"BTS" จากวงที่เดินแจกใบปลิวให้คนไปดูคอนเสิร์ตฟรีของตัวเอง สู่เคป็อปสตาร์ชื่อดังของโลก !

 

วินาทีนี้แฟนคลับศิลปินเกาหลีหรือคนที่ตามฝั่ง K-POP มานานตั้งแต่ช่วงปี 2013 เป็นต้นมา คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยไม่ได้ยินชื่อของ BTS หรือ บังทัน อย่างแน่นอน วงบอยแบนด์จากค่ายเล็กๆ BigHit Entertainment (ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อค่ายเป็น Hybe Entertainmnt) ที่ดังเป็นพลุแตก และล้างชาร์ตทุกครั้งที่คัมแบค ! 

 

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ชาวปันโปรไปทำความรู้จักทั้ง 7 หนุ่ม และวง BTS ให้มากขึ้น ว่าเพราะอะไรจากวงที่มาจากค่ายเล็กที่โดนสบประมาทมากมาย ถึงได้ขึ้นมาเป็นบอยแบนด์แถวหน้าระดับโลกได้จนถึงทุกวันนี้

 

---

 

กว่าจะเป็นเคป็อปสตาร์ระดับโลกไม่ได้ง่าย เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

 

 

BTS หรือ บังทันบอย ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ คิม นัมจุน, คิม ซอกจิน, มิน ยุนกิ, จอง โฮซอก, ปาร์ค จีมิน, คิม แทฮยอง และ จอน จองกุก ซึ่งพวกเขาได้เดบิวต์พร้อมผลงานแรกเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ปี 2013 ในซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า “No More Dream” จากอัลบั้ม  2 Cool 4 Skool

 

 

หลังจากที่เปิดตัวเพลงแรก BTS ก็ยังไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างแบบในทันที จนมาถึงเพลง I Need U จากอัลบั้ม The Most Beautiful Moment in Life : Young Forever จนได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัล Melon Music Awards 2016 และหลังจากนั้น BTS ก็เติบโต และสร้างฐานแฟนคลับได้อย่างรวดเร็ว 

 

ความดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ของบีทีเอส ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังสามารถกวาดแฟนคลับได้จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวเพลงที่ค่อนข้างแหวกไปกว่าวงไอดอลวงอื่นๆ ท่าเต้นที่แข็งแรงและพร้อมเพรียง บวกกับสเน่ห์และเคมีที่เข้ากันของเมมเบอร์ทั้ง 7 คน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตกแฟนคลับเข้าด้อมได้อยู่เสมอ

 

---

 

BTS กับเส้นทางสู่อเมริกา ตลาดเพลงอันดับหนึ่งของโลก

 

 

อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า เคป๊อบพยายามตีตลาดอเมริกาซึ่งเป็นตลาดเพลงอันดับต้นของโลกมานานหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Boa, SE7EN, Wonder Girls และ 2NE1 เป็นต้น และการที่เพลงของเคป๊อบจะติดหูคนฟังฝั่งอเมริกาจนดังเป็นพลุแตกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า BTS ก็เป็นอีกวงที่ประสบความสำเร็จในการตีตลาดเพลงอเมริกาได้แตกกระจุยกระจาย จากการคว้ารางวัลมากมายจากเวทีอเมริกา และยังเป็นศิลปินเคป๊อบกลุ่มแรกที่สามารถพาอัลบั้มเปิดตัวขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 200 ได้ !

 

 

จริงๆ แล้วชื่อเสียงของ BTS ในฝั่งอเมริกาเริ่มเป็นที่พูดถึงตั้งแต่ช่วงที่ปล่อยเพลง Dope ซึ่งเป็นเพลงที่ถูกพูดถึงในอเมริกาและตะวันตกมากพอสมควร และต่อมาก็ได้ปล่อยเพลง Fire ซึ่งเป็นแนวเพลง EDM สนุกๆ โยกมันส์ๆ ออกมาแล้วก็ขึ้นชาร์จเพลงเกาหลีได้อย่างรวดเร็ว ก็ยังเป็นอีกเพลงที่ดังมากในฝั่งอเมริกาและยุโรปด้วย เท่านั้นยังไม่พอ Big Hit และบังทันก็ไม่ปล่อยโอกาสให้สูญเปล่า ยังได้ปล่อยเพลงโปรโมทแนว EDM /HOUSE ที่ยังไม่ค่อยมีเคป๊อบวงไหนทำ ออกมาแบบรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น SAVE ME ,Blood Sweat & Tears จุดนี้แหละจึงทำให้แฟนเพลงชาวอเมริการู้สึกว่า BTS นั้นแตกต่างจากวงเคป๊อบอื่นๆ

 

---

 

BTS วงไอดอลสร้างรายได้ให้กับ Big Hit อย่างมหาศาล

 

 

จะเรียกว่า BTS เป็นวงสร้างค่ายก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก เพราะตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา บังทันสามารถโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับค่ายต้นสังกัดอย่าง Big Hit หรือ Hybe ได้แบบมหาศาล ทำให้บริษัทที่กำลังจะเสี่ยงล้มละลายสามารถฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง และสามารถพาบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จในปี 2020  ทำให้บังชีฮยอก CEO ค่าย กลายเป็นมหาเศรษฐีในระยะเวลาอันรวดเร็ว และล่าสุด BTS ก็ได้ร่วมเข้าถือหุ้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นทั้งศิลปินและเจ้าของค่ายเลยทีเดียว

 

---

 

BTS กับทิศทางของวงเมื่อเมมเบอร์ต้องเข้ากรมทหาร 

 

ผู้ชายเกาหลีกับการเข้ากรมทหารเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ซึ่งผู้ชายเกาหลีทุกคน (ยกเว้น นักกีฬาโอลิมปิก, ศิลปินประเภทนักเปียโน ไวโอลินและบัลเล่ต์) เมื่อครบกำหนดอายุ 28 ปี ต้องเข้ากรมทหารเพื่อไปรับใช้ชาติตามหน้าที่เป็นเวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเอาแฟนคลับศิลปินเกาหลีอย่างเราๆ เศร้าอยู่ไม่น้อย เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปีที่หายไป เราจะเห็นหน้าศิลปินและผลงานจากศิลปินน้อยลงกว่าเดิมมาก 

 

 

สำหรับ BTS เอง ถ้านับตามอายุแล้ว เมมเบอร์คนแรกที่จะต้องเข้ากรมทหารรับใช้ชาติคือ จิน (คิม ซอกจิน) ที่เกิดปี 1992 และมีอายุครบ 28 ปีเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 ที่ผ่านมา และมีข่าวว่าเป็นได้สูงมากที่จินจะมีกำหนดเข้ากรมทหารในปลายปี 2021 นี้ 

 

เมื่อมีเมมเบอร์เข้ากรมทิศทางของวงจะเป็นอย่างไรต่อไป ?

 

 

มีคนคาดการณ์เรื่องทิศทางของวง BTS หลังจากที่เมมเบอร์เข้ากรมไว้หลายทางมากๆ บ้างก็ว่า...

 

บางที BTS อาจจะตัดสินใจเข้าพร้อมกันทั้งหมด 7 คน เลยก็ได้ เนื่องจากเมมเบอร์เกิดในช่วงระหว่างปี 1992-1997 ซึ่งอยู่ในช่วงอายุที่สามารถเข้ารับใช้ชาติได้ทุกคนแล้ว ซึ่งข้อดีของเวย์นี้ คือ เจ็บแต่จบ เพราะถ้าเมมเบอร์เข้ากรมพร้อมกัน และออกจากกรมทหารในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เมมเบอร์ทุกคนสามารถกลับมาทำงาน และคัมแบควงพร้อมกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยใช้เวลากับกรมทหารเพียง 2 ปีเท่านั้น 

 

แต่ถ้ามองในมุมของค่ายเพลงหรือมุมมองของคนทำธุรกิจ ถ้าเมมเบอร์เข้ากรมพร้อมกันทั้งหมดอาจจะส่งผลเสียต่อตัววงได้ ถ้าไม่มีผลงานเพลงใหม่ๆ ออกมาเลยในตลอดระยะเวลา 2 ปี  อาจทำให้กระแสของวงซบเซาลงไป ถือว่าเป็นทางที่เสี่ยงพอมากพอสมควรเช่นกัน 

 

และอีกทางหนึ่ง ก็คือ ทยอยเข้าทีละคนจนกว่าจะครบ ข้อดีของทางนี้ คือ ค่ายและเมมเบอร์คนอื่นยังสามารถเลี้ยงกระแสให้ตัววงได้อยู่ตลอด เพราะยังคงเหลือเมมเบอร์คนอื่นๆ ที่สามารถทำงานได้อยู่ โดยอาจจะคัมแบควงโดยที่สมาชิกไม่ครบทั้ง 7 คน, เดบิวต์ Sub-Unit ใหม่ หรือผลงานโซโล่เดี่ยวของเมมเบอร์ก็ได้ และวิธีนี้เหล่าอาร์มี่ (Armys) อาจจะต้องใช้เวลารอการกลับมาของหนุ่มๆ ทั้ง 7 คนแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งในฐานะ BTS นาน 5-6 ปีเลยทีเดียว

 

แต่ไม่ว่าสมาชิกวง BTS จะเลือกเข้าพร้อมกันทั้งหมดหรือเข้าทีละคน หัวใจคนเป็นแฟนคลับอย่างเราก็คงอดเศร้าไม่ได้อยู่ดี แต่เราเชื่ออยู่ลึกๆ ว่ากระแสของวง BTS แม้ว่าเข้ากรมจะไม่ได้หายไปจากเคป๊อปซะทีเดียว เพราะตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา BTS ได้สร้างฐานแฟนคลับทั้งในเกาหลีใต้ ในไทย และแฟนอินเตอร์จากทั่วโลกเอาไว้อย่างหนาแน่น

 

เราเชื่อว่าถ้า BTS ที่กลับมาเป็น BTS แบบสมบูรณ์ครบทั้ง 7 คนอีกครั้ง น่าจะสะเทือนวงการไอดอลอยู่ไม่ใช่น้อยเลยล่ะ