลังมาพอดี ไม่ได้ตั้งใจจะขายเป็นจริงเป็นจัง กะแค่ว่าจะทำเป็นงานอดิเรก แต่กลายเป็นว่าโอกาสมันก็เข้ามา เพราะมีพี่ที่รู้จักกันเค้ามีพื้นที่ในซอยละลายทรัพย์พอดี แล้วเค้าก็มาชวน เราก็เลยลองดู เพราะว่าพื้นที่ตรงนั้นก็ไม่ได้ใหญ่ เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่เราคิดว่ามันพอดีกับพวกเราในตอนนั้น เลยกลายเป็นสาขาแรกขึ้นมาที่ซอยละลายทรัพย์

 

ตอนนั้นจำได้ว่า เราใช้เวลาเยอะมาก
ประมาณ 4 ชั่วโมง กว่าจะได้ไข่มุกมา
ซึ่งไข่มุกที่ได้ ก็เป็นไข่มุกสำหรับชานมเพียงแค่ 10 แก้วเท่านั้น

 

ช่วงที่เปิดร้านกันใหม่ๆ พวกเราทั้ง 3 คนยังทำงานออฟฟิศกันอยู่ด้วย ทำให้พวกเรามีเวลาปั้นไข่มุกที่จำกัด แล้วยังได้จำนวนไม่มากพอ ยังจำได้อยู่เลยว่า ลูกค้าจะถามตลอดว่า ทำไมไข่มุกหมดเร็วจัง, ไม่เคยได้ลองกินไข่มุกสักทีเลย, ไข่มุกหมดแล้วหรอคะ สาเหตุก็มาจากเราปั้นกันไม่ทันจริงๆ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจกับร้านเล็กๆ ของพวกเรามากขนาดนี้

 


| แต่ละแก้วที่เต็มไปด้วยคุณภาพ 


CHA BAR Chocolate Shake

 

CHA BAR : เราพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ จากฟีดแบคของลูกค้า รวมไปถึงสร้างการรับรู้ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า จากปกติที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชานมที่มีรสหวาน พอได้มาลองชานมของเราก็จะสัมผัสได้ทันทีว่ามันแตกต่าง ซึ่งความแตกต่างตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการ Challenge ตัวเองเหมือนกันนะ ว่าเราจะทำยังไง ให้รสชาติที่มีเอกลักษณ์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

 

ที่สำคัญคือเราซื่อสัตย์กับลูกค้าจริงๆ
ถ่ายรูปโปรโมทยังไง เราเสิร์ฟไปแบบนั้น

 

คือทุกขั้นตอนเราโชว์ให้เห็นหมดเลย ว่าเราทำอะไร ยังไงบ้าง วัตถุดิบเองก็พรีเมี่ยม เพราะเรามองว่าลูกค้าก็เหมือนกับเรา เวลาจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง เราก็อยากให้มันดีต่อร่างกายมากที่สุด ดังนั้นทุกขั้นตอนเราเลยใส่ใจมากๆ และก็ยอมรับเลยว่าต้นทุนมันก็สูงแหละ ถ้ามองในแง่ธุรกิจ อันนี้บอกตรงๆ เลยว่า ถ้าหักต้นทุนทุกอย่างออกไปแล้ว เราได้ Margin น้อยมาก เพราะว่าเราอยากให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีจริงๆ

 

 

นอกจากนี้เรายังใส่ใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เราเลยพยายามที่จะเสิร์ฟความสนุกๆใน Social ให้กับลูกค้าของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอย่างการแจกสติกเกอร์ลายที่เรา Design กันเอง หรือจะ Template บน IG Story อีกทั้งยังมี Filter IG ที่เราทำมาให้คนที่ Follow เราเอาไปใช้เล่นได้

รวมไปถึงการออกแบบร้าน ก็พยายามที่จะมีลูกเล่น หรือมุมน่ารักๆ ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปแชร์ลง Social อีกเหมือนกัน เพราะเราอยากให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี Happy เวลามาดื่มชานมที่ Cha Bar อยากให้คนรุ่นใหม่ กล้าที่จะลองบริโภคของเฮลตี้ พวกเราเลยตั้งใจทำสื่อรวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ มาผนวกเข้ากับความเป็นเรา ก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ที่นอกจากจะมีชานมที่ Healthy แล้ว เรายังมีอะไรแปลกใหม่มาให้ทุกคนได้เล่นกันอยู่ตลอด

 


| แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ CHA BAR ก็ไม่หยุดพัฒนา


 

CHA BAR :  อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเราพยายามจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะเราเชื่อว่า เรายังดีได้อีก ยกตัวอย่างเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราก็เพิ่งทำแคลอรี่ของเมนู Classic Milk Cha ให้มันต่ำลง จากเดิมจะอยู่ที่ 190 kcal ตอนนี้ถูกปรับมาอยู่ที่ 150 kcal เพราะเราพยายามหาวัตถุดิบใหม่ๆ หากระบวนการใหม่ๆ ที่ทำให้แคลอรี่น้อยลง ในขณะที่รสชาตินั้นยังคงเหมือนเดิม 

และนอกจากเมนูแล้ว ตัวร้านเองก็พยายามที่จะให้ความสะดวกกับลูกค้าทุกคนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสาขาที่มากขึ้น รวมไปถึงตัว Delivery ที่ครอบคลุมมากขึ้น คือเราพยายามพัฒนากันอยู่เรื่อยๆ

 

เราไม่อยากที่จะหยุดพัฒนาเลย
เพราะเราว่าทุกอย่างมันจะต้องมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม

 


| วิกฤตที่มาพร้อมกับ 'โอกาส'


 

CHA BAR : จริงๆ ช่วงโควิดเองก็ถือว่าเป็นช่วงที่ดี เพราะเรามีโอกาสได้คุยกับลูกค้ามากขึ้น ทำให้รู้ว่าลูกค้าที่อยู่โซนนอกกรุงเทพฯ ก็สนใจเรา รวมไปถึงลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดเอง ก็มีการถามเข้ามาว่ามีการส่งต่างจังหวัดบ้างไหม ซึ่งเราก็รีบดีลเลย 

 

ช่วงโควิดทุกธุรกิจก็ได้รับผลกระทบกันหมด
แบรนด์ใหญ่ๆ ก็มีโปรโมชั่นแรงๆ ออกมา
ส่วนเราที่ไม่ได้มีความพร้อมที่จะลดแลกแจกแถมได้
เราก็พยายามที่จะทำให้ลูกค้าทุกคน 'ไม่ลืม'

 

คือมีอะไรเราก็งัดออกมาหมด จริงๆ เราก็มีโปรเจกต์เล็กๆ ลงใน IG ด้วยนะ เนื้อหาก็ประมาณว่า อยู่บ้านก็ดื่มชานมได้ เราก็ทำออกมาเป็นคลิปสั้นๆ ความยาว 1-2 นาที ซึ่งลูกค้าที่เห็นก็จะแบบ เฮ้ย เพิ่งรู้ว่าทำแบบนี้, เห็นแล้วอยากกินขึ้นมาเลย ก็ถือว่าเป็นความสนุกสนานที่ให้คนที่เค้าอยู่บ้านได้มีส่วนร่วมกัน

 

 


| Step ต่อไป คือก้าวที่ 3 ของ CHA BAR


 

CHA BAR : ที่ CHA BAR โตขึ้น เพราะพวกเราตั้งใจทำงานกันมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Minor หรือ Major Change เราพยายามดูแลให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุด ซึ่งปีหน้า CHA BAR ก็จะเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว เราพยายามจะควบคุมมาตรฐานของทุกแก้วรวมถึงหน้าร้านทุกสาขาให้ออกมาเหมือนกันมากที่สุด นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของความสะดวกสบายของลูกค้า ซึ่งจุดนี้เราก็จะพยายามทำให้มันดีขึ้นๆ ไปอีก 

จากตอนแรกที่เรามีแค่สาขาสีลม เราก็มีการตั้งเป้ากับตัวเองมาตลอดว่าอยากจะขยายสาขาให้ได้ปีละ 1-2 สาขา ให้มันกระจายตัวทั่วกรุงเทพฯ  ลูกค้าจะได้เข้าถึงเราได้ง่ายขึ้น แล้วก็จะมีเรื่องของการสื่อสาร ที่เราตั้งใจจะสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น จากที่เมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้สื่อสาร ไม่ค่อยได้อธิบายหรือทำความเข้าใจเรื่องเมนูของเราเท่าไหร่ ตอนนี้เราก็พยายามอธิบาย Story ของแต่ละเมนูว่ามันเป็นมายังไง เค้าจะได้เข้าใจมากขึ้น

 

นอกจากนี้ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่อยู่กับเรามาตั้งแต่ซอยละลายทรัพย์ เค้าก็จะเข้ามาแสดงความยินดีกับเราประมาณว่า ดีใจมากเลยที่ CHA BAR โตเร็วขนาดนี้ คือเค้าอยู่กับเรามาตั้งแต่สมัยที่ยังปั้นไข่มุกกันไม่ทัน จริงๆ คือการเติบโตของ CHA BAR มันอาจจะเป็น Baby Step แต่ว่ามันเต็มไปด้วย Quality จริงๆ

 


| รู้จัก CHA BAR ให้มากขึ้น


 

• Co-Founder ของ CHA BAR ไม่มีใครเรียนจบด้านธุรกิจเลย

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ต้องเรียนสาย Business เท่านั้นถึงจะทำธุรกิจได้ แต่ทีม CHA BAR ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บางครั้งการที่ได้ทำอะไรที่เป็นความชอบของเราจริงๆ เราก็จะรักและทำมันออกมาได้ดีที่สุด โดยที่เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กันด้วยก็ได้  เพราะ Co-Founder แต่ละคนของที่นี่ ไม่มีใครเรียนจบสายนี้กันมาเลย

อย่างคุณนาวเองก็จบสถาปัตย์ คุณเจ้นจบอักษร คุณนิวจบด้านมัณฑนศิลป์ ยังมีคุณเจย์ (ภฤดา รุ่งเรืองธัญญา) พี่สาวคุณเจ้นที่มีประสบการณ์หลายปีจาก Agency มาช่วยหลังร้านอีกด้วย  เอาง่ายๆ คือทุกคนใหม่มากด้านการทำธุรกิจ แต่พอได้มารวมตัวกันปุ๊บ กลับกลายเป็นส่วนผสมที่ปันโปรมองว่ามันลงตัวมาก

 

 

• อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ คือความใส่ใจลูกค้ากลุ่ม Millenial

ลูกค้ากลุ่ม Millenial ในแง่ของคนที่ทำธุรกิจนั้น ถือว่าเป็นกลุ่มที่สำคัญมากๆ และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนธุรกิจที่ดีมาก ซึ่ง CHA BAR ก็ได้ใส่ใจลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยการนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความสนใจของคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น

ซึ่งนอกจากเรื่องของการบริการแล้ว การปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน อาทิเช่น สื่อโฆษณา, โลโก้แบรนด์ที่เปลี่ยนให้เข้ากับเดือน Pride Month, มุมถ่ายรูปสวยๆ, การออกแบบ Product ต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ซึ่งปันโปรมองว่าน่ารักและน่าจะโดนใจลูกค้ากลุ่ม Millenial ได้ไม่ยากเลย

 

 

• นอกจากเมนูชานมแล้ว CHA BAR ยังมี Gelato และ Milk Shake

ต้องบอกเลยว่า CHA BAR ไม่ได้มีแค่ไลน์เครื่องดื่มอย่างเดียวนะ เพราะทางแบรนด์ก็ได้มีการมองหา Product ใหม่ๆ มาเสิร์ฟให้ลูกค้าอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเมนู Milk Shake ไปจนถึงตัว Gelato ที่คุณเจ้นได้ไปเรียนวิธีการทำมาจากประเทศอิตาลีโดยเฉพาะ ซึ่ง Gelato ที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น ตรงที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น รสกะทิอบควันเทียน รวมไปถึงรสส้มจี๊ด ที่น่าจะถูกใจคนที่ชอบรสเปรี้ยวๆ กัน

 

 

• เมนูโปรดของ 2 สาว Co-Founder

ทั้งสองคนคงได้ลองเครื่องดื่มของตัวเองกันมาก็เยอะ แต่ถ้าให้เลือกที่ชอบที่สุดจริงๆ จะเป็นเมนูไหนกันนะ? มาเริ่มที่คุณเจ้น ที่ขอเลือกเป็นเมนู Mixed Fruit Cha หรือ ชาผลไม้รวม ที่สามารถปลุกความสดชื่นได้ทันที แถมยังมีแคลอรี่เพียง 77 kcal เท่านั้น

ส่วนคุณนาวนั้นเลือกเป็นเมนู Original ของร้านอย่าง Classic Milk Cha เพราะส่วนตัวคุณนาวเป็นคนที่ชอบดื่มชานมอยู่แล้ว อย่างตัวนี้ก็สามารถดื่มได้เพลินๆ แถมยังมีไข่มุกข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้ได้เคี้ยวเล่นๆ เรียกได้ว่า 2 คน 2 สไตล์ ใครถนัดสายชานมหรือชาใสก็สามารถไปลองเมนูโปรดของทั้งคู่กันได้น้าา

 

 

• สาขาล่าสุดของ CHA BAR

ชาวพระราม 4 มีเฮ! เพราะล่าสุด CHA BAR ได้เปิดสาขาใหม่ที่ The PARQ  แล้วจ้า สมกับสัญญาที่เคยให้ไว้ซะจริงๆ ว่า CHA BAR จะพยายามขยายสาขาให้ได้ทุกปี แถมสาขานี้ยังมีความพิเศษอยู่ที่ เป็นการรวบรวมเมนูพิเศษมาไว้ในที่ๆ เดียว ไม่ว่าจะเป็น Milk Shake, Gelato รวมไปถึงชานม คือมาที่เดียวแล้วครบ จบ แน่นอน!

พิเศษกับโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่ที่ The PARQ  กับ โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ตลอดทั้งเดือนกันยา (กระซิบว่าโปรนี้ไม่ได้มีบ่อย) ที่สำคัญคือสมัครสมาชิกฟรีตลอดทั้งเดือน ยัง ยังไม่หมด ยังมีเมนูใหม่ที่จะเปิดตัวที่สาขานี้เป็นที่แรกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอะไร ต้องไป! ส่วนใครที่รอลุ้นสาขาใหม่หลังจากนี้ ปันโปรขอกระซิบเบาๆ ว่าชาวฝั่งธนฯ อาจมีลุ้น ยังไงก็รอฟังข่าวดีกันน้า~

 

 

เราพยายามทำให้ทุกสาขาที่เราเปิด
มันดีขึ้นเรื่อยๆ  เผื่อว่าจุดๆ นึง
เราอาจจะครองใจพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้
- CHA BAR BKK -

 


 

สำหรับใครที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ แล้วอยากจะแวะเวียนเข้าไปทักทายสาวๆ กันที่ร้าน CHA BAR ก็สามารถปักหมุดแล้วไปทักทายกันได้ที่

📍 CHA BAR BKK สาขา สีลม : 063-196-4749

📍 CHA BAR BKK สาขา LidoConnect : 065-937-7144

📍 CHA BAR BKK สาขา เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น G : 065-937-7146

📍 CHA BAR BKK สาขา สวนหลวงสแควร์ (สามย่าน) : 090-926-0081

📍 CHA BAR BKK สาขา The PARQ ชั้น 2  มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ตลอดทั้งเดือนกันยาอยู่ด้วยนะ!

📍รวมไปถึงบริการ Delivery ไม่ว่าจะเป็น GRAB / GET และ LINE MAN

 

Facebook https://www.facebook.com/chabarbkk 

Instagram : chabar.bkk

Line : @chabarbkk

 

 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น
ไพเราะ ชัยชนะ
ไพเราะ ชัยชนะ
4U2 Love Me Harder 2 No.25
ตอบกลับ | 4 ปีที่แล้ว 0
ไพเราะ ชัยชนะ
ไพเราะ ชัยชนะ
ขอสอบถามเรื่องสินค่ะค่ะ
ตอบกลับ | 4 ปีที่แล้ว 0