รับหิ้ว อาชีพนี้น่าสนใจ ทำเป็นงานเสริมก็ได้ จะยึดเป็นอาชีพหลักก็ดี
โดย : Ying
อาชีพเดียวมันไม่พอ ยุคนี้ต้องมีอาชีพเสริม
ในยุคข้าวยากหมากแพง ไม่ว่าจะสินค้าหรือบริการต่างก็ขึ้นราคากันหมด การประกอบอาชีพเพียงอาชีพเดียวนั้นเห็นว่าจะไม่พอ ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน พ่อค้าแม่ค้า หลายคนเลือกที่ประกอบอาชีพมากกว่า 1 อาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอต่อรายจ่ายที่มากขึ้น และยังมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน
ถ้าถามหาอาชีพที่ 2 หรือ 3 ที่อยู่ในเกณฑ์จะมาเป็นอาชีพเสริมได้นั้น ก็คงไม่พ้นงานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ เพราะไม่ฟิกซ์เวลา ทำตอนไหนก็ได้ ถือว่าไม่รบกวนงานประจำสักเท่าไหร่ เพียงแค่ต้องขยันมากขึ้น เวลาพักผ่อนอาจจะน้อยลง สำหรับเรื่องผลตอบแทนก็จะขึ้นอยู่กับความขยัน ยิ่งถ้าในบุคคลที่สามารถจัดสรรเวลาได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ก็ยิ่งทวีคูณตามไปด้วย
นอกจากจะมีอาชีพขายของออนไลน์ รับฟรีแลนซ์เป็นงานๆ ตามแต่จะจัดสรรเวลาได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่บูมขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็คือ อาชีพรับหิ้ว อาชีพของผู้ขยันเดิน เดินห้าง เดินตลาด เดินตามหาร้านที่โปรดี โปรถูก แถมยังเป็นอาชีพที่หาโปรโมชันเก่งมาก ที่ไหนมีโปรโมชันอะไรพวกเขาจะรู้หมด และบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับอาชีพรับหิ้วให้มากขึ้น ข้อดี ข้อเสีย รวมถึง How to การเป็นนักหิ้ว อาชีพที่ทำเป็นงานเสริมก็ดี หรือจะยึดเป็นงานหลักก็ได้เช่นกัน
เดินห้างสร้างอาชีพ เดินทุกวันก็มีรายได้ทุกวัน
🛍️
อาชีพรับหิ้ว หรือที่เราเรียกกันว่า นักหิ้ว ถือเป็นอาชีพรับจ้างรูปแบบหนึ่งที่มาแรงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รูปแบบงานของพวกเขาก็คือ
รับออร์เดอร์จากลูกค้า >> ไปซื้อของที่ร้านตามออร์เดอร์ >> ส่งสินค้าให้ลูกค้า
💙 สถานการณ์จำลองกระบวนการรับหิ้ว
เปย์เป้ประกาศลง Facebook ว่า “รับหิ้วสินค้าภายในงานมหกรรมลดราคาเสื้อผ้าแบรนด์เนม คิดราคารับหิ้ว 80 บาท/ชิ้น ค่าขนส่งคิดราคาตามจริง ในงานมีแบรนด์ A B C D พร้อมแนบรูปคร่าวๆ”
ลูกค้ามาเห็นประกาศ จึงฝากหิ้วรองเท้าไซซ์ 38 สีขาว แต่อยากจะเปรียบเทียบดูว่า ระหว่างแบรนด์ A และแบรนด์ B แบรนด์ไหนจะถูกใจกว่ากัน
เปย์เป้ก็ไปหารองเท้าไซซ์ 38 สีขาวจากทั้งแบรนด์ A และ B แล้วถ่ายรูปพร้อมทั้งแจ้งราคาส่งให้ลูกค้าเปรียบเทียบ พอลูกค้าตกลงรับสินค้าแล้ว ก็จะเกิดการตกลงกันต่อเรื่องการโอนเงิน รวมถึงการจัดส่ง เมื่อตกลงและชำระเงินเรียบร้อยแล้วเปย์เป้ก็จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า เท่านี้ก็ถือว่ากระบวนการรับหิ้วเสร็จเรียบร้อย
ซึ่งการโอนเงินค่าสินค้านั้นก็ขึ้นอยู่กับการตกลง บางเจ้าอาจจะตกลงที่ชำระครึ่งเดียวก่อน พอลูกค้าได้ของจึงจะโอนเงินส่วนที่เหลือ แต่ในบางเจ้าอาจจะให้โอนเงินเต็มจำนวนเลยถึงจะส่งของให้ ตรงนี้จะขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือระหว่างคนที่รับหิ้วและลูกค้า
ถึงแม้ว่าอาชีพนักหิ้วนั้นจะมาบูมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่จริงๆ แล้วนักหิ้วมีมานานแล้วนะ เพียงแต่ว่าในอดีตเราไม่มีชื่อให้อาชีพนี้ มองเป็นแค่การจ้างงานกันปกติเลย หลายคนน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ดังนี้
- ร้านขายอาหารตามสั่งจ้างให้วินมอเตอร์ไซต์ไปซื้อหมูสดที่ตลาด
- อาม่าบ้านเลขที่ 8 จ้างสามล้อไปซื้อดอกไม้ไหว้พระที่ปากคลองตลาด
ซึ่งพี่วินกับลุงสามล้อก็แค่เปลี่ยนจากรับ-ส่งผู้โดยสาร เป็นรับ-ส่งหมูและดอกไม้แทน ส่วนค่าจ้างก็ตามที่ตกลงกันกับอาม่าเลย แต่ในปัจจุบันการรับหิ้วจะมีรูปแบบแตกต่างจากสมัยอาม่าอากง มีแพทเทิร์นมากขึ้น มีขั้นตอนที่ชัดเจนขึ้น มีรายละเอียดให้นักหิ้วทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย อาจจะมีเรื่องของการถ่ายรูปประกอบ ยังรวมไปถึงการยืนยันตัวตน ยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการรับหิ้วโดยการถ่ายรูปบัตรประชาชนก็มีเช่นกัน ส่วนมากจะเป็นการรับหิ้วสินค้าที่มีราคาแพงมากๆ
ตัวอย่างการรับหิ้วตามโพสต์โปรโมทมหกรรมสินค้าลดราคา
อาชีพนักหิ้วมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
พร้อม How to การเป็นนักหิ้วมือฉมัง
🛍️
งานรับหิ้วดูเป็นอาชีพที่สบาย ทำได้ง่าย ยิ่งวันไหนเราขยันเดินหน่อยก็มีสิทธิ์ที่รายรับของเราจะมีมากขึ้น ถ้าเรามาไล่ดูข้อดีของอาชีพนี้ทีละข้อ จะพบข้อดีหลักๆ ตามนี้เลย
💙 ข้อดีที่ทำให้งานรับหิ้วน่าทำ
- เลือกเวลาทำงานได้ ข้อนี้ถือว่าถูกใจใครหลายคนเลยนะ ทำหลังเลิกงานก็ได้ พวกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์คือช่วงเวลาทอง เพราะสามารถเดินซื้อของได้ตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิดไปเลย ของแบบนี้ทำมากก็ได้มาก
- ซื้อบ่อยๆ ก็สะสมแต้มบัตรเครดิต แต้มสมาชิกได้ ข้อนี้เรียกว่าเป็นผลพลอยได้ หรือจะเรียกว่าเป็นข้อดีตรงๆ เลยก็ได้ เพราะแต้มบัตรเครดิต หรือแต้มสมาชิกแบรนด์ต่างๆ สามารถใช้เป็นส่วนลดหรือแลกสิทธิพิเศษได้อีก 1 ต่อ มีแต่คุ้มกับคุ้ม นักหิ้วของจากต่างประเทศบางท่าน มีแต้มบัตรเครติดสูงซะจนสามารถแลกไมล์จากสายการบินได้เลยก็มี
- นักหิ้วเป็นอาชีพที่ทำง่าย คำว่าง่ายในที่นี้คือ ไม่ต้องมีการคัดเลือก ไม่ต้องสอบแข่งขัน เราสามารถเป็นนักหิ้วได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์งานจากใคร ไม่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ ว่างก็ทำ ติดงานประจำก็แค่หยุด คนเดียวที่เราจะต้องให้ความใส่ใจก็คือลูกค้า
ทุกอาชีพมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถึงแม้งานรับหิ้วจะดูทำง่าย ได้เงินง่าย แต่ก็มีปัญหาให้ต้องหาวิธีแก้ไขเช่นกันนะ ปัญหาหลักๆ ของงานรับหิ้วก็จะมีดังนี้เลย
💙 ปัญหาที่มักจะพบบ่อยของนักหิ้ว
- ความเสี่ยง ความเสี่ยงในที่นี้มีหลายแบบ ทั้งเสี่ยงโดนโกง เสี่ยงโดนเท นอกจากลูกค้าจะมีความเสี่ยงที่จะเจอนักหิ้วโกงแล้ว นักหิ้วก็มีโอกาสที่จะเจอลูกค้าโกงได้เช่นกัน บางครั้งเดินทางไปถึงหน้างานแล้วแต่ลูกค้ากลับเท ไม่ซื้อซะงั้น ตรงนี้ก็ทำให้บรรดานักหิ้วปวดหัวได้เช่นกันนะ ทุกการเดินทางล้วนมีต้นทุน ยิ่งหนักเข้าไปอีกถ้านักหิ้วออกเงินซื้อของไปแล้วแต่ลูกค้าไม่รับสินค้าแล้ว หรือไม่ก็ส่งของให้แล้วแต่ลูกค้ากลับไม่โอนเงินส่วนที่เหลือ ถือเป็นความเสี่ยงที่นักหิ้วต่างต้องแบกรับ และต้องหาทางออกให้ได้
- เงินทุน บนเส้นทางนี้ นักหิ้วมักจะต้องสำรองเงินไปก่อน บางออร์เดอร์สำรองจ่ายแค่ครึ่งเดียว แต่ในขณะเดียวกันบางออร์เดอร์อาจจะต้องสำรองไปเต็มๆ ถ้าใครที่มีเพียงเงินสดก็อาจจะมีเสียวสันหลังกันบ้างแหละ เพราะถ้าโดนเทออร์เดอร์ลูกค้าไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลือขึ้นมาเรียกว่าก็เจ็บหนัก ต้องวิ่งหาที่ปล่อยของต่อ แต่ถ้านักหิ้วมีบัตรเครดิตก็จะเป็นผลดีต่อตัวนักหิ้วมากกว่า นั่นก็เพราะบัตรเครดิตมีระยะเวลาก่อนจะเรียกชำระ ถ้านักหิ้วหาที่ขายสินค้าที่โดนเททัน ก็จะมีโอกาสที่จะได้เงินคืนทันจ่ายค่าบัตรเครดิตทันรอบพอดี
💙 อยากเป็นนักหิ้วต้องทำอย่างไร
ข้อนี้ต้องบอกเลยว่า ความน่าเชื่อถือคือเรื่องสำคัญของนักหิ้ว กว่าจะเป็นนักหิ้วมือฉมังได้ต้องสร้างความน่าเชื่อถือมาไม่น้อยเลย แล้วอะไรล่ะที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้นักหิ้ว ? ในมุมของลูกค้าผู้ที่มักฝากหิ้วบ่อยๆ จะมีเกณฑ์พิจารณาดังนี้เลย
- ตอบเร็ว ตอบตรง ไม่หายไปไหนนาน แน่นอนว่านักหิ้วต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ลูกค้ามาสอบถามข้อมูลก็พร้อมจะตอบ และต้องตอบเร็ว ลองนึกสภาพว่า ถ้าลูกค้าสอบถามรายละเอียดมาทางแชทอยากจะฝากหิ้วกระเป๋าสักใบ แต่นักหิ้วตอบช้าไป 3 ชม. ลูกค้าคงไม่ไว้ใจเราสักเท่าไหร่ หรือถ้าลูกค้าโอนเงินมัดจำมาแล้ว แต่นักหิ้วไม่ตอบ หายไปเลยไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สิ่งนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความวุ่นวายใจ และอาจถึงขั้นแจ้งความได้
- รีวิวจากผู้เคยใช้บริการ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ลักษณะก็จะคล้ายๆ กับที่เราจะซื้อของออนไลน์จากแอป หรือร้านตาม Facebook IG นั่นแหละ เรามักจะเลื่อนดูรีวิวก่อน ถ้าร้านไหนไม่เคยมีรีวิวเลยก็อาจจะถูกตัดออกจากตัวเลือก ยิ่งถ้าร้านไหนรีวิวไม่ดีแถมไม่เห็นการแก้ปัญหาจากแม่ค้าก็ยิ่งไม่ติด 1 ในตัวเลือกไปอีก งานรับหิ้วก็เช่นกัน รีวิวจากลูกค้าเป็นเหมือนใบประกาศว่าเราเป็นนักหิ้วที่ดี เป็นนักหิ้วที่เชื่อถือได้
อีก 1 เรื่องที่นักหิ้วต้องมีคือ หูตาว่องไว ยิ่งรู้เยอะ ก็ยิ่ง SAVE เยอะ รู้ในที่นี้ก็คือ ร้านไหนมีโปรโมชันเด็ด หรือมีงานลดราคาที่ไหนต้องรู้ ต้องไว เพราะนั่นคือโอกาสในการหาลูกค้า อีกทั้งยังได้สินค้าในราคาถูกกว่าปกติอีกด้วย ยิ่งเรารู้โปร หรือรู้ส่วนลดบัตรเครดิตก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ Cash Back เอย สะสมแต้มเอย ใช้แต้มเป็นส่วนลดเอย สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วย SAVE เงินให้นักหิ้วได้ทั้งนั้น !
ช่วงแรกที่อาชีพนักหิ้วบูมขึ้นมานั้น ส่วนมากก็จะเป็นการหิ้วสินค้าพวก เสื้อผ้า กระเป๋า หรือของแบรนด์เนมต่างๆ เราจะเห็นในลักษณะรับหิ้วสารพัดสินค้าจากต่างประเทศซะส่วนใหญ่ เพราะตอนนั้นในไทยยังมีสินค้าไม่หลากหลายมาก จนในปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่ามีรับหิ้วทุกอย่าง แม้แต่อาหารเจ้าดังที่ต้องต่อแถวรอคิวนานเป็นชั่วโมงก็มี คือเรียกว่าหากสามารถสร้างรายได้แก่นักหิ้วได้ และไม่ผิดกฎหมายพวกเขาก็รับหิ้วเกือบจะทั้งหมด
ทุกวันนี้มีนักหิ้วไม่น้อยเลย ที่ไปได้ดีกับอาชีพนี้จนลาออกจากงานประจำ และหันมายึดอาชีพนักหิ้วเป็นอาชีพหลัก รับหิ้วของทุกอย่างที่สามารถจะหิ้วได้ แต่ไม่ว่าการรับหิ้วจะไปจับการสินค้า หรือบริการใด สิ่งสำคัญของอาชีพลักษณะนี้ก็ยังเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือได้มาก งานก็ยิ่งมีเข้ามามาก รายได้ก็ยิ่งวิ่งเข้าหามากเช่นกัน
🛍️
💙 อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ที่นี่
- เปิดแล้ว! เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ห้างใหม่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางง่ายกว่าที่คิด~
- พาทัวร์ "Tops CLUB พระราม 2" พิกัดรวมของนำเข้าจากทั่วโลก มีขนมอิมพอร์ตเพียบ!
- ตะลุย! ดอง ดอง ดองกิ ซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สาขา 7 เปิดตลอด 24 ชม.
- ปันโปรรับหิ้ว
โดย Ying
ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ