Botox 101 | 9 ยี่ห้อโบท็อกซ์ ตัวช่วยเรื่องปัญหาหน้าบาน รอยตีนกากวนใจ เตรียมตัวยังไงก่อนไปฉีด
โดย : waranggg
หน้าหย่อนคล้อย หน้ากลม เหนียงห้อย ทุกปัญหาล้วนจบได้ด้วยการ ' ฉีดโบท็อกซ์ '
โบท็อกซ์นับว่าเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มสาวๆ ที่กังวลเรื่องปัญหาริ้วรอยและหน้าไม่กระชับในไทยมาอย่างยาวนานมากๆ เพราะทำแล้วเห็นผลจริง หน้าไม่เหี่ยว ไม่มีรอยตีนกา หรือริ้วรอยใดๆ มากวนใจเลย ที่สำคัญการฉีดโบท็อกซ์ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเยอะ หรือต้องรอให้รอยตีนกาโผล่ถึงค่อยไปฉีดนะ ช่วงอายุ 20 หรือก่อนจะเข้าวัย 30 ก็สามารถเริ่มฉีดได้แล้ว เพื่อป้องกันหน้าเหี่ยวก่อนวัยนั่นเอง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปฉีดโบท็อกซ์ มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนบ้าง
รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ 'ฉีดโบท็อกซ์'
Botox คืออะไร ?
Botox หรือ โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าของ 'Botulinum toxin type A หรือ โบทูลินัม ท็อกซิน' เป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรีย 'Clostridium botulinum' ซึ่งมีฤทธิ์ในการหยุดการหลั่งของสารสื่อประสาท บริเวณที่มีการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินเข้าไป จะทำให้เรารู้สึกหมือนกล้ามเนื้อตรงนั้นหดตัว ชาและตึง เมื่อทิ้งระยะไว้ซักพักกล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็จะคลายตัวออก ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลง
โบท็อกซ์ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
- ช่วยรักษาริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าที่เกิดจากการเคลื่อนไหว เช่น รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้วและหน้าผาก รอยร่องแก้ม เป็นต้น
- ช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเรียวมากขึ้น และยังสามารถใช้ฉีดเพื่อลดขนาดของน่องขาให้ดูเรียวขึ้นได้
- ช่วยลดอาการปวดต่างๆ เช่น ไมเกรน อาการปวดหลัง
- ฉีดเพื่อลดเหงื่อในบริเวณต่างๆ เช่น รักแร้ หรือ ฝามือ
Botox มีอันตรายไหม ?
ต้องบอกก่อนว่าสารโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรียธรรมชาติ จะสามารถสลายตัวได้เองในระยะเวลา 6 - 12 เดือน และจากสถิติของสหรัฐอเมริกาที่รวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์จำนวนมาก พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต เมื่อฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ
แต่ก็ทำใจว่าการฉีดโบท็อกซ์จะมีผลข้างเคียงตามมาอย่างแน่นอน เช่น อาการปวดศีรษะ, เกิดรอยช้ำจากเข็มฉีดยา, อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีด, อาการคิ้วหรือหนังตาตกหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณที่ฉีด เป็นต้น อาการเหล่านี้จะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์หลังจากการฉีด
Botox 9 ยี่ห้อที่ผ่าน อ.ย. ไทย
ถูกใจใช่เลยกับตัวไหน เราเลือกได้ !
จริงๆ แล้วโบท็อกซ์มีหลายยี่ห้อมากๆ อย่างในประเทศไทยเองก็มีนำเข้าโบท็อกซ์มาจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมนี, เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะให้ผลลัพธ์และมีราคาที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าตอนนี้ในประเทศไทย มีโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนที่ผ่าน อ.ย. ไทย และได้รับอนุญาตให้ใช้ได้อย่างถูกต้องบ้างน้า
Allergan
แบรนด์จากอเมริกาที่เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของโบท็อกซ์เกือบทุกยี่ห้อ และยัง เป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ด้วย ผลลัพธ์หลังจากการฉีดเป็นที่แม่นยำ มีราคาสูงกว่าตัวอื่นๆ เมื่อฉีดแล้วอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
Dysport
แบรนด์โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ มีตัวโครงสร้างของสารที่มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์ของอเมริกา ทำให้กระจายตัวได้ดีกว่า เหมาะกับการนำมาฉีดลิฟต์หน้าให้กระชับด้วยเทคนิค DermaLift และฉีดช่วยเรื่องร้ิวรอยได้ดี เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
Xeomin
แบรนด์โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมนี เป็นโบท็อกซ์แบบ Pure Toxin ไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีนในตัวยา ฉีดแล้วไม่รู้สึกว่าตึงจนเกินไป ยี่ห้อนี้ยังเหมาะกับใช้ฉีดกับเคสที่เกิดการดื้อยา และคนที่ฉีดยี่ห้อนี้ก็จะลดโอกาสการดื้อยาในอนาคตได้ด้วย เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ได้นาน 3 - 6 เดือน
Nabota
แบรนด์โบท็อกซ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% เป็นตัวที่ฉีดแล้วเห็นผลไวมาก และผลลัพธ์อยู่ได้ค่อนข้างนานตั้งแต่ 4 - 6 เดือนเลย
Botulax
อีกหนึ่งแบรนด์โบท็อกซ์ของเกาหลีที่คนไทยหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นที่นิยมและมีการใช้ในประเทศไทยมายาวนาน เป็นโบท็อกซ์ที่พัฒนามาจากยี่ห้อ Allergan ของอเมริกา ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ที่สำคัญคือราคาน่ารักมาก
Aestox
แบรนด์โบท็อกซ์นำเข้าจากเกาหลีใต้ มีจุดเด่นในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการฉีดคือเป็นธรรมชาติที่สุดในบรรดาโบท็อกซ์แบรนด์เกาหลีทุกตัว ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างไว และอยู่ได้นาน 4 - 6 เดือน
Hugel Toxin
โบท็อกซ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ที่มาตรฐานเทียบเท่ากับโบท็อกซ์ของฝั่งอเมริกา โรงงานผลิตของที่นี่คือใช้ Robot ทั้งหมด หมดห่วงเรื่องความสะอาดในการผลิต ยี่ห้อนี้ขึ้นชื่อเรื่องเห็นผลไว ภายใน 2-3 วันหลังฉีด เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน
Clodew
ยี่ห้อโบท็อกซ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ จุดเด่นของยี่ห้อนี้ คือ การยกกระชับที่มาพร้อมกับเทคนิคการฉีดแบบ Double V Lifting หลังฉีดแล้วเห็นผลทันทีและดูเป็นธรรมชาติมากๆ เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
BTXA
โบท็อกซ์นำเข้าจากประเทศฮ่องกง ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จุดเด่นของยี่ห้อนี้ คือ ฉีดแล้วจะช่วยเรื่องริ้วรอย เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์ ในส่วนของการยกกระชับใบหน้าก็สามารถใช้ตัวนี้ฉีดได้เช่นกัน แถมยังมาในราคายังน่ารักน่าคบหามากๆ
การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีด Botox ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- งดการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามิน A, AHA, และควรงดสครับหน้าหรือขัดผิวหน้า เป็นเวลา 1-2 วัน
- งดกินยาแก้ปวดประเภท NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin
- ควรงดทานอาหารเสริมอย่างพวกวิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
หลังการฉีดโบท็อกซ์
- งดนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีความร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง เช่น การซาวน่า หรือการทำอาหารหน้าเตาร้อนๆ
- งดเล่นโยคะหรือออกกำลังกายหนักๆ หลังจากการฉีด 4 ชั่วโมง
- งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 4-5 วัน
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเตรียมไปฉีดโบท็อกซ์ดักตีนกา เปย์เป้ต้องขอดักทุกคนไว้ก่อนเลยว่า อย่าเห็นแก่ของถูกเกินไป และต้องเลือกหมอ เลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้เท่านั้น จากที่จะหน้าสวยเป๊ะจะกลายเป็นหน้าเละไม่รู้ตัวเอาได้ ด้วยรักและหวังดีจากเปย์เป้ ❤️
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : phyathai.com, mahidol.ac.th, Patcha clinic
โดย waranggg
thaitealism