7 สิ่งที่ต้องเจอ เมื่อถึงเวลาของการ Work from Home
โดย : imnat
จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด หลายบริษัทก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน
ให้กลายมาเป็นแบบ Work from Home กันมากขึ้น
มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะปรับตัวอย่างไร จะต้องเจอกับอะไรกันบ้าง
มาหาคำตอบพร้อมกับเตรียมตัวไปด้วยกันได้เลย
เรียกได้ว่าต้องปรับตัวกันยกใหญ่ หลังจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การใช้ชีวิตไปจนถึงรูปแบบของการทำงาน จากที่นั่งทำงานในออฟฟิศกันทุกวัน กลายเป็นว่าต้องโยกย้ายเปลี่ยนถ่ายมาทำงานที่บ้านของตัวเอง ซึ่งเราเรียกรูปแบบของการทำงานนี้ว่า Work from Home เชื่อว่าหลายบริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการทำงานนี้กันบ้างแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เปลี่ยน เร็วๆ นี้คงจะได้สัมผัสกันแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันหน่อยซิว่า ถ้าหากเราเปลี่ยนมาทำงานแบบ Work from Home กันแล้วเราจะต้องเจออะไรกันบ้าง มาสำรวจกันหน่อยซิ
1. ความเหงา
ข้อนี้เห็นจะจริงแท้แน่นอนที่สุด หลายคนที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็น Work from Home คงจะเห็นผลในข้อนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เข้าใจนะว่ามันจะต้องมีเหงาบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานซะเมื่อไหร่ ลองหาเวลาสัก 20-30 นาทีวิดีโอคอลกับคนในทีม พูดคุยเรื่องแผนงานของแต่ละคน วิธีนี้นอกจากจะช่วยสร้างประสิทธิภาพในการทำงานและความแน่นแฟ้นของทีมแล้ว ยังจะทำให้เราหายเหงากันได้อีกด้วยนะ
2. ความยืดหยุ่น
เมื่อเราเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน นายของเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากตัวเราเอง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าทำงานในออฟฟิศเราอาจจะต้องตื่นมาเตรียมตัวเดินทางไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ แต่พอเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน เราอยากจะตื่นก่อนเวลาเริ่มงานสัก 1 ชั่วโมงก็ไม่มีใครว่า ข้อดีคือ เราสามารถจัดแจงบริหารเวลาชีวิตของตัวเองกันได้ แต่ข้อเสียก็มีคือ พอยืดหยุ่นมากเกินไป หลายคนอาจจะใช้เวลาไปกับการทำ "อย่างอื่น" ในสัดส่วนที่มากกว่าการทำงานจริงๆ
3. ความกระตือรือร้น
สืบเนื่องจากข้อที่แล้วเรื่องของความยืดหยุ่น จะบอกว่าความกระตือรือร้นเองก็เป็นผลกระทบที่ตามมาหลังจากที่เราสามารถจัดการเวลาชีวิตของตนเองได้ เมื่อมีอิสระในการวางแผนการทำงานแล้ว เราจะต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะถ้าวางแผนแต่ไม่ลงมือทำก็ถือว่าจบเห่กันได้เลยนะ สำหรับการทำงานของบางคนอาจจะต้องมีการใช้ความคิด หรือสิ่งกระตุ้นเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น อันนี้ก็สามารถทำได้ ถ้าสิ่งกระตุ้นนั้นส่งผลต่อคุณภาพของงานที่ออกมา รวมถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานของเราด้วยเช่นเดียวกัน
4. ความง่วง
บ้านควรเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อน ไม่ใช่ทำงาน เชื่อว่าหลายคนอาจคิดแบบนี้ แต่ถ้าสถานการณ์บีบบังคับ เราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกันได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือการเปลี่ยนความคิดกันซะใหม่ คิดเสียว่าเราเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และบ้านของเราตอนนี้คือสถานที่ทำงานแห่งใหม่ เวลาทำงานคือทำงาน เวลาพักผ่อนคือพักผ่อน ต่อให้ความง่วง ความเหนื่อย หรือความคิดต่างๆ จะฉุดให้เราละเลยคำว่า Work from Home ไปก็ตาม แต่ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ตอนนี้เรากำลังทำงานนะ ไม่ได้พักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ
5. สิ่งรบกวน
หลายคนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เด็ก รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงที่ต้องคอยเล่น คอยประคบประหงมตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นตัวการทำให้สมาธิการทำงานของเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งเข้าใจว่ายิ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่ในบ้านด้วยแล้ว ถ้าเค้าคอยถามนู้น ถามนี่ มันก็ยากที่เราจะไปปฏิเสธท่านได้ แต่ตราบใดก็ตามเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นงาน เราต้องทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับพวกท่าน มิเช่นนั้นจะกลายเป็นตัวเราเองที่จะลำบาก
6. ประสิทธิภาพการทำงาน
ถ้าหากเราจัดการกับข้อ 1-5 ที่กล่าวไปข้างต้นกันได้เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่เราจะต้องเจอคือเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งถ้าจะให้ดีคือประสิทธิภาพในการทำงานของเราควรรักษามาตรฐานเดิมเอาไว้ หรือหากใครทำได้มากกว่าก็จะดีมากๆ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเห็น แต่มันสามารถสัมผัสได้จากผลงานที่ออกมาของเรา ในเมื่อเราได้รับการเอื้อประโยชน์ให้วางแผนการทำงานของตัวเองกันแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาควรจะต้องดีขึ้นกว่าเดิมสิจริงไหม?
7. การปรับตัว
สุดท้ายนี้อยากให้รู้กันไว้เลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะได้เจอจากการ Work from Home นั้นคือการปรับตัว เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ทางบริษัทเลยได้หยิบยกเอาแนวทางการทำงานที่บ้านนี้ออกมาใช้ และถึงแม้ว่าเราจะไม่คุ้นชินต่อการนั่งทำงานที่บ้านในช่วงแรกๆ ยังไงซะเราก็ต้องปรับตัวเข้าหาสิ่งๆ นั้นกันจนได้ โดยผลที่ตามมาของการทำงานที่บ้านนี้นอกจากเราจะกลายเป็นนายของตัวเองกันแล้ว เราจะต้องบริหารและวางแผนการทำงานของตัวเองกันให้ดีๆ ถ้าหากรู้ว่าติดขัดหรือพบเจอปัญหาตรงไหนก็ควรจะต้องรีบหาทางแก้ไข เพื่อประสิทธิภาพและผลงานที่ออกมาของเรากันนะ
ปันโปรสรุปให้
• หลายบริษัทเริ่มออกมาตรการทำงานที่บ้านกันแล้ว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ตัวเราที่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ก็ควรจะรีบวางแผนการทำงานกันได้แล้วว่าจะจัดการกับส่วนไหน ยังไง
• โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของการ Work from Home คือการปรับตัว เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการนั่งทำงานที่บ้าน เคยแต่นั่งทำงานในออฟฟิศ เจอหน้าเพื่อนร่วมงานทุกวัน พอต้องออกมาทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียวเหงาๆ ก็ต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลยจริงไหม
• เชื่อว่าถ้าปรับตัวกันได้แล้ว การทำงานที่บ้านอาจจะเอื้อประโยชน์อะไรหลายๆ อย่างให้กับเราเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่การไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งรถไปงาน หรือกลับบ้านก็ไม่ต้องเผชิญรถติด ลองมองหาข้อดีของการทำงานแบบนี้กันดู รับรองว่าเราจะแฮปปี้กับการทำงานกันอีกเยอะเลย
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)