"ภาวะหมดไฟ" แก้ยังไง? ใครเข้าข่ายบ้าง
โดย : prc.
'ลาออกได้มั้ย ไม่ทำงานได้เปล่า'
หลายอาการที่ชอบโผล่มาทำให้เซ็ง
จนรู้อีกทีก็กลายเป็น "ภาวะหมดไฟ" ไปซะแล้ว เห้อ!
ฉันเหมือนคนไม่มีกำลัง และหมดแรง จะยืนจะลุกจะเดินไปปปป~ ไม่อยากทำงานแล้วแม่ ทำไงดี เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีความรู้สึกแบบนี้แว๊บเข้ามาในหัวอย่างแน่นอน จนบางทีก็แอบคิดมาก แล้วก็เผลอคิดว่าตัวเองอาจจะป่วย ถึงขั้นเป็นโรคแน่ๆ 😱 เอาล่ะ เราต้องใจเย็นๆ แล้วมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันก่อน ว่า "ภาวะหมดไฟ" (Burnout Syndrome) เป็นเพียงแค่ภาวะหรือปัจจัยที่คุกคามต่อสุขภาพเท่านั้น ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกได้ออกมาบอกแล้วว่ายังไม่ถือว่าเป็นโรคประจำตัวเด้อ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ ก็มาจากสภาพการทำงานรอบตัว ไม่มีแรงจูงใจ และเรื่องกลุ้มใจต่างๆ ของงานนั่นเองจ้าาา
อาการเป็นยังไง?
มีหลายอาการที่แสดงออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่จะมีลักษณะอาการแบบไหนบ้าง ลองเช็คจากด้านล่างได้เลย!
- รู้สึกเหนื่อยล้า
- ไม่ค่อยมีสมาธิ
- ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน
- มีความเครียดอย่างเห็นได้ชัด
- ไม่พอใจในผลงานของตัวเอง แม้ว่างานจะเสร็จแล้ว
- อารมณ์แปรปรวน
แก้ "ภาวะหมดไฟ" ยังไงได้บ้าง?
ไม่มีใครดูแลเราได้ เท่าเราดูแลตัวเอง เป็นเองก็หายเองจ้าแม่! ซึ่งวิธีการดูแลรักษาภาวะนี้ ก็อาจจะต้องค่อยเป็นค่อยไปกันหน่อย ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันทีละนิด รับรองว่า ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน
- พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ
- แยกเวลาทำงานกับพักผ่อนให้ชัดเจน
- ให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ชอบทำมากขึ้น จะออกกำลังกาย หรือดูซีรีส์ ก็ได้อยู่นะ
- พูดคุยกับคนรอบข้างเยอะขึ้น
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- ใครที่คิดว่าตัวเองมีอาการสุ่มเสี่ยงก็อย่าเพิ่งเครียดเกินไปนะ ลองค่อยๆ ปรับการทำงานกันไป ทุกปัญหามีทางออกนะ :)
- แต่ถ้าใครลองปรับพฤติกรรมแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ เราแนะนำให้นัดพบคุณหมอจิตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมจะดีที่สุดค่า
- ที่สำคัญ! อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยน้า เป็นห่วงงง~
รู้แล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเอง
หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบกันด้วยนะค้าา
-- ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ CNBC, news.ch3thailand --
โดย prc.
just 'ORDINARY WRITER' who love to eat :)