Huawei P40 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ซูมสูงสุด 100 เท่าไปเลย
โดย : MilD
Huawei P40 Series สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปใหม่ล่าสุด
แบบนี้ต้องเจาะลึกความน่าสนใจกันหน่อยแล้ว สเปคจัดหนักแค่ไหน
มาพร้อมกล้อง Leica สูงสุดถึง 5 ตัว ถ่ายภาพแบบไหนก็ไม่มีหวั่น
Highlight ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HUAWEI P40 Series
• Huawei P40 Series จะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ P40, P40 Pro และ P40 Pro+ ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของแบรนด์ Huawei ที่ยังคงจัดเต็มด้านสเปคเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพ หรือเทคโนโลยีที่นำมาใช้ แต่ที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษก็คงเป็นเรื่องการถ่ายภาพ
• กล้องหลังของรุ่นนี้ยังคงเป็น Leica เช่นเคย เรื่องคุณภาพคือจัดเต็มแน่นอน ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีจำนวนแตกต่างกันไปนะ เริ่มที่ P40 จำนวน 3 ตัว, P40 Pro จำนวน 4 ตัว และ P40 Pro+ ให้มากถึง 5 ตัวกันไปเล้ยยยย~
• ราคาเปิดตัวในประเทศไทย ตอนนี้ยังไม่ได้มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ จะเริ่มขายในทวีปยุโรปก่อนในวันที่ 7 เม.ย. 63 สำหรับรุ่น P40 และ P40 Pro สำหรับสาวกในไทยอาจจะต้องรอกันอีกซักหน่อย แต่เห็นดีไซน์ก็คืออยากได้มาใช้แล้วนะสิ ใจบางมาก
แม้ว่าทั่วโลกจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศต่างๆ จนทำให้หลายอีเวนต์จะต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei ที่จะเปิดตัวได้ ทำให้งานเปิดตัวในครั้งนี้เป็นการ Live Streaming ผ่านทางออนไลน์เป็นหลักแทน และนี่ก็คือ "Huawei P40 Series" สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเชื่อว่าหลายคนได้เห็นแล้วจะต้องอยากรู้ว่าเจ้าเครื่องนี้ดีงามแค่ไหน แบบนี้ก็ต้องมาเจาะสเปคกันซะหน่อยแล้นนนน~
เริ่มต้นจากรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเครื่องกันก่อน สิ่งแรกที่เห็นเลยคือขอบของหน้าจอบางมากแม่ สำหรับรุ่น P40 Pro และ P40 Pro+ จะเหมือนกัน คือหน้าจอเป็นแบบ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว สัดส่วน 19.8 : 9 ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล แบบ Refresh Rate 90Hz ขอบหน้าจอเป็นแบบโค้งทั้ง 4 ด้าน แสดงผลได้แบบเต็มจอเต็มอารมณ์สุดๆ ส่วนรุ่น P40 เป็นจอ OLED แต่ขนาดหน้าจอเล็กกว่าเพียง 6.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอก็ลดลงเหลือ 1,080 x 2,340 พิกเซล
หน้าจอขอบโค้ง แบบ Quad-Curve Overflow Display
ทำให้สามารถแสดงผลบนหน้าจอได้มากขึ้นกว่าเดิม
สเปคเทพกล้องหลัง 5 ตัว จัดเต็มเรื่องการถ่ายรูป!
จุดเด่นที่จะขาดไม่ได้เลยของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตัวท็อป ที่แต่ละแบรนด์ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร ก็คือ "กล้องถ่ายรูป" เพราะถือเป็นฟีเจอร์หลักที่ต้องจัดเต็ม และเมื่อดูจากสเปคของ Huawei P40 Series แล้วเชื่อว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน จะเด็ดขนาดไหนมาเจาะกันที่ละรุ่นเลยดีกว่า
Huawei P40 กลัองหลัง 3 ตัว
สำหรับรุ่นเล็กสุดในซีรีส์นี้ "Huawei P40" มาพร้อมกับกล้องหลัง Leica จำนวน 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
• กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
• เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4
• เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2
ถือว่ากล้องเป็นไปตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟน ต้องมีกล้องหลังอย่างน้อย 3 ตัวเป็นอย่างต่ำ แต่ความละเอียดของกล้องหลักก็คือไม่ธรรมดาแล้วนะ 50 ล้านพิกเซลกันเลยทีเดียว
Huawei P40 Pro กล้องหลัง 4 ตัว
"Huawei P40 Pro" เป็นรุ่นกลางของซีรีส์นี้ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
• กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
• เลนส์ Telephoto Periscope 5x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/3.4 ซูมได้สูงสุด 50 เท่า
• เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล f/1.8
• เลนส์ ToF Depth Sensing
ถ้าอยากได้ความแอดวานซ์เรื่องการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้นนึง ก็อัปเกรดมาเป็นกล้อง 4 ตัวได้เลยจ้า มีเลนส์ ToF มาเสริมให้ถ่ายรูปได้ดีกว่าเดิม
Huawei P40 Pro+ กล้องหลัง 5 ตัว
สำหรับรุ่นท็อปแบบนี้ "Huawei P40 Pro+" ก็ต้องจัดเต็มเรื่องการถ่ายภาพซะหน่อย จัดให้ไปเลยกล้องหลังถึง 5 ตัว (Penta Camera) คือเด็ดมากแม่ ซึ่งประกอบด้วย
• กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
• เลนส์ Telephoto Periscope 10x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/4.4 ซูมได้สูงสุด 100 เท่า
• เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล f/1.8
• เลนส์ Telephoto 3X ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4
• เลนส์ ToF Depth Sensing
ถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพของการถ่ายรูปแล้วต้องยอมใจเครื่องนี้จริงๆ เชื่อว่าภาพถ่ายที่ออกมาจะต้องเริดสุด ภาพคมชัด ซูมได้ไกล ตามมาตรฐานของ Leica อยากรู้ว่าเด็ดดวงขนาดไหน ต้องไปลองสัมผัสเครื่อง Demo ด้วยตัวเองแล้วล่ะ!
ประสิทธิภาพจัดเต็ม เพื่อให้ทำงานได้ดีที่สุด
Huawei P40 Series มาพร้อมกับชิปประมวลผล Kirin 990 5G | Mali G76MP16 ซึ่งรองรับการใช้งาน 5G และเป็นหน่วยประมวลผลที่ทำงานประหยัดพลังงานที่สุด เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพเวลาใช้งาน ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้กับรุ่น Mate 30 Pro เพิ่มเติมคือให้แบตเตอรี่เครื่องเยอะกว่าเดิมอีกด้วยแหละ
• Huawei P40 ความจุ 3,800 mAh รองรับ Fast Charge 22.5W
• Huawei P40 Pro ความจุ 4,200 mAh รองรับ Fast Charge สูงสุด 40W
• Huawei P40 Pro+ ความจุ 4,200 mAh รองรับ Fast Charge 40W
อีกความน่าสนใจของเครื่อง Huawei P40 Series คือรองรับการใช้งาน WiFI 802.11 AX หรือ WiFi 6 ซึ่งสามารถใช้งานความเร็วสูงสุดได้ถึง 2,400 Mbps เลยทีเดียว ชนะคู่แข่งอีกเท่าตัวไปเลย ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่าเดิม คือแบบว่าเริดนะเออ
ตัวเครื่องจะรองรับการใช้งานแบบ Dual Sim โดยต้องเลือกระหว่างใส่ซิม 2 หรือหน่วยความจำภายนอก (NM Card) รวมถึงสามารถใช้งาน eSim ได้อีกด้วย รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิมเลยจ้า เรื่องเทคโนโลยีเนี่ยบอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วงจ้า ดีที่สุดในเวลานี้ชัวร์
เครื่องรองรับ Huawei Mobile Services ยังใช้งาน Google ไม่ได้เหมือนเดิม
HUAWEI P40 Series ยังคงไม่รองรับระบบปฏิบัติการของ "Google Mobile Service" ไม่มี Google Play Store, แอป Google Maps และ Google Chrome มาให้ภายในเครื่อง เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าก็คือ Mate 30 Series แต่จะใช้งานบนระบบปฏิบัติการ "Huawei Mobile Services" ที่พัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานเฉพาะโทรศัพท์มือถือ Huawei เวลาจะโหลดแอปก็กดที่ AppGallery ซึ่งตอนนี้ก็มีนักพัฒนาแอปเพื่อรองรับการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
ส่องอุปกรณ์เสริม เพิ่มความน่าใช้ขึ้นไปอี๊กกก
นอกจากสเปคเทพๆ ของเจ้าเครื่องนี้แล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมเริดๆ ด้วยนะเออ เริ่มต้นเคสมือถือแบบ Monogram หลากหลายเฉดสี คือสวยมากแม่ เลือกได้ว่าชอบแบบสดใส หรือสีเข้มๆ ก็มีให้เลือกเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ตามใจเลย เห็นแล้วใจสั่นจริงๆ นะ 555 อันไหนก็สวยไปหมด
เคสสำหรับถ่ายรูปใต้น้ำ Snorkeling Case ช่วยปกป้องสมาร์ทโฟนได้อย่างแข็งแกร่งไม่แพ้กับตัวเคสเลย สามารถถ่ายรูปใต้น้ำได้สูงสุดถึง 10 เมตรเลยทีเดียว ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IP68 อยู่แล้ว เจอแบบนี้จะสภาพไหนก็ไม่มีหวั่นแน่นอนจ้า
เค้ามีวางขายแบบชุดพิเศษ Special Set ด้วยเน้อ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าอาจจะไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนะ ดูมีความหรูหราแบบไม่ต้องเยอะ ไฮโซไปอีก อยากได้บ้างจัง แต่ตอนนี้เงินอยู่ไหนก๊อนนน
ราคาเปิดตัวของต่างประเทศ และคาดการณ์ราคาในไทย
• Huawei P40 (ความจุ 8/128 GB) มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ราคาเปิดตัวในยุโรปอยู่ที่ €799 หรือเทียบเป็นเงินไทย ประมาณ 28,XXX.- จะเริ่มขายในยุโรป ตั้งแต่ 7 เม.ย. 63
• Huawei P40 Pro (ความจุ 8/256 GB) มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ราคาเปิดตัวในยุโรปอยู่ที่ €999 หรือเทียบเป็นเงินไทย ประมาณ 35,XXX.- จะเริ่มขายในยุโรป ตั้งแต่ 7 เม.ย. 63
• Huawei P40 Pro+ (ความจุ 8/512 GB) มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวและดำ ราคาเปิดตัวในยุโรปอยู่ที่ €1,399 หรือเทียบเป็นเงินไทย ประมาณ 50,XXX.- จะเริ่มขายในยุโรป เดือน มิ.ย. 63
Huawei P40 Series จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไหร่ คงจะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางอีกครั้งนึง แต่เชื่อว่าไม่นานเกินรอจะต้องได้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดแบบนี้แน่นอน ส่วนราคาเครื่องก็ไม่น่าแตกต่างจากยุโรปสักเท่าไหร่ อาจจะบวกลบนิดหน่อย แต่จะต้องมีขายแบบเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ลดค่าเครื่องแบบจุกๆ ตอนวางจำหน่าย รอติดตามกันได้เล้ยยย~
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ