รู้ทัน! 5 โรคยอดฮิต ของพนักงานออฟฟิศ

avatar writer
โดย : waranggg
avatar writer1 ส.ค. 2562 avatar writer2.7 K
รู้ทัน! 5 โรคยอดฮิต ของพนักงานออฟฟิศ

อย่าทำงานเพลิน จนปล่อยให้ร่างพัง
มารู้ทัน "5 โรคยอดฮิต ใกล้ตัวเหล่ามนุษย์ออฟฟิศ"
มีอะไรบ้าง ตามมาเล้ยย


สุขภาพกับวัยทำงานกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยหล่ะ  หลายๆ คนทำงานหนักจนละเลยเรื่องสุขภาพ กว่าจะรู้ตัวก็พังทั้งสุขภาพ พังทั้งงาน บางคนหนักเข้าก็กลายเป็นโรคร้ายแรงจนต้องออกจากงานเพื่อมารักษาตัวกันเลยทีเดียว  ทางเราก็เลยมีลิสต์ 5 โรคยอดฮิตที่มักพบในพนักงานออฟฟิศมาฝากกัน เพื่อจะได้รู้ทัน และป้องกันได้อย่างถูกวิธีค่ะ 

Office Syndrome 

โรคยอดฮิตพนักงานออฟฟิศ

ถ้าพูดถึงโรคยอดฮิตที่คนทำงานเป็นกันเยอะ ชื่อแรกๆ ที่ทุกคนพูดถึงคงหนีไม่พ้น "ออฟฟิศซินโดรม" คือ อาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยไม่เปลี่ยนท่า หรือเปลี่ยนอิริยาบถ เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง

อาการเบื้องต้น 

  • ปวดเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะปวดบริเวณ คอ บ่า ไหล่ สะบัก หลัง โดยจะปวดเป็นบริเวณกว้าง และปวดแบบล้าๆ 
  • อาจพบอาการของระบบประสาทอัตโนมัติร่วมด้วย เช่น  ซ่า วูบ ขนลุก เหงื่อออก บริเวณที่มีอาการปวด
  • มีอาการชาที่มือ แขน และอาการอ่อนแรง ที่เกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานาน

การป้องกัน 

  • ปรับความสูงของโต๊ะ และเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และควรปรับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา
  • ควรเปลี่ยนท่านั่ง หรือเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1 ชั่วโมง 
  • ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคยอดฮิตพนักงานออฟฟิศ

ไม่ว่าห้องน้ำจะไกลโต๊ะแค่ไหน ก็ห้ามอั้นฉี่เด็ดขาด เดี๋ยวจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบไม่รู้ตัว ซึ่งโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ และเกิดจากการกลั้นปัสสาวะบ่อย รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะปัสสาวะผิดโครงสร้าง และผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่วด้วย 

อาการเบื้องต้น

  • ปัสสาวะแสบขัด 
  • ปัสสาวะบ่อยมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน และปัสสาวะกระปริบกระปรอย 
  • ในบางคนอาจพบว่าปัสสาวะเป็นเลือด

การป้องกัน

  • ไม่กลั้นปัสสาวะนานๆ โดยไม่จำเป็น
  • ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น
  • ทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังจากปัสสาวะ และอุจจาระเสร็จ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ 

จอประสาทตาเสื่อม 

โรคยอดฮิตพนักงานออฟฟิศ

ตามัว มองเห็นไม่ชัด ไม่ได้หมายความว่าสายตาสั้นเสมอไป นั้นหมายถึงว่ากำลังจะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ ซึ่งอาการนั้นคล้ายกับอาการสายตาสั้นมาก ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการใดๆ จนไม่สามารถสังเกตได้เลย แต่ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมองไม่เห็นเฉพาะส่วนกลางของภาพ แต่ยังคงมองด้านข้างของภาพได้เหมือนเดิม

เนื่องจากในระยะแรกจะยากต่อการสังเกตอาการ หากพบอาการต่อไปนี้ ต้องรีบพบแพทย์ทันที

  • มองเห็นภาพไม่ชัดเจน
  • มีจุดดำ หรือจุดบอดตรงส่วนกลางของภาพ
  • มองเห็นกรอบประตู มีลักษณะโค้ง หรือเป็นคลื่น
  • มีปัญหาในการสังเกตความแตกต่างใบหน้าของบุคคล

การป้องกัน

  • วางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ระดับสายตา 
  • ใส่แว่นถนอมสายตา 
  • ปรับขนาด และความเข้มของตัวหนังสือให้มีขนาดพอดี ไม่เล็ก หรือสีอ่อนเกินไปจนต้องใช้สายตาในการเพ่งมอง 

ไมเกรน

โรคยอดฮิตพนักงานออฟฟิศ

เครียดกับงานทีไร ไมเกรนขึ้นทุกที หลายคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้จากเพื่อน หรือคนใกล้ตัวแน่นอน ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ยังไม่ได้ถูกระบุอย่างชัดเจนว่าเกิดจากอะไร แต่อาจเกิดจากความผิดปกติที่ระดับสารเคมีในสมอง การทำงานที่ผิดปกติของหลอดเลือดสมอง สำหรับคนวัยทำงานที่เป็นไมเกรนอยู่แล้ว ความเครียดก็นับเป็นตัวกระตุ้นให้ไมเกรนกำเริบได้ 

อาการเบื้องต้น 

  • ปวดหัวข้างเดียว และปวดแบบตุบๆ (คล้ายเส้นเลือดเต้น) เป็นระยะๆ
  • อาจพบอาการคลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย
  • สำหรับใครที่สงสัยว่าอาการปวดหัวที่เกิดขึ้น เป็นอาการของไมเกรนหรือเปล่า แนะนำให้พบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย เพื่อจะได้ป้องกัน และรักษาอย่างถูกต้อง 

การป้องกัน

  • สังเกต และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดอาการปวดหัว
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และนอนให้ตรงเวลาทุกวัน 
  • ถ้าหากเครียดกับงานมากจนเกินไป ควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด

กระเพาะอาหารอักเสบ

โรคยอดฮิตพนักงานออฟฟิศ

เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบที่เยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารถูกหลั่งออกมามากจนเกินไปนั่นเอง หากเป็นบ่อยครั้งจนเรื้อรัง อาจเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ ใครกินข้าวไม่ตรงเวลา หรือทำงานจนลืมกินข้าว ระวังตัวไว้เล้ยย

อาการเบื้องต้น

  • ปวดกลางท้องช่วงบน ตั้งแต่ช่วงลิ้นปี่จนถึงบริเวณเหนือสะดือ
  • ลักษณะการปวดจะปวดแบบแน่นๆ หรือปวดแบบแสบร้อน
  • อาการปวดมักจะสัมพันธ์กับการทานอาหาร ซึ่งเมื่อทานอาหารเข้าไป อาจทำให้อาการปวดมากขึ้น หรือปวดน้อยลงได้

การป้องกัน 

  • ทานอาหารให้ตรงเวลา และทานในปริมาณที่พอดี เพื่อให้การหลั่งของกรดในกระเพาะอาหารเป็นไปตามปกติ
  • ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงอาหารประเภทอาหารรสจัด และอาหารทอด อาหารที่ทีกรด และไขมันสูง เพราะอาหารเหล่านี้อาจไปกระตุ้นให้กระเพาะระคายเคืองได้ 

🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈

  • เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการป่วย ควรรีบพบแพทย์ เพื่อจะได้รักษาอย่างทันท่วงที 
  • อย่าลืมดูแลสุขภาพ ทานข้าวให้ตรงเวลา และหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานกันด้วยน้า

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ,สสส. ,PobPad ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ

แสดงความคิดเห็น