รู้จัก Black Friday / Cyber Monday สองแคมเปญช็อปปิ้งที่คนทั่วโลกรอคอย ต่างกันยังไง แค่วันเท่านั้นหรอ ?

 

หลังจากที่เราเคยพูดถึงเทศกาลช็อปปิ้งแห่งปีอย่าง Black Friday เอาไว้เมื่อนานมากกกกก (ก.ไก่ ไปเลยล้านตัว) ล่าสุดดูเหมือนว่าเทศกาลช็อปปิ้งสุดยิ่งใหญ่แห่งปีนี้กำลังจะกลับมาเยือนกันอีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ที่กำลังจะมาถึง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เพื่อเป็นการต้อนรับการมา บวกกับความบังเอิญที่เราได้ไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทศกาลช็อปปิ้งนี้กันมาเพิ่มเติม เลยขอต้อนรับการกลับมาของ Black Friday ร่วมด้วยอีกหนึ่งวันที่มักจะถูกพูดถึงด้วยอย่าง Cyber Monday ด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รวมไปถึงการตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความต่างของทั้งสองวันนี้ จริงๆ แล้วต่างกันแค่วันเท่านั้นเองหรอ เรามีคำตอบมาให้แล้ว !

 

---

 

 

Black Friday is back !

ว่ากันว่านี่คือเทศกาลช็อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี... จริงหรอ ?

 

จริงๆ แล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาล Black Friday เนี่ย ถูกพูดถึงกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นต่างๆ นานา (ที่ดูเหมือนจะเป็นแง่ลบมากกว่าแง่บวก) ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลที่เราเคยใส่เอาไว้ในคอนเทนต์ที่แล้ว ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของ Black Friday นี้ มาจากพลังของสายช็อปที่แห่กันไปซื้อของหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ส่งผลทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปทั้งเมือง จนถูกเรียกว่า Black Friday ขึ้นมา

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กลับมีอีกหนึ่งที่มา (ที่อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน) สำหรับที่มานี้พาเราย้อนเวลากลับไปในปี ค.ศ. 1869 ที่คำว่า Black Friday นี้ถูกนำมาใช้แทน วิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐ ที่เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศอย่างรุนแรง ซึ่งวิกฤตการณ์ที่ว่านี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ยากที่จะลืมของอเมริกา กับเหตุการณ์ที่ Jay Gould และ Jim Fisk สองนักการเงินชาวอเมริกันในยุคนั้น ได้ร่วมมือกันกว้านซื้อทองคำของประเทศให้ได้มากที่สุด ก่อนจะกุข่าวลือ ที่หลอกลวงทั้งประชาชนรวมถึงรัฐบาล แล้วอาศัยจังหวะนี้ซื้อทอง รวมถึงดันราคาของทองคำให้พุ่งสูงขึ้นไปพร้อมๆ กัน 

 

และเมื่อราคาทองสูงขึ้น ทั้งสองคนเลยฮุบเอาโอกาสนี้ในการขายทองที่อยู่กับตัวเองออกไป เพื่อหวังจะเอากำไรซะเอง แต่โชคร้ายที่แผนการดันแตกขึ้นมาซะก่อน ซึ่งวันที่แผนการแตกนี้ได้ตรงกับวันศุกร์หนึ่งในเดือนกันยายนพอดิบพอดี เลยได้เรียกวันแห่งการล่มสลายของตลาดทองคำในสหรัฐนี้กันว่า Black Friday

 

 

และไม่ใช่แค่นี้นะ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงที่มาของคำว่า Black Friday กันอีกด้วยว่า ในปี ค.ศ. 1800 ณ ทางตอนใต้ของสหรัฐ ได้มีการเปิดตลาดซื้อแรงงานทาสขึ้นมา โดยแรงงานทาสที่ถูกนำมาขายนั้นได้ถูกขายในราคาพิเศษ ซึ่งวันที่เปิดตลาดนั้นเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า (ซึ่งตรงกับวัน Black Friday ในปัจจุบัน) แต่จากข้อมูลนี้ยังไม่ได้มีอะไรมาการันตีความเป็นไปได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ใดๆ ก็ไม่อยากให้มันเคยเกิดขึ้นเลย ซึ่งก็มีชาวอเมริกันบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในข้อมูลนี้ในเชิงที่ว่า

 

ถ้ามันเป็นเรื่องจริง จริงๆ เราก็อย่าให้ค่าวันนี้กันอีกเลย เพราะมันควรจะเป็นวันที่พวกเราควรไว้อาลัย ไม่ใช่วันที่เราจะมีความสุขกับการจับจ่ายซื้อของกันแบบนี้ แต่ในเมื่อหาคำตอบมาสรุปไม่ได้ ที่สำคัญ Black Friday เองก็ได้มีการปรับรูปแบบให้อำนวยความสะดวก และดูเหมือนจะมีทิศทางในแง่บวกมากกว่าที่ผ่านๆ มาเยอะมาก เลยไม่ได้มีคนตั้งข้อสงสัย หรือหยิบเอามุมดาร์กๆ แบบนี้มาพูดถึงกันอีก...

 

---

 

 

มี Black Friday แล้ว ก็ต้องมี Cyber Monday

อีกหนึ่งวันที่มองข้ามไม่ได้ !

 

ไม่รู้สีสันในบ้านเราเป็นยังไง แต่จะบอกว่าในต่างประเทศ (โดยเฉพาะอเมริกา) เค้าเรียก Cyber Monday นี้ว่าวันม้ามืด ม้ามืดยังไง ? เพราะวันนี้สามารถตกขาช็อป รวมถึงทำยอดขายได้สูสี (เผลอๆ มากกว่า) Black Friday เลยด้วยซ้ำ

 

จุดเด่นแรกของ Cyber Monday เลย ก็คือ เค้าจะเน้นการทำโปรโมชั่นผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นช่องทางการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงปี - สองปีที่ผ่านมานี้ (สาเหตุก็มาจากโควิดตัวร้ายเค้านั่นแหละ) แต่ใดใดก็ตาม ทางฟาก Black Friday เอง จากที่ทำแคมเปญทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ก็หันมาโฟกัสช่องทางออนไลน์มากขึ้น เอาเป็นว่าก็ทำยอดขายได้ดีทั้งคู่ จะมีเชือดเฉือนกันบ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเลเวลที่ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

 

ว่าแต่ Cyber Monday คือวันอะไร ? 

 

เกือบไปแล้ว เกือบจะเวิ่นยาวจนลืมอธิบายความสำคัญของวันนี้กันซะแล้ว แหะๆ 😂  สำหรับ Cyber Monday นี้ ถูก\ตั้งขึ้นมาในปี ค.ศ. 2005 ที่ผ่านมา โดย NRF หรือ สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ ที่กำหนดให้เป็นวันจันทร์ หลังจากวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐอเมริกา (ฟีลเหมือนต้องการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายนั่นแหละ เลยแต่งตั้งวันนี้ขึ้นมา) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 

 

ซึ่งเริ่มต้นเลยอย่างที่บอกว่าเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาก่อน แต่ไปๆ มาๆ วันนี้กลับได้รับความนิยมในประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน  ถ้าถามว่ามันแตกต่างจาก Black Friday มากไหม ? สำหรับเรา เรามองว่าไม่ต่าง เพราะรูปแบบการทำโปรโมชั่น, ส่วนลด รวมถึงรูปแบบการขายก็คือแทบจะเหมือนกัน จนบางคนให้ความเห็นว่าทั้ง Black Friday และ Cyber Monday นั้นถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็น Thanksgiving Shopping Weekend ไปซะแล้ว อย่าง Black Friday ถูกยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งเทศกาลช็อปปิ้งใช่มะ Cyber Monday ก็กลายเป็นที่สุดลำดับถัดมาจาก Black Friday เลยนั่นแหละ อย่างที่ภาษาบ้านเราเรียกว่า คลานตามมาติดๆ 

 

แล้วถ้าถามถึงความแตกต่างของทั้งสองวันนี้ เอาจริงๆ มันแทบจะไม่ต่างอย่างที่เราได้บอกไป จะมีต่างก็แค่วัน กับช่องทางการขายหลักๆ อย่าง Black Friday เค้าจะตรงกับวันศุกร์ถัดจากวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งแคมเปญก็จะร่วมทั้งการซื้อขายผ่านช่องทางหน้าร้าน รวมถึงออนไลน์ (แต่พักหลังมานี่เน้นออนไลน์มากขึ้น) สวนทางกับ Cyber Monday ที่จะเน้นเฉพาะช่องทางออนไลน์ โดยจะตรงกับวันจันทร์ถัดมา หลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งจะให้ฟีลเหมือนให้ลูกค้าได้ช็อปปิ้งเก็บตกกัน อย่างบางคนก็คือโบกมือให้กับ Black Friday แล้วรอช็อป Cyber Monday ทีเดียวเลยก็มี

 

 

| Black Friday vs. Cyber Monday เอาดีๆ วันไหนน่าช็อปกว่ากัน ?

 

เรามองว่าขึ้นอยู่กับแคมเปญเลยทุกคน คือในต่างประเทศเค้าไม่ค่อยมีแคมเปญยิบย่อยประจำเดือนแบบบ้านเรา คือสำหรับบ้านเค้ามาน้อย แต่มาที มาแบบยิ่งใหญ่ ดังนั้น ถ้ามองในเวย์ทางฝั่งบ้านเราแล้ว เรามองว่าให้ดูเป็นแคมเปญๆ ไป เพราะบางทีแคมเปญอื่นๆ อย่างเช่นพวก 10.10, 11.11 อาจจะลดเยอะกว่า Black Friday กับ Cyber Monday ด้วยซ้ำ

 

แต่ถ้าจะมองในมุมศึกษาไว้เป็นข้อมูลคร่าวๆ เราก็ได้ไปเจอทริคช็อปปิ้งในช่วง Black Friday และ Cyber Monday ของชาวอเมริกันมา โดยเค้าได้ให้ข้อมูลว่า ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบของแบบจับต้องได้ หรือของชิ้นนั้นมีมูลค่าสูง การช็อปผ่านแคมเปญ Black Friday น่าจะเหมาะกว่า เพราะเราสามารถไปทำการเลือกซื้อของที่ร้านด้วยตัวเองได้ รวมถึงถ้าคุณไม่ชอบรอ หรือรีบใช้มากๆ ก็ให้เลือก Black Friday เค้าเลยจ่ะ เพราะ Cyber Monday บรรดาสินค้าที่นำมาจำหน่ายอาจจะเป็นแบบพรีออเดอร์ หรือมีพร้อมส่งของจริง แต่ของมีจำนวนจำกัด (สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจาก Black Friday) แต่ถ้าไม่รีบร้อน หรือรอได้จริงๆ แคมเปญ Cyber Monday ของบางแบรนด์ อาจจะมีข้อเสนอที่มากกว่าให้กับเราก็ได้ แหงสิ เพราะถ้าโปรไม่แรงจริง ใครจะไปรอล่ะเนอะ 😂 

 

 

| Giving Tuesday คือผลพลอยได้ของ Black Friday และ Cyber Monday

 

มาแบบสั้นๆ พอ ถือว่าเป็นการการันตีความอิมแพคของทั้งสองวันนี้ได้ดีมากๆ เพราะ Black Friday และ Cyber Monday ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัน Giving Tuesday ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นวันเพื่อการให้ของคนทั่วโลก โดยจะตรงกับวันอังคารถัดมา หลังวันขอบคุณพระเจ้า ก็คือไล่เรียงตามนี้ วันขอบคุณพระเจ้า > Black Friday > Cyber Monday > Giving Tuesday จ้า

 

ซึ่งวัน Giving Tuesday นี้ไม่ได้จะเชิญชวนให้พวกเราเสียทรัพย์กันนะ แต่เป็นวันที่ต้องการให้พวกเราแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้คนรอบข้างกันบ้าง ก็คือ ไม่ได้สักแต่ว่าจะช็อปกันอย่างเดียว เราก็มีการส่งมอบให้กับคนอื่นด้วยเหมือนกันนนน ก็ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ดี ที่สำคัญคือเราจะได้พักจากการเสียเงินกันบ้าง55555

 

---

 

 

ส่องโปรโมชั่น Black Friday + Cyber Monday ที่น่าสนใจในบ้านเรา

 

• PlayStation Black Friday 2021 : ส่วนลดเกมสุดฮิตแห่งปี สูงสุด 80%  เพิ่มเติม > คลิก
• Central Black Midnight Sale : รับลดสูงสุด 70% ลด / รับเพิ่มรวมสูงสุด 36% จากเดอะวันและบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เพิ่มเติม > คลิก 
• Black Weekend ช้อป-ร่าง-พัง : ลดทุกชั้นสูงสุด 50% ลด / รับเพิ่มเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 40% จากบัตร M Card และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เมื่อช็อปที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เดอะมอลล์ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพิ่มเติม > คลิก
• Sephora Black Friday Sale : รับส่วนลด 15% (ไม่มีขั้นต่ำ) ช็อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป รับส่วนลด 20% เพิ่มเติม > คลิก
• Nike Cyber Week : กรอกโค้ด CYBER35 รับส่วนลดเพิ่ม 35% สำหรับสินค้าล้างสต็อก เพิ่มเติม > คลิก
• Booking.com Black Friday : รับส่วนลด 30% จากที่พักทั่วโลกที่ร่วมรายการ เพิ่มเติม > คลิก
• Black Friday LazPremium Beauty : ช็อปพรีเมียมสกินแคร์ และเครื่องสำอางแบรนด์ดัง พร้อมเก็บโค้ดส่วนลดจุกๆ ได้ที่นี่ > คลิก
• Lazada Fashion Black Friday : ใครไม่ถนัดสายสกินแคร์ มามุงงานแฟชั่นกันได้ที่นี่เลยจ้า กับสินค้าแฟชั่นลดสูงสุด 90% พร้อมคูปองส่วนลด 20% ที่ปล่อยมาให้กดทุกๆ 10 โมง สายแฟอย่าได้พลาด  เพิ่มเติม > คลิก
• ShopeePay Day : ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ Black Friday แต่ Shopee เค้าก็มีวัน Pay Day ของเค้าเหมือนกันนะจ๊ะ โดยมีส่วนลดมาแจกกันแบบกรุบๆ ทั้งโค้ดส่วนลดสูงสุด 2,500 บาท, ลด 20% รวมถึงบรรดาโค้ดส่งฟรีต่างๆ เพิ่มเติม > คลิก

 

---

 

ความอิมแพคของ Black Friday กับ Cyber Monday ในบ้านเราอาจจะอลังการสู้แคมเปญใหญ่อื่นๆ ไม่ค่อยได้ แต่ในต่างประเทศเค้าถือว่าเป็นสองวันที่สามารถฟันรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเจ้าของกิจการได้มากเลยนะ โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา (ค.ศ. 2020) สามารถทำยอดขายในอเมริกาได้มากถึง 21.6% ส่วนหนึ่งก็มาจากการมาของโควิดด้วยแหละ ที่พอคนอยู่บ้านนานๆ เข้า ไม่มีอะไรทำ ก็เปิดคอมนั่งช็อปรัวๆ กัน หรือใครไม่เป็น5555

 

ส่วนเรื่องดีลพิเศษ อย่างบรรดาส่วนลดต่างๆ ก็อย่างที่บอกไปเลยว่าลองประเมินกันดีๆ หรือลองเปรียบเทียบดูกับแคมเปญก่อนๆ ก็ได้ว่าอันไหนพอจะลดเยอะกว่ากัน หรือหากใครไม่รีบร้อน หรือคิดว่ายังลดไม่เยอะพอก็รอ 12.12  ส่วนตัวเรามองว่าน่าจะลดกระหน่ำ จัดหนัก จัดเต็มส่งท้ายปีกันแน่นอน เอาไว้ถ้ามีความคืบหน้าอะไร เราจะรีบมาบอก แต่ ณ จุดนี้เก็บเงินรอช็อปกันไปก่อน อีกอึดใจเดียวเท่าน้านนนน...

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : history.com, thebalance.com, usatoday.com และ investopedia.com