8 ชื่อที่เรียกติดปากกันจนชิน...แต่จริง ๆ มันคือชื่อแบรนด์!
โดย : JINFEB
ชื่อที่เราเรียกกันจนชินปาก รู้ไหมมันเป็นชื่อแบรนด์นะ~
💬 เวลาเราจะซื้อของบางอย่างจะใช้ชื่อเรียกติดปากกันมานานแล้ว อย่างพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำยาล้างจาน, ผงซักฟอก ฯลฯ เพราะหลายคนก็คิดว่ามันเป็นชื่อเรียกรวม ๆ ของสินค้าประเภทนั้น...แต่จริง ๆ แล้วที่เราเรียกกันมันคือชื่อแบรนด์ที่ทำให้สินค้าประเภทนั้นกลายเป็นที่นิยมต่างหากล่ะ! วันนี้เราเลยจะพามาดูไปพร้อมกันว่ามีชื่อไหน แบรนด์อะไร ที่คนไทยมักเรียกจนชินกันมาแต่ไหนแต่ไรและเป็นสินค้าอะไรกันบ้าง~
8 ชื่อที่เรียกติดปากจนชิน ที่ไหนได้ คือ ชื่อแบรนด์
มาม่า
เวลาหิวอยากกินอะไรง่าย ๆ ก็คงนึกถึง “มาม่า” สิ่งที่ใครต่อใครมากมายเรียกแทน ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ จนแบรนด์อื่นที่เป็นสินค้าเดียวกันก็คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจกันบ้างเป็นธรรมดา (เอามาม่ายี่ห้อไวไวงี้...🤣)
“มาม่า” จริง ๆ แล้ว คือ ชื่อแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ้าดังในไทย ที่นับดูแล้วก็เข้ามาเป็นแบรนด์ที่ 4 เข้ามาหลังไวไวซะอีก แต่กลับกลายเป็นชื่อเรียกติดปากจนถือเป็นภาพจำไปแล้ว
มาม่าก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2515 โดยคุณห้างเทียม โชควัฒนา และภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ก็เพิ่มทุนจดทะเบียนจากตอนแรก 6 ล้านมาเป็น 10 ล้าน ต่อมาอีก 5 ปี ก็เพิ่มทุนจดทะเบียนไปสูงถึง 40 ล้านเลยทีเดียว ก็ยอดขายมันพุ่งง่ายโตไวอ่ะเนอะ~
แล้วรู้กันป่ะ? “มาม่า” ที่เราเรียกกันจนติดปากเนี่ยเขามีที่มาจากคำว่า ‘แม่’ เพราะ เป็นคำแรกที่เด็กมักจะพูดได้และแม่คือคนที่ทำอาหารอร่อยให้เราได้กินอยู่เสมอนั่นเอง
ซันไลต์
“ซันไลต์” คำที่คนชอบใช้เรียก ‘น้ำยาล้างจาน’ ไม่ว่าจะเห็นน้ำยาล้างจานยี่ห้อไหนก็มักจะเรียกไปด้วยคำนี้เสมอและมักเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่โผล่ขึ้นมาในหัวเวลานึกถึงน้ำยาล้างจาน
“ซันไลต์” แท้จริงแล้ว คือ ชื่อแบรนด์น้ำยาล้างจาน ที่ในปัจจุบันก็จัดว่าเป็นแบรนด์น้ำยาล้างจานยอดนิยมอันดับ 1 ในไทย แถมยังวางขายไปทั่วโลกเลยด้วย
ซันไลต์ก่อตั้งเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2427 โดยคุณ William Hesketh Lever ที่จากตอนแรกเริ่มขายแค่เพียงสบู่ก้อนมาก่อน ต่อมาก็คำนึงถึงเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย เพื่อที่จะให้ผู้หญิงทำงานความสะอาดไม่หนักเท่าเดิม
ที่ชื่อแบรนด์ว่า “ซันไลต์” ก็มาจากชื่อภาษาอังกฤษคือ Sunlight ที่แปลว่าแสงอาทิตย์เลยทำให้เปรียบเสมือนรางวัลที่สวรรค์ส่งมาให้คนที่ไม่ชอบทำความสะอาด ให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและลำบากน้อยลง
แฟ้บ
แบรนด์ผงซักฟอกรุ่นเดอะในตำนานก็ต้อง “แฟ้บ” ที่ช่วงแรก ๆ เป็นสินค้าประเภทผงซักฟอกยืนหนึ่งในไทยจนคนเรียกชื่อติดปากกัน แต่ตอนนี้หลายคนอาจจะยังไม่รู้หรืออาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าบ้านเราก็มีผงซักฟอกแบรนด์นี้อยู่ด้วยนะ
“แฟ้บ” ที่เราพูดกันจนชินอยู่ทุกวัน คือ ชื่อแบรนด์ ‘ผงซักฟอก’ เจ้าแรก ๆ ในไทยที่ทำออกมาเป็นผงละลายน้ำ ทำให้ใช้งานง่าย ในปัจจุบันนี้ก็ยังพอมีวางขายอยู่บ้าง แต่เทียบกับยุคสมัยก่อนคือถือว่าน้อยลงไปมากแล้ว
แฟ้บก่อตั้งเมื่อราว ๆ พ.ศ.2493 ที่ตอนแรกขายในสหรัฐอเมริกาก่อนแล้วช่วงประมาณปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นไปก็ได้เริ่มเข้ามาทำการตลาดและขายในไทยจนสมัยนั้นฮิตกันมาก
แล้วชื่อแบรนด์ “แฟ้บ” คงต้องบอกว่าเขาคิดกันมาดีเลยเชียวแหละ เพราะเป็นตัวย่อ FAB ที่มาจากชื่อเต็ม ๆ คือ Faster and Better ซึ่งมันก็หมายความได้ว่า ซักได้เร็วและซักได้ดีกว่านั่นเอง
โพสต์อิท
แก ๆ หยิบ “โพสต์อิท” ให้หน่อยสิ~ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราชอบใช้เรียกกันแทน ‘กระดาษโน้ตแปะกาว’ มาตั้งแต่สมัยเรียน จนยันตอนทำงานก็ยังคงเรียกแบบนี้กันอยู่
“โพสต์อิท” ความจริงแล้วเป็นชื่อแบรนด์กระดาษโน้ตแปะกาว ที่เกิดจากความผิดพลาดในห้องทดลองที่อยากได้แบบกาวเหนียวติดทน แต่ดันทำออกมาดันกลายเป็นติดแล้ว ลอกง่าย เลยเอาทำเป็นกระดาษโน้ตแปะกาวขายแทนซะเลย จนได้รับความนิยมแบบทุกวันนี้
โพสต์อิทก่อตั้งเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2511 โดยคุณ Spencer Silver แต่กว่าจะได้ผลิตออกมาขายก็ใช้เวลาไปร่วมกว่า 10 ปีเลยทีเดียว มีการพัฒนาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้มีออกมาหลายสิบแบบและเกือบร้อยสีเลยแหนะ!
ก่อนจะได้มาเป็นชื่อ “โพสต์อิท” รู้ไหมเขาใช้ชื่อ Press n’ Peel มาก่อนนะ แต่ก็ได้มาเปลี่ยนเป็นแบบปัจจุบันนี้ เพราะ เพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานและให้คนเข้าใจตัวสินค้าว่าคืออะไรเป็นยังไงกันแน่ แถมยังเรียกง่ายและติดปากกว่าด้วย
แม็กซ์
อย่าลืมเอา “แม็กซ์” มาเย็บก่อนส่งงานนะ~ ดูสิไม่ว่าจะทำอะไร ทำการบ้านส่งครู, เย็บเอกสารส่งหัวหน้าหรือจะทำงานต่าง ๆ ก็ใช้เจ้าสิ่งนี้กันทั้งนั้น
“แม็กซ์” มันคือชื่อแบรนด์ของ ‘ที่เย็บกระดาษ’ หรือ Stapler ที่เริ่มเข้ามาในไทยเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2548 และด้วยความสะดวกนี่เองทำให้คนไทยเรารวมถึงผู้ใช้งานทั่วโลกติดใจและใช้กันมาเรื่อย ๆ ถึงทุกวันนี้
แม็กซ์ก่อตั้งเมื่อช่วงปีพ.ศ.2485 โดยคุณทาคาชิ มิอิดะ ที่ขายสิ่งของเครื่องใช้ในสำนักงานมาตั้งนานแล้ว ซึ่งสินค้าเริ่มต้นของเขาก็คือเจ้าเครื่องเย็บกระดาษนี่เองและพัฒนาเรื่อย ๆ จนมีขนาดและรูปทรงเหมือนที่เราเห็นกันจนคุ้นตาอยู่ทุกวันนี้เอง
ที่ได้ชื่อแบรนด์ว่า “แม็กซ์” จริง ๆ แล้วเขามีที่มาจากชื่อบริษัทเอ็มเอเอ็กซ์ แต่เขียนเป็น MAX เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและความคุ้นชินของผู้คนต่าง ๆ ได้มากขึ้น
สก๊อตช์-ไบร์ต
ในเมื่อมีซันไลต์ไปแล้ว จะขาดของใช้คู่กันอย่าง “สก๊อตช์-ไบร์ต” ไปได้ยังไงละ~ เป็นสิ่งที่คนส่วนมากชอบใช้เรียกแทน ‘ฟองน้ำพร้อมใยขัด’ ชนิดที่ว่าเห็นอะไรแผ่นเขียว ๆ ไว้ล้างจานไว้ขัดสิ่งต่าง ๆ ก็พากันเรียกแบบนั้นไปหมด
“สก๊อตช์-ไบร์ต” จริง ๆ แล้ว คือ ชื่อแบรนด์ฟองน้ำที่มาพร้อมกับใยขัด ที่เข้ามาขายในไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ซึ่งเป็นสินค้าแรกของ 3M ในไทยและในปัจจุบันก็มีออกมาหลายแบบหลายสไตล์ให้ได้หยิบไปใช้งานเลยแหละ
สก๊อตช์-ไบร์ตก่อตั้งเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ.2445 โดยนักธุรกิจหนุ่ม 5 คน ที่ในตอนแรกเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดเล็ก เพื่อที่จะหาหินแร่ไปผลิตเป็นกระดาษทราย จนได้เกิดการเรียนรู้และพัฒนามามีสินค้าขายหลากหลายแบบหลากหลายแบรนด์ในเครือ 3M แบบที่ได้เห็นกัน
ส่วนชื่อ “สก๊อตช์-ไบร์ต” ก็มีที่มาจากชื่อไลน์สินค้า Scotch ผสมกับคำว่า Bright ที่เอามาเขียนเล่นคำใหม่เป็น Brite แล้วเอามารวมกันนั่นเอง
สก๊อตช์เทป
ถ้าพอจะตกแต่งห้องติดโปสเตอร์ศิลปินที่รักหรือจะรูปคู่ชาวแก๊งเพื่อน ง่ายที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการใช้ “สก๊อตช์เทป”
“สก๊อตช์เทป” ที่พวกเราเรียกกันซะติดปาก จริง ๆ สิ่งนี้ คือ ชื่อแบรนด์ ‘เทปใส’ ที่มีขึ้นครั้งแรกตอนปีพ.ศ.2473 แบรนด์นี้เขายังมีขายเทปยึดติดต่าง ๆ มากกว่า 400 ชนิด ในตอนนี้ก็ไม่ได้มีแค่เทปใสธรรมดาแล้วนะ เขายังมีเทปแบบอื่น ๆ อีกมากกว่า 100 สีและแบบเลย
สก๊อตช์เทปเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2468 โดยคุณ Richard Drew ที่ว้าวเลยคือในช่วงสมัยก่อนนั้นเคยเอาสก็อตเทปมาติดเพื่อปิดรูขนาดไม่ใหญ่มากบนเครื่องบิน จนทำให้เครื่องบินสามารถบินต่อไปได้ แล้วเขาเป็นแบรนด์ในเครือ 3M เหมือนกับสก๊อตช์-ไบร์ตด้วยนั่นเอง
แล้วทำไมต้องเรียกว่า “สก๊อตช์เทป” กันด้วยนะ? อันนี้ก็มีสาเหตุมาจากชื่อเต็มของเขา คือ ‘Scotch Cellophane Tape’ (Cellophane = กระดาษใส) ภายหลังก็เลยเรียกกันแบบสั้น ๆ กระชับ ๆ ว่าสก๊อตช์เทปแบบที่เราใช้กันทุกวันนี้เลย
คอฟฟี่เมต
ชงกาแฟก็ต้องใส่ “คอฟฟี่เมต” สักนิดสิ ถึงจะกลมกล่อมลงตัว~ เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคอกาแฟและสารพัดน้ำชง
“คอฟฟี่เมต” ไม่ใช่ชื่อสินค้าทั่วไปนะ แต่เขาคือชื่อแบรนด์ ‘ครีมเทียม’ จากบริษัทเนสท์เล่ ซึ่งเริ่มขายในไทยช่วงราว ๆ ปีพ.ศ.2528 ในตอนนี้ก็มีมาให้เลือกใช้ทั้งแบบผงและแบบน้ำแล้วแต่ที่ชอบกันเลย
คอฟฟี่เมตก่อตั้งเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2409 โดยคุณElbridge Amos Stuart และคอฟฟี่เมตนั้นเริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาเพื่อใช้ทดแทนนมและทำให้ได้รสชาติที่ดีขึ้นกว่าเดิม
มาถึงชื่อ “คอฟฟี่เมต” ซึ่งเวลาที่เราเขียนเป็นภาษาอังกฤษจะได้ว่า Coffee Mate แปลได้ว่าเพื่อนซี้หรือคู่หูของกาแฟ ซึ่งมันก็ตรงตัวและตอบโจทย์กับตัวสินค้าของเขาเลย
เห็นไหมว่าแท้จริงแล้วเราเรียกชื่อสิ่งนึงซะจนชินกันเยอะมาก แต่จริง ๆ แล้วถึงสินค้าจะเหมือนกัน แต่เขาก็คนละแบรนด์กันนะ คราวนี้พอรู้แล้วก็เตรียมเรียกใหม่ให้ถูกเลย ว่าแต่มีแบรนด์ไหนอีกบ้างนะที่ชอบเรียกกันติดปาก มาคอมเมนต์บอกกันหน่อยเร็ว~
👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻
โดย JINFEB
🍀💜