ประกันรถยนต์สำหรับคนงบน้อย ต้องเลือกยังไงถึงจะไม่ผิดหวัง!

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer2 ต.ค. 2563 avatar writer4.3 K
ประกันรถยนต์สำหรับคนงบน้อย ต้องเลือกยังไงถึงจะไม่ผิดหวัง!


มีรถแต่ไม่มีประกัน แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเมื่อไหร่
ประกันภัยรถยนต์นี่แหละ ตัวช่วยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม!


เพื่อความอุ่นใจของผู้ที่ขับขี่รถยนต์ นอกจากพฤติกรรมเวลาขับขี่ที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว การทำประกันรถ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ได้เป็นอย่างดี จนทำให้หลายคนที่เพิ่งเริ่มทำประกัน หรือกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่า

โดยเฉพาะประกันภัยที่ตอบโจทย์คนงบน้อย แต่อยากได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าสมราคา ยิ่งต้องทำการบ้านอย่างหนัก  รวมไปถึงคำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดซื้อประกัน ต้องดูอะไร ควรให้ความสำคัญที่ตรงไหน ปันโปรพร้อมสรุปให้ทางนี้แล้ว!

 


มีรถแล้ว ต้องอย่าลืมทำประกัน!


ตามกฏหมายแล้ว จริงอยู่ว่ารถทุกคันจะต้องมี พ.ร.บ. แต่รู้กันไหมว่าเจ้า พ.ร.บ. ที่ว่านี้จะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่มีคนบาดเจ็บเท่านั้น แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแปลว่าค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียวอาจไม่พอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารถของเราหรือคู่กรณีเกิดความเสียหาย แปลว่าเราจะต้องมีค่าใช้จ่ายสำรองจากส่วนอื่นมาสมทบอีกที ถึงจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปทั้งหมด

และต่อให้เรามั่นใจในฝีมือการขับรถของตัวเองแค่ไหน แต่ยังไงก็ต้องห้ามลืมกันไปว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันและพร้อมที่จะเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่มีใครล่วงรู้มาก่อน ดังนั้นนอกจาก พ.ร.บ. ที่ต้องมีแล้ว ตัวช่วยสำคัญอย่าง "ประกันภัย" ก็สามารถเพิ่มความสบายใจให้แก่ผู้ที่ขับขี่รถยนต์ได้เป็นอย่างดี

 


ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ


เหนือสิ่งอื่นใด ก่อนอื่นเลยเราต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์กันก่อน ซึ่งเอาจริงๆ แล้วประกันรถยนต์นั้นมีให้เลือกหลายแบบมากๆ แต่ละบริษัทก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป อย่างที่เราคุ้นๆ หูกันก็จะมีประกันภัยชั้น 1, ชั้น 2, ชั้น 2+, ชั้น 3 รวมถึงชั้น 3+ โดยแต่ละชั้นก็มีจุดเด่นรวมไปถึงความครอบคลุมในการคุ้มครองที่แตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่

 

 

ประกันภัยชั้น 1

ก็ชั้น 1 จริงๆ สมชื่อ คุ้มครองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไร ก็คุ้มครองได้ทั้งตัวคนขับ รวมไปถึงคู่กรณี หรือถ้าไม่มีคู่กรณี อาทิ ขับรถไปเฉี่ยวฟุตบาท หรือชนต้นไม้ อันนี้ประกันภัยชั้น 1 เค้าก็คุ้มครองให้หมด! 

แต่ประกันภัยชั้น 1 ก็ยังจะมีแยกย่อยออกไปอีกนั่นก็คือ ประกันภัยชั้น 1 แบบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของตัวประกัน รวมไปถึงความสมัครใจของเราว่าจะยอมจ่ายค่าเสียหายตรงนี้ไหม สำหรับใครที่เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนี้ ข้อดีก็คือจะสามารถช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้ หรือใครจะไม่เลือกวิธีนี้ แต่จะให้บริษัทประกันจัดการให้ทั้งหมด โดยที่เรายอมจ่ายแพงกว่านิดหน่อยก็ได้เหมือนกัน

เหมาะกับใคร ? : สำหรับประกันภัยชั้น 1 นั้นจะเหมาะมากๆ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขับรถ ที่ยังมีความกล้าๆ กลัวๆ หรือยังไม่สันทัดเรื่องการขับรถเท่าที่ควร รวมไปถึงสาวๆ คุณผู้หญิงทั้งหลายที่ยังขับรถไม่คล่อง ยังไม่ค่อยกล้าตัดสินใจเวลาอยู่บนท้องถนน ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่อยากจะสบายใจเวลาขับรถ แล้วไม่ได้รู้สึกว่าติดขัดอะไรกับค่าเบี้ยประกัน อันนี้ปันโปรก็แนะนำให้ทำตัวประกันชั้น 1 เอาไว้เลย จะเป็นอันดีที่สุด

 

 

ประกันภัยชั้น 2

ประกันภัยชั้น 2 นั้นจะมีค่าเบี้ยที่ประหยัดลงมาหน่อย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความคุ้มครองที่น้อยกว่าประกันภัยชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกอย่าง แต่ในกรณีของประกันชั้น 2 นั้นจะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณี (หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วเราเป็นฝ่ายผิด) หรือพูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือ บริษัทประกันจะคุ้มครองการซ่อมให้เฉพาะคู่กรณีของเรา ดังนั้นในส่วนค่าซ่อมรถ เราจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง เลยทำให้ค่าเบี้ยจะถูกกว่าประกันชั้น 1 พอสมควร

และนอกจากประกันภัยชั้น 2 แล้ว ยังมีประกันภัยชั้น 2+ ที่เรียกว่าอยู่กึ่งกลางระหว่างประกันภัยชั้น 1 กับชั้น 2 แต่จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นมาจากชั้น 2 ตรงที่ รถของเราจะได้รับการคุ้มครองด้วยเช่นกัน แต่มีเงื่อนไขตรงที่จะต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น เพราะถ้าไม่มีคู่กรณี บริษัทประกันจะไม่จ่ายให้กับเราเหมือนประกันชั้น 1 นะจ๊ะ 

เหมาะกับใคร ? : เหมาะกับผู้ที่ขับรถมาเป็นเวลา 2-10 ปี ที่มีความคล่องแคล่วในการขับรถยนต์พอสมควร เพราะเอาจริงๆ ประกันชั้น 2 โดยเฉพาะ 2+ แทบไม่ได้ต่างจากประกันชั้น 1 เลย ถ้าหากว่าประวัติที่ผ่านมาของเราไม่เคยมีอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด ถ้าอยากให้เบี้ยประกันถูกลงมาหน่อย ปันโปรแนะนำให้เลือกประกันภัยชั้น 2 หรือ 2+ กันดู เพราะอย่างน้อยจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ระดับนึง

 

 

ประกันภัยชั้น 3

สายประหยัดที่มั่นใจในการขับรถต้องนี่! ประกันภัยชั้น 3 ที่มีราคาค่าเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แต่ก็ครอบคลุมได้น้อยสุดในบรรดาประกันภัยรถยนต์ทั้งหมดด้วยเช่นกัน แม้จะบอกว่าน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำแล้วเราจะไม่ได้อะไรเลยนะ สำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 นี้ บริษัทประกันจะทำการคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณีของเราเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถของเรา รวมไปถึงกรณีที่รถหาย ไฟไหม้ อันนี้ไม่คุ้มครองนะจ๊ะ

แต่ประกันภัยชั้น 3 ก็จะมีอีกแบบนึงก็คือ ประกันภัยชั้น 3+ ที่จะคุ้มครองในส่วนของรถเราเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย หรือไฟไหม้อยู่ดี ซึ่งถ้าเรามั่นใจในการขับรถพอสมควรและอยากที่จะประหยัดค่าเบี้ยสุดๆ ปันโปรแนะนำให้เลือกประกันภัยชั้น 3 กันดูน้า

 

เหมาะกับใคร ? : ประกันภัยชั้น 3 จะเหมาะกับผู้ที่ชำนาญในการขับรถ มีประสบการณ์ในการขับ (ที่ดี) มากกว่า 10 ปีขึ้นไป รวมไปถึงรถที่เอาประกันจะต้องไม่ใช่รถที่ใหม่มาก เป็นรถที่ผ่านสภาพการใช้งานมาพอสมควร รวมไปถึงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ เจ้าของรถสามารถ carry ในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายของตัวเองได้ เพราะประกันตัวนี้ไม่ครอบคลุมน้า

 


จะซื้อประกันทั้งที ต้องดูอะไรบ้าง?


หลังจากที่เราพอจะทราบความแตกต่างระหว่างประกันภัยแต่ละชั้นกันไปแล้ว ก็จะมีในส่วนของขั้นตอนการเลือกประกัน จะเลือกยังไงให้เหมาะ ราคานี้จะไหวไหม หรือถ้าอยากได้ถูกๆ ก็ให้เลือกประกันชั้น 3 ไปเลยจะดีกว่ารึเปล่า แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาล่ะ จะต้องทำยังไง?

 

• เริ่มจากการสำรวจพฤติกรรมการขับรถของตัวเองก่อน

ไล่จากสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือตัวเรา ลองประเมินกันดูซิว่าเรามีพฤติกรรมในการขับขี่แบบไหน ถ้าเป็นมือใหม่หัดขับ ควรเลือกประกันชั้น 1 ไปเลยดีไหม? หรือถ้ามีประสบการณ์มานาน แล้วไม่ค่อยเจอปัญหาหรืออุบัติเหตุเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็อาจจะไม่ต้องถึงขั้นประกันชั้น 1 แต่ลองเปลี่ยนเป็นประกันชั้น 2 หรือ 3 ดูน่าจะเหมาะกว่า

 

• นอกจากสำรวจตัวเอง ก็อย่าลืมประเมินความเสี่ยง

หลังจากข้ามขั้นตอนของตัวเองกันมาแล้ว ก็มาถึงขั้นสิ่งแวดล้อมภายนอกที่มีผลต่อการขับขี่ของเรากันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหาย, ไฟไหม้, น้ำท่วมต่างๆ ว่าเราเข้าข่ายไหนไหม หรือถ้ามีรถ แต่ไม่ค่อยได้ขับออกไปไหน อาจจะไม่ต้องถึงขนาดประกันชั้น 1 ลองเปลี่ยนมาเป็นประกันชั้น 3+ หรือ 3 ดูน่าจะประหยัดไปได้เยอะ 

แต่ถ้าใครเป็นสายบุก สายลุย เดินทางไม่มีวันหยุด หรือชอบขับรถไปในที่ๆ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมาก ก็ควรเลือกประกันภัยชั้น 1 ไปเลย จะได้สบายใจ

 

 

• งบประมาณก็สำคัญ

หลายคนมักจะคิดว่าประกันที่ดีที่สุด คือประกันที่แพงที่สุด ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สำหรับคนที่งบน้อย ก็ไม่ต้องกังวลไปว่าในระดับราคาที่เราพอจะจ่ายได้ ประกันที่ได้มาจะไม่ดี เพราะตราบใดที่ขึ้นชื่อว่าประกัน มันจะครอบคลุมและคุ้มครองได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าในระดับราคานี้จะคุ้มครองในส่วนไหนได้บ้างก็เท่านั้น

และต่อให้จ่ายแพง ได้รับความคุ้มครองทุกอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะถ้าพฤติกรรมเราไม่ได้สอดคล้องหรือเป็นไปในทิศทางที่เหมาะกับประกันนั้นๆ การทำประกันก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เราเท่าที่ควร ดังนั้นปันโปรถึงได้บอกกับทุกคนตั้งแต่แรกว่า ให้เลือกประกันจากพฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก่อน จะได้คุ้มค่า คุ้มราคากับที่จ่ายไปมากที่สุด

 

• ศึกษารายละเอียดของประกันให้ดี ก่อนตัดสินใจ!

การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษารายละเอียดกันให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 หรือชั้นไหนๆ ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป ผู้ทำประกันอย่างเราจะต้องทราบรายละเอียดเงื่อนไขของการประกันทั้งหมดด้วย จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง เพราะอย่างบางประกัน เค้าก็จะมีให้เลือกว่าเราจะจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้บริษัทประกันก่อนไหม ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนแรกนี้ก็จะมีทั้งแบบบังคับ และสมัครใจ ยังไงให้ลองสอบถามบริษัทประกันก่อน จะได้ไม่งง 

และเดี๋ยวนี้ตัวประกันรถยนต์ต่างๆ ผู้ทำประกันสามารถปรับแต่งเองได้ด้วยตัวเอง ทำให้ประกันภัยที่ผู้ขับขี่แต่ละคนถืออยู่ในมือ ต่อให้มาจากบริษัทเดียวกัน แต่เงื่อนไขบางประการอาจจะแตกต่างกัน ตรงนี้ก็ให้เราเลือกเอาตามความเป็นจริง ยึดตามพฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ก็จะช่วยให้ประกันที่ทำออกมา ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด

 

 

• ซ่อมศูนย์ ซ่อมอู่ อันไหนดีนะ

สำหรับความแตกต่างระหว่างซ่อมศูนย์ กับซ่อมอู่ ก็จะเป็นเรื่องของราคานี่แหละ เพราะได้ชื่อว่าซ่อมศูนย์ ราคามันก็จะต้องแพงกว่าอยู่แล้วเป็นธรรมดา อีกทั้งยังได้มาตรฐานกว่า ได้ในส่วนของความสบายใจในระดับนึง แต่ถ้าเป็นซ่อมอู่ ถ้าเกิดอู่นั้นเป็นอู่ที่เรารู้จักและคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ก็จะดีในเรื่องของราคาที่ถูก

อีกทั้งจากการศึกษาข้อมูลมา ทำให้ปันโปรรู้มาว่าในส่วนของบริษัทประกันเองยังคุยกับอู่ได้ง่ายกว่าศูนย์ แต่อย่างที่บอกไปว่าให้ลองเลือกดูจากอู่ที่เราคุ้น ไว้ใจได้ หรือมีคนรู้จักเคยไปใช้บริการมาก่อน หรือถ้าใครยึดจากอู่เป็นหลักก็ลองสอบถามบริษัทประกันจากอู่นั้นๆ ดูก็ได้ว่าบริษัทประกันไหนที่คุยง่าย เป็นต้น

 


ประกันรถยนต์สำหรับคนงบน้อย เลือกเจ้าไหนดีนะ?


ปัจจุบันบริษัทที่รับทำประกันรถยนต์มีหลายเจ้าให้เลือกมากๆ ซึ่งก่อนที่เราจะไปตบปากรับคำทำประกันนั้น อย่าลืมที่ปันโปรบอกไว้ว่าให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจกันให้ดีๆ และขอเคลียร์ให้ชัดกันอีกครั้งนึงว่า ประกันที่ถูกและดีที่สุด = ไม่มี มีแต่ดีที่สุดในเรื่องและระดับราคาที่เรารับได้เท่านั้น

อีกทั้งการเห็นแก่ราคาที่ถูกไปใช่ว่าจะดี ถ้าเลือกไปแล้วแต่พอถึงหน้างานจริงๆ กลายเป็นว่าเราต้องมานั่งเสียค่าใช้จ่ายทีละมากๆ อันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ยังไงก็อย่าลืมหาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ปันโปรแนะนำกันด้วยนะจ๊ะ

 

viriyah

 

วิริยะประกันภัย กรมธรรม์ประเภท 3 เบี้ยประกันเริ่มต้น 380 บาท / เดือน

สำหรับบริษัทประกันแรกที่ปันโปรอยากจะแนะนำ อาศัยจากรีวิวที่ว่ากันว่าเป็นบริษัทที่เคลมง่าย เรื่องไม่เยอะ เจ้าหน้าที่เองก็ให้คำปรึกษาดี อีกทั้งยังมีการบริการที่ดีมาก ต้องยกให้วิริยะ ที่มีอัตราค่าเบี้ยประกันรวมภาษีอากร / ปี อยู่ที่ 4,560.16 บาท (หารแล้วตกเดือนละ 380 บาท) สำหรับความคุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก (ชั้น 3) ที่ให้ความคุ้มครองทั้งความเสียหายต่อชีวิต รวมไปถึงทรัพย์สิน อีกทั้งยังคุ้มครองในส่วนของผู้ขับขี่และค่าประกันตัวผู้ขับขี่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์เพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก

 

Sin

 

สินมั่นคง ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 เบี้ยประกันเริ่มต้น 171 บาท / เดือน

ถัดจากวิริยะก็จะเป็นสินมั่นคง ที่ค่าเบี้ยถูกไม่แพ้กัน แถมยังมีชื่อเสียงในเรื่องการบริการของ Call-Center ความรวดเร็วในการเดินเรื่อง เคลมง่าย และสำหรับประกันรถยนต์ประเภทที่ 3 นี้ มีค่าเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 2,050 บาท / ปีเท่านั้น สำหรับความคุ้มครองที่ได้ก็จะเป็นความรับผิดชอบต่อคู่กรณีไม่ว่าจะเป็นต่อชีวิต หรือทรัพย์สิน อีกทั้งยังคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนของประกันอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาล และค่าประกันตัวผู้ขับขี่ เป็นต้น นอกจากนี้ใครที่มีประวัติการขับขี่ที่ดีมาโดยตลอด สามารถรับส่วนลดเพิ่มเติมกันได้อีกด้วยนะ!

ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์เพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก

 

Bangkok

 

กรุงเทพประกันภัย ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 เบี้ยประกันเริ่มต้น 192 บาท / เดือน

ต่อกันที่กรุงเทพประกันภัยที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วในเรื่องของประกัน แถมฟีดแบคจากผู้เอาประกันก็ไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอนุมัติง่าย เคลมเร็ว และสำหรับประกันภัยรถยนต์ก็มีให้เลือกหลากหลาย และสำหรับคนงบน้อยปันโปรขอแนะนำ ประกันรถยนต์ ประเภท 3 Super Save ที่มีค่าเบี้ยประกันต่อปีอยู่ที่ 2,300 บาท หรือถ้าใครอยากอัปเกรดความคุ้มครองขึ้นมาเป็นประเภท 3+ Special ก็สามารถติดต่อขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เช่นกัน เพราะตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% อยู่ด้วย เริ่ดไปอีก

ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์เพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก

 

direct

 

Direct Asia ประกันชั้น 3 เบี้ยประกันเริ่มต้น 243 บาท / เดือน

เบี้ยถูก บริการดี อู่เยอะ คือจุดเด่นที่น่าสนใจของ Direct Asia อีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ เพราะมีเบี้ยประกันต่อปีอยู่ที่ประมาณ 2,913.61 บาท เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 243 บาทเท่านั้น แถมนอกจากจะประกันคู่กรณีได้แล้ว กรมธรรม์นี้ยังคุ้มครองผู้ขับรถไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล กรณีเสียชีวิต รวมไปถึงประกันตัวสูงสุด 200,000 บาทอีกด้วย

ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์เพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก

 

Cigna

Cigna ประกันชดเชยรายได้ เลือกได้ เริ่มต้น 258 บาท / เดือน

ไหนๆ ก็ทำประกันรถยนต์ไปแล้ว อย่าลืมมาเสริมความคุ้มครองกันด้วยประกันจาก Cigna สำหรับแผนยอดนิยมราคาดี จ่ายไม่มากแต่คุ้ม! แถมคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย บอกเลย ดี๊ดีสุดๆ

ศึกษารายละเอียดประกันเพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก

 

 

แต่สำหรับใครที่มีงบประมาณไม่มาก หรือไม่ค่อยได้ขับรถ ก็ลองเลือกดูประกันที่ปันโปรแนะนำกันดูนะ เพราะหลายเสียงบอกกันมาว่าบริการดี แถมยังมีราคาที่ไม่แพงมาก ถือว่าคุ้มค่าในระดับราคาที่จ่ายไป เพราะ ประกันที่ถูกและดีที่สุด = ไม่มี มีแต่ดีที่สุดในเรื่องและระดับราคาที่เรารับได้เท่านั้น หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคน หากใครมีบริษัทประกันไหนอยากจะแนะนำเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม สามารถแนะนำกันมาได้เลยน้า

 

via GIPHY

 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น