มือใหม่ปลูกอะไรดี? รวม 7 ต้นไม้เลี้ยงง่าย ตายยากที่มือใหม่ต้องรู้!

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer17 เม.ย. 2563 avatar writer53.7 K
มือใหม่ปลูกอะไรดี? รวม 7 ต้นไม้เลี้ยงง่าย ตายยากที่มือใหม่ต้องรู้!

อยู่บ้านมันว่างเกินไป หลายคนเลยหันมาปลูกต้นไม้กันใหญ่
สำหรับมือใหม่อย่างเรา ต้องศึกษาข้อมูลกันให้ดีก่อนคิดที่จะปลูก
โดยเฉพาะเหล่าต้นไม้ตายยาก (แต่เลี้ยงไม่ยาก) เหล่านี้
เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ เลยนะ!


ได้เวลาทิ้งเหล่าต้นไม้ปลอม แล้วคว้าต้นไม้จริงมาปลูกกันดีกว่า ไหนๆ ช่วงนี้มันก็ว่างๆ ถือโอกาสซื้อต้นไม้มาปลูกกันสักหน่อยไหม แถมช่องทางการซื้อเดี๋ยวนี้ก็ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินตลาดต้นไม้กันอีกต่อไป เพราะร้านค้าออนไลน์เค้าก็เริ่มมีการขายต้นไม้กันแล้วนะ ซึ่งคุณสมบัติของต้นไม้ นอกจากจะช่วยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูดีขึ้นแล้ว ต้นไม้บางประเภทยังทำหน้าที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้านได้ดีด้วย แต่สำหรับมือใหม่คงมีกังวลกันบ้างว่าจะรอดไหม จะบอกว่าเหล่าต้นไม้ที่เรานำมาฝากกันเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่น้อย ที่สำคัญคือตายยากมาก! ถ้าไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน ลองมาเริ่มที่น้องๆ เค้าดูกันก่อนก็ได้น้า

 


แค่ปลูกต้นไม้ ก็เปลี่ยนห้องธรรมดาให้เหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารได้


ไม่ว่าเพื่อนๆ จะอยู่ที่คอนโด หรือบ้าน ก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาๆ ให้มีสีสันขึ้นมาได้ด้วยสีเขียวของต้นไม้ ที่นอกจากจะทำให้พื้นที่ดูสบายตาขึ้นมาแล้ว ถ้าจัดวางองค์ประกอบดีๆ รับรองว่าสวยไม่แพ้ภาพที่เราเห็นตามนิตยสารกันเลย และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าคุณสมบัติของต้นไม้บางชนิดยังสามารถช่วยฟอกอากาศภายในบ้านของเรากันได้ด้วย งานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว  รีบไปหาต้นไม้มาปลูกกันดีกว่า

 


คำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดปลูก


  • ต่อให้ขึ้นชื่อว่าตายยากแต่เราจะจับน้องเค้าไปวางสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ อย่าลืมดูความเหมาะสมของพื้นที่ก่อนจะซื้อต้นไม้มาปลูกกันด้วย อย่างพื้นที่ในห้องบางคนจำกัดมากๆ แต่ซื้อไม้ยืนต้นมาปลูก แบบนี้งานงอกของจริง เพราะวันนึงน้องเค้าอาจจะงอกสูงทะลุเพดานเลยก็ได้ หรืออย่างบางคนเอาน้องไปตั้งไว้อยู่ใกล้ๆ พัดลมแอร์ แบบนี้ก็เสี่ยงทำให้ใบฉีดขาดได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อต้นไม้มาปลูก อย่าลืมดูพื้นที่ในบ้านรวมถึงสอบถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่าเราพร้อมแล้วหรือยัง ถ้าพร้อมที่จะเลี้ยงจริงๆ คำถามข้อต่อไปคือเราสามารถนำน้องเค้ามาตั้งไว้ตรงไหนได้บ้าง ที่ปลอดภัยกับทั้งตัวน้องและตัวคนเลี้ยงอย่างเรา
  • สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้ว อะไรคือความไม่ปลอดภัยสำหรับคนเลี้ยงหรอ ก็เพราะว่าบางคนนำน้องมาตั้งไว้ในที่ที่ผิด คุณสมบัติของน้องบางต้นอาจจะไม่เหมาะกับการนำมาตั้งไว้ในห้องนอน แต่เราดันนำน้องมาตั้งซะงั้น แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นนอกจากจะศึกษาพื้นที่แล้ว คนเลี้ยงอย่างเราก็อย่าลืมทำความรู้จักกับน้องเค้าให้ละเอียดกันก่อนด้วยว่าเค้าชอบ ไม่ชอบอะไร เหมาะจะนำมาตั้งไว้ในห้องนอนไหม หรือควรจะเลี้ยงไว้กลางแจ้งดี

 

 

  • นอกจากพื้นที่พร้อม คนเลี้ยงพร้อม อุปกรณ์สำคัญในการปลูกก็ต้องพร้อมด้วย อาทิ ฟอกกี้ฉีดน้ำ, อาหารเสริมต้นไม้, กระถาง, ปุ๋ย, ดิน ฯลฯ ถ้าไม่รู้แนะนำให้ลองถามคนขายตอนซื้อต้นไม้กันดูว่าเราควรที่จะต้องมีอะไรบ้าง อย่างอาหารเสริมต้นไม้เราอาจจะให้หรือไม่ให้ก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของต้นไม้ที่เราซื้อมากันอีกที
  • ข้อสุดท้ายคือ เลี้ยงน้องแล้วก็อย่าลืมดูแลน้อง ถึงแม้ว่าน้องจะตายยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องจะไม่ต้องการให้เราดูแลอะไรเลยนะ อย่าลืมพาน้องออกมารับแดดบ้าง (สำหรับต้นไม้ที่ชอบให้โดนแดด) พ่นน้ำเป็นครั้งคราว รวมไปถึงเปลี่ยนกระถาง เมื่อเริ่มรู้สึกว่าน้องโตมากพอที่จะต้องย้ายเข้าไปอยู่ในกระถางใบใหม่ได้แล้ว เห็นไหมว่าขั้นตอนการเลี้ยงต้นไม้ต้นนึงไม่ได้ยากเกินความสามารถของเรา แค่ต้องใส่ใจและมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงจริงๆ เท่านั้นพอ สำหรับใครที่อยากรู้กันแล้วว่าต้นไม้ตายยากนั้นจะมีอะไรกันบ้าง หยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา แล้วจดลิสต์ไปซื้อกันได้เลย!

 


พลูด่าง


80% ของมือใหม่ที่เริ่มปลูกต้นไม้ล้วนเลือกปลูกพลูด่างแทบจะทั้งนั้น ถ้าเปรียบกับคน คนๆ นั้นจะเป็นคนที่กินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก ซึ่งนี่ก็เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของพลูด่าง เพราะไม่ว่าจะจับลงดิน หรือลงน้ำน้องก็อยู่ได้ทั้งนั้น ถ้าลงดินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำน้องออกมาโดนแดดบ่อยๆ เพราะน้องไม่ชอบแดด แต่ถ้าพื้นที่มีจำกัดหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็หาอะไรมาบังๆ น้องเค้าไว้หน่อยก็ดี แต่ถ้าเลี้ยงในน้ำ ก็อย่าลืมหมั่นเอาใจใส่โดยการเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แนะนำเคล็ดลับสำหรับใครที่อยากเห็นน้องเลื้อยลงมาอย่างสวยงามให้นำน้องเค้ามาแขวนไว้ในที่สูง ถึงเวลาน้องก็จะเลื้อยลงมา จนเมื่อมองเผินๆ นึกว่าผมของราพันเซลซะอีกนะเนี่ย

คุณสมบัติของพลูด่าง : ฟอกอากาศได้ดี กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยให้พื้นที่บริเวณที่เลี้ยงนั้นขึ้นเย็นได้ แถมยังช่วยดูดสารพิษในอากาศ ที่สำคัญคือเลี้ยงในห้องนอนได้นะๆ ค่าตัวน้องเค้าไม่แรงเลย เริ่มต้นแค่หลักสิบเท่านั้นเอง

 

 


ลิ้นมังกร


หลายเสียงว่ากันว่าน้องเลี้ยงง่ายมากถึงมากที่สุด ไม่ต้องดูแลอะไรมากก็รอด! สำหรับน้องลิ้นมังกรต้นนี้ แนะนำนิดนึงก่อนที่จะไปซื้อมาเลี้ยงกัน เห็นน้องเค้าแบบนี้แต่ถ้าให้โตขึ้นมาที น้องเค้าจะโตเร็วติดจรวดไปเลยนะ ดังนั้นต้องหมั่นดูแลเค้าบ่อยๆ พื้นที่เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องกว้างนิดนึง เพราะใบของน้องสามารถขยายและยาวขึ้นได้เยอะมาก คือถ้ารู้สึกว่าใบเริ่มเยอะ หรือเริ่มยาวเกินไปต้องรีบไปหากระถางใบใหม่มาเปลี่ยนด่วนๆ แถมน้องก็ไม่เรื่องมากเลย อยู่ในที่มืดก็รอด (แต่จะโตช้าหน่อย) อยู่ในที่แจ้งก็จะยิ่งชอบ (และก็จะโตเร็วมากๆ ด้วย) ดังนั้นถ้าจะเลี้ยงแนะนำให้เดินสายกลางไปเลย คือโดนแดดได้ แต่ไม่ต้องเยอะมากก็เพียงพอแล้ว ส่วนการให้น้ำก็ไม่จำเป็นต้องให้ทุกวัน แต่ถ้าให้ทีก็รดให้ดินชุ่มไปเลย เพราะน้องไม่ชอบน้ำเท่าไหร่ ดังนั้นให้น้ำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วจ้า

คุณสมบัติของลิ้นมังกร : ดูดซับสารพิษได้ดีมาก องค์การนาซายังยอมรับคุณสมบัตินี้ของน้องกันมาแล้ว ที่สำคัญคือสามารถตั้งน้องเค้าไว้ในห้องนอนก็ได้ (แต่ควรวางไว้ในพื้นที่กว้างนิดนึง) หรือจะยกมาตกแต่งที่มุมอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ราคาก็ไม่แพง เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย กินง่ายแบบนี้จัดมาไว้ที่ห้องกันสักต้นดีไหม?

 

 


ว่านงาช้าง


แค่ชื่อก็กินขาด พอเห็นหน้าตายิ่งกินขาดเข้าไปใหญ่ บอกเลยน้องไม่ได้มาเล่นๆ แต่น้องมาเพื่อแตกหน่อ! ใช่แล้วจ้ะ สำหรับว่านงาช้างนี้เราจะวัดการโตขึ้นของมันจากความสูงของหน่อ รวมไปถึงการแตกหน่อด้วยเช่นกัน ถ้าใครอยากจะขยายพันธุ์ก็สามารถทำได้ด้วยการนำหน่อของน้องมาปักไว้ในดินที่กระถางใบอื่น สำหรับวิธีการเลี้ยงก็ง่ายมากๆ เพราะต่อให้ไม่เจอแดดน้องก็รอด ไม่ค่อยให้น้ำน้องก็รอด โดยน้องจะค่อยๆ โต ไม่ได้โตติดสปีดเหมือนลิ้นมังกร ให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง - สองครั้งก็เอาอยู่ แดดพามาเจอบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ได้ น้องไม่ติด

คุณสมบัติของว่านงาช้าง : รู้กันไหมว่าในหน่อของน้องๆ ที่แตกออกมานั้นมีปริมาณน้ำอยู่ภายในเยอะมาก เพราะคุณสมบัตินี้เองที่ทำให้น้องไม่ต้องการน้ำเยอะขนาดนั้น แถมยังมีคุณสมบัติในการช่วยฟอกอากาศ ดูดสารพิษ และช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นลงได้ ยังๆ เค้ายังมีคุณสมบัติทางยาด้วยนะ เราสามารถตัดน้องแล้วนำมาทาเพื่อรักษาอาการผดผื่นตามผิวหนังได้ด้วยเหมือนกัน แต่แนะนำว่าอย่าไปตัดน้องเค้าเลย ปล่อยไว้ให้น่าเกรงขามสวยๆ ต่อไปดีกว่าน้าา

 

 


สัปปะรดอากาศ


ถึงแม้ว่ามองเผินๆ น้องอาจจะดูไม่ได้น่าสนใจ แต่จะบอกว่าน้องเลี้ยงง่ายมาก เพราะน้องไม่ได้ต้องการดินหรือการใส่ปุ๋ยอะไรเลย น้องแค่ต้องการที่ยึดเกาะเท่านั้นเป็นพอ สังเกตจากภาพที่ยกมาเป็นตัวอย่าง นี่ไม่ใช่แค่ภาพสำหรับการถ่ายรูปธรรมดาๆ แต่น้องเค้าอยู่แบบนี้ได้จริงๆ อย่างที่บอกว่าขอแค่พื้นที่ยึดเกาะ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นขดลวดเอย หรือจะวางทิ้งไว้ในกระถางเปล่าๆ ก็ได้ และถึงแม้ว่าน้องจะมักน้อย แต่สิ่งที่ต้องการก็มี นั่นก็คือแสงแดดที่เพียงพอ (ไม่ถึงกับต้องนำไปวางไว้กลางแดด) กับน้ำที่ต้องคอยพรมให้สม่ำเสมอ วิธีสังเกตง่ายๆ ถ้าน้องต้องการน้ำคือใบทั้งหมดจะหุบเข้า แต่ถ้าน้องได้น้ำขึ้นมาเท่านั้นแหละ อ้าแขนดีใจกันใหญ่เลยจ้า

คุณสมบัติของสัปปะรดอากาศ : เป็นของตกแต่งบ้านที่ดีมาก จะแขวนไว้ตามชั้นวาง หรือตามขอบหน้าต่างก็ได้หมด แถมค่าตัวไม่แรงเลย บางที่ขาย 3 ต้น 100 ก็มี ดูแลง่าย ไม่ต้องการอะไรมาก ราคาก็ไม่แรง น่ารักน่าเอ็นดูสมชื่อไปเลยใช่ไหม

 


กวักมรกต


อะไรจะเลี้ยงง่ายขนาดนั้นสำหรับกวักมรกต หลายคนให้ชื่อน้องว่าเป็นต้นไม้ที่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจ เพราะไม่ว่าจะให้น้ำน้อย หรือให้นานๆ ครั้ง นับว่าไม่เป็นปัญหา น้องสามารถอยู่รอดทุกสถานการณ์ได้แบบชนิดที่ว่าทำคนเลี้ยงต้นไม้หลายคนทึ่งกันมาแล้ว สำหรับชนิดของกวักมรกตนั้นมีให้เลือก 2 แบบคือกวักมรกตเขียวและกวักมรกตดำ โดยกวักมรกตดำนั้นจะมีราคาที่สูงกว่าขึ้นมาหน่อย แต่รับรองว่าได้มาแล้วคุ้มค่าแน่นอน เพราะน้องดูแลง่ายมาก ขนาดก็มีให้เลือกทั้งแบบใหญ่ไปเลย หรือจะมินิก็มี ต่อให้พื้นที่จะจำกัดแค่ไหนก็เลี้ยงได้แน่นอน

คุณสมบัติของกวักมรกต : น้องเป็นของแต่งห้องที่ดีมาก แถมวิธีการดูแลก็ไม่ยากเพียงแค่รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องโดนแดดจังๆ ขอแค่เพียงมีแสงแดดส่องเบาๆ ก็ได้แล้ว หรือใครสนใจจะนำมาวางไว้ในห้องนอนก็ได้นะ เพราะน้องมีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศด้วย ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่า

 

 


ซานาดู


อีกหนึ่งต้นที่เลี้ยงง่ายและคนมักจะนิยมเลี้ยงไว้ประดับตกแต่งพื้นที่ในบ้าน ได้แก่ ซานาดูต้นนี้นั่นเองจ้า นอกจากจะเลี้ยงง่ายแล้วน้องยังมีใบที่สวย อาศัยน้ำและดินที่ร่วนพอดีไม่แฉะมาก ส่งผลทำให้ปริมาณของน้ำที่รดไม่จำเป็นต้องเยอะ แสงก็ต้องการแค่ประมาณ 50-60% เท่านั้นก็พอแล้ว 

คุณสมบัติของซานาดู : นอกจากน้องจะเป็นของแต่งบ้านแล้ว น้องยังมีคุณสมบัติที่ช่วยฟอกอากาศได้  และมีอายุค่อนข้างยืดยาว ที่สำคัญคือใบน้องสวยมากๆ เลย

 

 


เข็มสามสี


จะเลี้ยงน้องเค้าต้องระวังนิดนึง เพราะบางทีถ้าเราเผลอๆ น้องอาจจะทิ่มเราขึ้นมาได้ (แต่ไม่ได้มีหนามนะจ๊ะ)  สำหรับเข็มสามสีนี้ก็เลี้ยงง่าย ทน แถมยังให้สีสันสดใสแตกต่างจากต้นอื่นๆ จุดเด่นนั้นอยู่ที่ใบที่มีสามสีเหมือนชื่อจริงๆ  ขั้นตอนการดูแลก็ไม่ยาก ขอแค่มีแสงพอส่องถึงก็ได้แล้ว ยิ่งถ้าได้อยู่ใกล้ชิดกับแดดมากๆ ก็จะยิ่งช่วยทำให้สีของใบดูสวยขึ้นมาได้ การรดน้ำแค่อาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำก็พอ แต่รดทีก็เอาให้ชุ่มกันไปเลยนะ ง่ายๆ แค่นี้ก็ต่อชีวิตน้องได้แล้ว

คุณสมบัติของเข็มสามสี : ฟอกอากาศได้ดีมากๆ แถมยังดูดสารพิษได้ดี โดยเฉพาะสารพิษที่มาจากสีทาบ้าน และใครที่อยากเห็นดอกปุ๊กปิ๊กของน้อง ก็ตั้งแต่นับวันรอได้เพราะน้องมักจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนเมษายน ซึ่งเวลาที่ดอกบานนั้นจะให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยน้าา

 


ศึกษาวิชากันเรียบร้อยแล้ว
รีบมาเข้าแก๊งกับสาวๆ เหล่านี้กันได้เลยจ้า


 


ปันโปรสรุปให้


• นอกจากต้นไม้ 7 ชนิดที่แนะนำไป ยังมีต้นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ ยังไงก่อนที่จะซื้อมาเลี้ยงก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลของน้องๆ กันให้ดีก่อนน้า

• ถ้าจะให้แนะนำ แอดขอแนะนำต้นไม้ประเภทที่ฟอกอากาศได้ เพราะนอกจากจะเลี้ยงง่ายตายยาก น้องยังมีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศให้ห้องเราอีก ดีแบบนี้ต้องบอกต่อกันด่วนๆ

• การปลูกต้นไม้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนหันมาให้ความสนใจกันมากในช่วงนี้ อย่างดาราหลายคนก็นำร่องกันไปบ้างแล้ว ยกตัวอย่างพี่ญ่า ขวัญใจแอดที่ขยันหาซื้อต้นไม้มาปลูกเพียบ ทำเอาทางเรากิเลสพุ่งตามไปด้วยเลยเนี่ย

 

 

via GIPHY

 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น