จังหวะนื้เนื้อคู่ต้องมาแล้ว! รวม 6 "รายการเรียลลิตี้ออกเดตใน Netflix" Single’s Inferno จบ แต่พวกเราไม่จบค่ะสาว

 

รับบทนางฝังใจ รับบทนางยึดติด 😅

ไหน มีเพื่อน ๆ คนไหนกำลังตกอยู่ในโหมด 'รายการจบแต่คนยังไม่จบ' เหมือนกันบ้าง ?

 

นี่ขนาดรายการ Single's Inferno บอกลาจอไปเกือบ ๆ สองอาทิตย์แล้ว ทางเราก็ยังอินไม่หาย รีบตามหารายการแนวเดียวกันมาดูใหญ่ จนได้ไปเจอกับหมัดเด็ด ที่เรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกของรายการเรียลลิตี้ออกเดตให้กับทางเรากันเลย แต่การจะให้มานั่งดูอยู่คนเดียวมันก็คงจะน่าเบื่อเกินไป วันนี้เลยจัดการหยิบมาป้ายยาให้ทุกคนกัน รับรองว่าแต่ละรายการ คือเด็ด คือเผ็ช และเป็นตาแซ่บ 🌶️  แบบชนิดที่ว่าพริกทั้งสวนก็อาจจะทำอะไรพวกเค้าและเธอเหล่านี้ไม่ได้ !

 

---

 

ป้ายยา รายการเรียลลิตี้ออกเดตสุดฮอต

ดูเพลิน ๆ ปลุกอินเนอร์ในการหาคู่ไปในตัว !

 

 

🔥  Single's Inferno

 

ประเดิมกันด้วยสาเหตุที่ทำให้ทางเรา (และหลายคน) โดนรายการเรียลลิตี้ประเภทนี้ตกเข้าอย่างจัง ! และถึงแม้ว่ารายการจะออกอากาศตอนสุดท้ายไปได้สักพักแล้ว แต่กระแสของรายการ รวมถึงผู้เข้าร่วมรายการยังคงถูกหยิบมาพูดถึงกันอยู่เรื่อย ๆ กับรายการเรียลลิตี้ออกเดตจากฝั่งเกา Single's Inferno

 

โดยรายการนี้เป็นรายการที่ให้ผู้เข้าร่วมรายการทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนเกาะร้าง พร้อมกับทำความรู้จักและสานสัมพันธ์ ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน รวมถึงความสะดวกด้านอื่น ๆ ซึ่งคู่ไหนที่ใจตรงกัน จะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนเกาะสวรรค์เป็นเวลา 1 คืน  และพวกเค้าจะสามารถทำความรู้จักกันได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่องอายุ อาชีพ รวมถึงนิสัยใจคอ  (เพราะถ้าอยู่บนเกาะร้างจะไม่สามารถบอกรายละเอียดตรงนี้ได้ เนื่องจากเป็นกฏของทางรายการ) และนอกจากเราจะมานั่งดูหนุ่มสาวเค้าเรียนรู้กันแล้ว จะบอกว่ากิจกรรมต่าง ๆ ภายในเกาะก็ทำออกมาได้สนุกสนานตามแบบฉบับรายการเกาหลี ถ้าได้เริ่มแล้วรับรองว่าติดงอมแงม รู้ตัวอีกทีคือดูครบทุกตอนแล้วเฉย 😅 

 

---

 

 

🔥 Too Hot To Handle

 

สารภาพว่านี่เป็นรายการที่เราเลือกดูเป็นรายการแรกหลังจากี่ดู Single's Inferno จบ  สาเหตุที่เลือกรายการนี้มาดูต่อก็เพราะว่ามันขึ้นแนะนำใน Netflix (เท่านั้นเลย) ที่สำคัญเราเดาเอาเองว่ามันน่าจะดังอยู่นะในต่างประเทศ เพราะเห็นว่ามีหลายเวอร์ชัน แถมยังมีหลายซีซั่นไปอีก คือกะว่าจะดูเพลิน ๆ ซึ่งผลปรากฏว่า มันแซ่บมากทุกคน คือ Single's Inferno กลายเป็นใสใสไปเลยเมื่อเทียบกับ Too Hot To Handle นี้ แล้วที่สำคัญ คือ รายการนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างแล้วหลายเวอร์ชัน มีทั้งเวอร์ชัน Latino และ Brazil อย่างเวอร์ชัน UK ดั้งเดิมก็กำลังจะงอกซีซันใหม่ออกมาแล้วด้วย ก็คือสารพัดเวอร์ชันมาก เลือกดูกันให้ตาแตกไปเลย 🤣 

 

แต่บอกไว้ก่อนว่า เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นรายการของทางฝั่งตะวันตกแล้ว 'เรื่องอย่างว่า' ทางบ้านเค้าก็คือจริงจังมากแม่ ดังนั้นขอขึ้น ไฟแดง เตือนไว้ก่อนเลยว่า เนื้อหาของรายการอาจจะพุ่งปรี๊ดจนบางอีพีอาจจะทะลุ 18+ กันไปบ้าง ถ้าใครรับไม่ได้ หรือไม่ชอบเรื่องแนว ๆ นี้ ทางเราแนะนำว่าอย่าหาทำกันดีกว่า เดี๋ยวอกอีแป้นจะแตกเอา 😅 

 

---

 

 

🔥 Love Is Blind

 

จะเป็นไปได้หรอ ที่ว่าคนเราจะตกหลุมรักกันได้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นหน้า หรือรู้จักกันมาก่อน ?  Love Is Blind รายการนี้มีกิมมิกที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ เพราะจุดเริ่มต้นของรายการคือการให้ผู้เข้าร่วมรายการทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ออกเดตกันผ่านห้อง ๆ นึง โดยที่พวกเค้าจะไม่สามารถเห็นหน้าค่าตากันได้ แถมเป็นเวลานานถึง 10 วันเลยด้วย ก็คือทำความรู้จักกัน โต้ตอบกัน พูดคุยกัน แต่ทว่าไม่ได้เห็นหน้ากัน (จะมีแต่ผู้เข้าร่วมรายการที่เป็นเพศเดียวที่สามารถเห็นหน้ากันได้ แต่ผู้เข้าร่วมรายการต่างเพศจะไม่สามารถเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายนึงได้)

 

ซึ่งหลังจาก 10 วันแห่งการทำความรู้จักกัน พวกเค้าจะต้องตัดสินใจเลือกฝ่ายตรงข้ามที่แมทช์กับตัวเองมากที่สุดเพื่อก้าวไปสู่ขั้นตอนของ การแต่งงาน ใช่จ่ะ ทุกคนอ่านกันไม่ผิด มันเลยเถิดไปถึงขั้นแต่งงานกันเลย แต่ ๆ หลังจากพวกเค้าได้รู้จักกันแบบตัวเป็น ๆ แล้ว พวกเค้าจะมีเวลาในการศึกษาดูใจกันอีกครั้ง จนกระทั่งเวลาของวันแต่งงานได้เดินทางมาถึง ซึ่งตามธรรมเนียมของการแต่งงานของทางฝั่งตะวันตกเค้าเลย ที่ 'ว่าที่' บ่าวสาวจะต้องเอ่ยคำว่า I do หรือ I Don't  ซึ่งนั่นแหละคือบทสรุปของทั้งคู่ว่าจะอยู่หรือไป แล้วใครที่จะเจอคนที่ใช่ของตัวเองจริง ๆ 😘 

 

---

 

 

🔥 Love Island

 

หากใครชอบรายการเรียลลิตี้แนวติดเกาะ น่าจะต้องชอบรายการนี้  โดยทางเราขอจัดหมวดของรายการ Love Island ให้อยู่หมวดเดียวกับ Single's Inferno และ Too Hot To Handle เพราะบรรยากาศของรายการก็คือเน้นไปที่ การติดเกาะ เหมือน ๆ กัน สำหรับจุดเริ่มต้นของรายการ Love Island นี้ เดิมทีมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ แต่ทว่ากลับต้านความปังไม่อยู่ จนตอนนี้งอกเวอร์ชันใหม่ตามมาอีกหลายเวอร์ชัน อย่างเวอร์ชันที่เราหยิบมาป้ายยานั้นได้แก่ เวอร์ชันออสเตรเลีย ที่ต้องบอกจากใจดวงนี้เลยว่า ผู้เข้าร่วมรายการเวอร์ชันนี้งานดีกันทุกคน !

 

สำหรับรายการ Love Island จะมีความยาวที่แตกต่างจากรายการอื่น ๆ ที่เราได้ป้ายยาไป เพราะจำนวนตอนของเค้าก็คือยาว 20 Ep. เป็นอย่างต่ำ หากใครจะตามเก็บให้ครบทุกเวอร์ชัน (และทุกซีซั่น) เราว่าเผลอ ๆ อาจมีแตะหลักร้อย Ep. กันได้เลย ส่วนเนื้อหาของรายการก็แทบจะไม่ต่างจากรายการติดเกาะอื่น ๆ ก็คือให้บรรดาเหล่าคนโสดมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนเกาะ พร้อมกับบทพิสูจน์ความรักที่ทยอยมาให้ร่วมในทุกตอน โดยคู่รักคู่ไหนที่สามารถคงความสัมพันธ์มาได้ถึงตอนสุดท้าย ก็จะได้รับเงินรางวัลไปนอนกอดกันเลยแบบฟิน ๆ 

 

---

 

 

🔥 Terrace House : Boys & Girls in the City

 

เปลี่ยนบรรยากาศมาทางฝั่งเอเชียบ้านเรากันบ้าง จะบอกว่าประเทศญี่ปุ่นเค้าก็มีเรียลลิตี้ออกเดตที่น่าสนใจอย่าง Terrace House ที่ตอนนี้มีหลายเวอร์ชันให้เลือกดูแล้วใน Netflix โดยจุดเด่นของรายการนี้เมื่อเทียบกับรายการอื่น ๆ คือ มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก เป็นเรื่องราวของมนุษย์จริง ๆ ไม่ได้เน้นไปที่เรื่องอย่างว่า แต่เน้นเรื่องความจริงจังในอนาคตเป็นแกนหลักล้วน ๆ

 

โดยจุดเริ่มต้นของรายการ คือ การให้ชายหญิงแปลกหน้าจำนวน 6 คนมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ไม่มีการกักขัง หรือบังคับว่าพวกเค้าจะต้องใช้ชีวิตตลอดทั้งวันอยู่ในบ้านเท่านั้น แต่ทว่าพวกเค้าจะมีอิสระในการใช้ชีวิตมาก อยากจะไปไหนก็ไป อยากจะทำอะไรก็ทำ ขอเพียงแค่ว่าไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายแล้วทุกคนจะต้องกลับมาลงเอยที่บ้านหลังนี้เป็นที่สุดท้ายเท่านั้นพอ

 

ซึ่งความน่าสนใจของมันก็อยู่ที่ความเป็นธรรมชาติ รวมถึงผู้เข้าร่วมรายการทุกคนมีวุฒิภาวะที่ค่อนข้างจะโต และน่าสนใจมาก อีกทั้งเรายังได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในดีเทลต่าง ๆ ที่รับรองว่าคนดูอย่างเรา เมื่อได้ดูแล้ว จะได้อะไรกลับไปขบคิดมากกว่าการดูเพื่อความบันเทิงแน่นอน

 

---

 

 

🔥 Ainori Love Wagon

 

เรียกได้ว่าการเดินทางสื่อรักที่แท้ทรู  เพราะรายการนี้จะให้ผู้เข้าร่วมรายการทั้งชายและหญิงออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ  (หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยบ้านเราด้วย) แล้วใช้จังหวะดีแบบนี้ในการทำความรู้จักกัน จนลามไปลงเอยที่การสารภาพรักกัน

 

ซึ่งรายการนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะทุกคน และอย่างที่รู้กันว่า รายการเรียลลิตี้ของทางญี่ปุ่นนั้น เค้าไม่ได้มีแค่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างเดียว แต่เค้ายังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ ที่สอดแทรกให้ผู้ชมอย่างเราได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่ง Ainori Love Wagon นี้ เหล่าผู้ร่วมรายการจะต้องออกเดินทางและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนรถตู้สีชมพูสื่อรัก (ที่น่ารักโคตร ๆ) โดยผู้เข้าร่วมรายการแต่ละคนก็คือมาพร้อมกับเอเนอจี้ในการตามหาความรักที่เต็มเปี่ยม

 

ในระหว่างทาง ทางรายการจะมีการกำหนดกฏอะไรบางอย่าง ที่เป็นตัวตัดสินว่าพวกเค้าจะได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ และเชื่อเถอะว่าบางทีความรักก็ต้องอาศัยระยะเวลา รวมถึงความเข้าใจระหว่างคนสองคนเป็นตัวตัดสิน ไม่ใช่ว่าปุบปับจะรับโชคแบบที่เราเห็นกันมาในละคร และที่สำคัญรายการนี้ได้ก่อให้เกิดคู่จริงมาแล้วหลายคู่ หากใครไม่เชื่อในพรหมลิขิต ลองดูรายการนี้สักตอนสองตอน น่าจะเป็นการเปิดโลกและทำให้เราได้รู้จักกับคำ ๆ นี้กันได้ดีขึ้น ☺️ 

 

---

 

💭 เรียกได้ว่าหลายรส หลายอารมณ์กันเลยใช่ม้า ใครชอบแซ่บ ๆ ก็เรียนเชิญด้านบน ส่วนใครที่เน้นอะไรที่จริงจังขึ้นมาหน่อย เราขอแนะนำด้านล่าง แต่จะว่าก็ว่าเถอะนะ เรื่องความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ บทจะมาก็มา บทจะไม่มาก็คือเงียบ 😅  แต่ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยความหวัง และที่สำคัญคือต้องรักตัวเองกันด้วย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าถึงเวลา เดี๋ยวความรักมันก็จะมาในแบบที่เราไม่ต้องดิ้นรนตามหามันกันเลย (ส่วนใครที่ยังไม่มีเข้ามาในตอนนี้ ก็ดูรายการเรียลลิตี้เหล่านี้วนไปกันก่อนเนอะ)

 

แต่ถ้าใครยังมูฟออนจาก Single's Inferno ไม่ได้ ทางเราขอผายมือให้ไปอ่านเคล็ดลับในการดูแลรักษาหุ่นของ พส. จีอากันต่อที่นี่ > หุ่นสับรับต้นปี ! เปิดเคล็ดลับปั้นหุ่นแบบ "ซงจีอา" สาวหน้าเก๋จากรายการ Single's Inferno