ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ลดต่ำสุดใกล้แตะ 0% ได้เวลาเก็บเงินวิธีอื่น?
โดย : MilD
แบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ ปรับลดดอกเบี้ยออมทรัพย์เหลือ 0.25%
กลายเป็นดอกเบี้ยเงินฝากต่ำสุด ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 40
เลือกฝากเงินธนาคาร หรือเอาเงินทำอย่างอื่นดีล่ะ?
เห็นสภาพเศรษฐกิจตอนนี้แล้ว หลายคนเลือกจะรัดเข็มขัดตัวเองให้แน่นสุด ขอกอดเงินเอาไว้กับตัวดีกว่า เพราะเราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง เกิดโควิดกลับมาระบาดรอบสองจะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน เก็บเงินสำรองเอาไว้สบายใจสุด บางคนก็ไม่อยากยุ่งยาก เลือกฝากเงินบัญชีออมทรัพย์เนี่ยแหละ ถ้ามีอะไรจำเป็นก็ถอนออกมาได้เลย แต่ดูเหมือนว่าเงินฝากออมทรัพย์ จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้วล่ะ ซึ่งทุกคนโดนกันหมดถ้วนหน้า ไม่ว่าใครก็หนีไม่ได้เลยยย.....
เงินฝากออมทรัพย์ จะฝากเงินเยอะแบบนี้ไม่ได้แล้วล่ะ เพราะดอกเบี้ยต่ำเหลือเกิน
ธนาคารพาณิชย์ไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ระลอกใหม่
ช่วงบ่ายของวันที่ 20 พ.ค. 63 ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เหลือ 0.5% พอเข้าสู่วันรุ่งขึ้นเท่านั้นล่ะ ธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่พักก่อน เอ้ย เดี๋ยวก่อน...แบงก์ลดแค่ดอกเบี้ยเงินกู้อย่างเดียวจริงหรอ? ลองไปแอบดูๆ ประกาศธนาคาร ก็ตามมาด้วยการ "ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก" ในที่สุด
[ตารางอัตราดอกเบี้ยประจำวันของธนาคารพาณิชย์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย]
(Credit : ธนาคารแห่งประเทศไทย)
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของ 4 แบงก์ใหญ่
• ธนาคารกรุงเทพ : ปรับลดลง 0.25% จากเดิม 0.50% เป็น 0.25% ต่อปี (เริ่มมีผลวันที่ 21 พ.ค. 63)
• ธนาคารกรุงไทย : ปรับลดลง 0.25% จากเดิม 0.50% เป็น 0.25% ต่อปี (เริ่มมีผลวันที่ 22 พ.ค. 63)
• ธนาคารกสิกรไทย : ปรับลดลง 0.25% จากเดิม 0.50% เป็น 0.25% ต่อปี (เริ่มมีผลวันที่ 26 พ.ค. 63)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ : ปรับลดลง 0.25% จากเดิม 0.50% เป็น 0.25% ต่อปี (เริ่มมีผลวันที่ 25 พ.ค. 63)
จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 แบงก์ใหญ่ ทยอยปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์และประจำ อย่างไล่เลี่ยกันเลยทีเดียว ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยออมทรัพย์ในรอบหลายปีอีกด้วย เพราะก่อนหน้านี้ก็ลดจาก 0.75% มาอยู่ที่ 0.5%
ทำให้ทุกคนที่มีเงินฝากออมทรัพย์จะได้ดอกเบี้ยลดลงครึ่งนึงทันที หลังจากวันที่มีผลเริ่มใช้ เพราะเป็นบัญชีที่คำนวณดอกเบี้ยรายวันตามประกาศล่าสุดของธนาคารเลย หลังจากลดดอกเบี้ยลงแล้ว เราจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง? มาเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ
• เดิม ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี > ฝากเงิน 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 500 บาท / ฝาก 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5,000 บาท
• ใหม่ ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี > ฝากเงิน 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 250 บาท / ฝาก 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,500 บาท
ไม่ว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่ก็ตามในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะได้รับดอกเบี้ยเหลือเพียงครึ่งเดียว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูเผินๆ แล้วอาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่บัญชีออมทรัพย์ที่มีอยู่ตอนนี้กว่าสิบล้านบัญชี รวมแล้วเป็นเงินไม่น้อยเลยนะ แต่ก็เป็นไปตามเทรนด์ของดอกเบี้ยช่วงนี้แหละ เพราะยังลงไม่หยุดเลยจ้า
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน เป็นยังไง?
ลองย้อนกลับไปตอนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540 ช่วงนั้นถ้าใครเกิดทันจะรู้เลยว่า ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารคือสูงลิ่วมาก มีเงินฝากเยอะก็อยู่เฉยๆ กินดอกได้สบายเลย เงินฝากประจำคือจ่ายดอกเบี้ยเกือบ 15% ต่อปีกันเลยอะ ทุกวันนี้จะหาช่องทางลงทุนให้ได้ผลตอบแทนขนาดนี้ยังยากเลย ฉันจะต้องเสี่ยงแค่ไหน ถึงจะได้คืนมากกว่า 15% แต่ลองมาดูดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารตอนนี้แทบลมจับ นี่คือดอกเบี้ยจริงๆ ใช่มั้ย ทำไมน้อยขนาดนี้เลย ฝากเงินได้ดอกเบี้ยสลึงเดียว ก็ถือว่าไม่ผิดแล้วล่ะ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากย้อนหลัง ไล่เรียงตั้งแต่ก่อนช่วงเกิดวิกฤตปี 40
• วันที่ 31 ต.ค. 2539 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 5% ต่อปี / เงินฝากประจำ 9-11% ต่อปี
• วันที่ 31 ต.ค. 2540 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 5% ต่อปี / เงินฝากประจำ 11-14.5% ต่อปี
• วันที่ 30 ก.ย. 2541 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 5% ต่อปี / เงินฝากประจำ 7-10% ต่อปี
• วันที่ 31 ต.ค. 2544 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 2% ต่อปี / เงินฝากประจำ 2.75-3.75% ต่อปี
• วันที่ 31 ต.ค. 2550 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 0.75% ต่อปี / เงินฝากประจำ 2-2.5% ต่อปี
• วันที่ 31 ต.ค. 2557 : ดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ 0.5% ต่อปี / เงินฝากประจำ 1.1-1.95% ต่อปี
*อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งเป็นหลัก
จะเห็นว่าก่อนเกิดภาวะฟองสบู่แตก ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารคือเยอะมากแม่ นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ก็รวยได้ ฝากเงินกินดอกของจริง อิจฉาสุด ยิ่งช่วงปี 40 คือสูงเกือบแตะ 15% ต่อปีกันเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นดอกเบี้ยเงินฝาก ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยยะสำคัญ ยิ่งเจอพิษเศรษฐกิจในแต่ละระลอกด้วยแล้ว ก็ปรับลดลงตามทิศทางของดอกเบี้ยนโยบายที่แบงก์ชาติกำหนด ลองมาดูตอนนี้แทบกรี๊ด ดอกเบี้ยออมทรัพย์เหลือแค่ 0.25% ต่อปีแล้ววว~
มองหาทางเลือกการลงทุน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน
คำถามตอนนี้คือจะทำยังไงกับยอดเงินในบัญชีดี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม บางคนก็ไม่อยากรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ความจริงแล้วเงินฝากธนาคารที่ได้รับดอกเบี้ยมากกว่าปกติมีอีกเยอะเลย ซึ่งเดี๋ยวนี้แต่ละธนาคารก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพียบ ได้ดอกเบี้ยดีกว่า แต่เสี่ยงเท่าเดิมอีกด้วย
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์ : หลายแบงก์ก็อยากให้ลูกค้า เปลี่ยนมาใช้งานบัญชีแบบออนไลน์แทน ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านออนไลน์เป็นหลัก แบงก์ก็ลดต้นทุนได้ แถมยังให้ดอกเบี้ยที่เยอะกว่า สูงสุดถึง 2% ต่อปีเชียว แม้ว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติจะปรับลดลงแต่ออนไลน์ยังเท่าเดิมอยู่เลย แค่โยกเงินมาฝากง่ายมาก ได้ดอกเบี้ยบานเลย จะดีงามแค่ไหน คลิกเลย
- บัญชีเงินฝากปลอดภาษี : ถือเป็นอีกรูปแบบการออมที่ให้ผลตอบแทนสูง แถมยังไม่เสียภาษีเงินฝากด้วย ฝากเงินเท่ากันทุกเดือนจนครบกำหนดแค่นี้เอง เหมาะสำหรับคนชอบออมเงินไปเรื่อยๆ ไม่ต้องฝากก้อนเดียว ได้เงินเดือนมาก็แบ่งมาออมทุกเดือน แบบนี้แหละเวิร์คมาก คลิกเลย
- หุ้นกู้ : จริงๆ อยากแนะนำพันธบัตรรัฐบาลด้วยแหละ แต่ว่าขายหมดไปแล้วอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับกระแสตอบรับดีมาก แต่ลองหันไปมองหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนแทนก็ได้ เพราะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลอีก แต่ต้องดูความเสี่ยงของบริษัทนั้นๆ ด้วย ว่าเครดิตเรตติ้งเป็นยังไง ถ้าไม่อยากเสี่ยงมาก ก็เลือกซื้อจากบริษัทที่มั่นคงหน่อย ช่วงนี้มีให้เลือกเยอะอยู่ กำลังเปิดขายเลย
ถ้าหากว่าแบกรับความเสี่ยงสูงขึ้นได้ ก็ลงทุนในกองทุนรวม หุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ หรือทองคำก็ย่อมได้ ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีโอกาสขาดทุนเช่นเดียวกัน
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- แบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อีก 0.25% เหลือเพียง 0.25% ต่อปี ซึ่งถือว่าต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้ว เทียบกับช่วงปี 40 ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเคยอยู่ที่ 5% ต่อปีเลยทีเดียว
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ควรใช้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ถ้าจะเอาไว้ออมเงิน คิดใหม่ดีกว่า เพราะดอกเบี้ยต่ำมากจ้า อาจจะโยกเงินไปฝากในบัญชีเงินฝากพิเศษที่ให้ดอกเบี้ยดีกว่า ก็ยังมีอยู่นะ
- ถ้าอยากมองหาทางเลือกในการลงทุนซึ่งให้ผลตอบแทนสูง อาจจะต้องลองดูอย่างอื่นที่ไม่ใช่เงินฝากธนาคารซะแล้ว เพราะดอกเบี้ยยังคงมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ อยู่
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ