ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน นี่ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า..แต่นี่คือชื่อร้าน!

 

นาทีนี้จะไม่พูดถึงแบรนด์นี้ก็คงไม่ได้ เพราะเค้ามาแรงมากในโซเชียล เรียกได้ว่าโดนใจวัยรุ่นสุด ๆ ก็คือร้าน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน”...เอางี้ใครเป็นบ้าง อ่านแวบแรกต้องเอ๊ะ! ขอหยุดคิดแปบ นี่คือชื่อร้านหรอ คือดูเป็นประโยคง่าย ๆ แต่แปลกดีที่เอามาตั้งเป็นชื่อร้าน วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมารู้จักแบรนด์นี้กัน ว่าทำไมใช้ชื่อนี้ แล้วจุดเด่นของเค้ามีอะไรบ้าง ?

 

---

 

จุดเริ่มต้นของชาเย็นชื่อยูนีค!

 

สำหรับแบรนด์นี้เจ้าของก็คือ “คุณวิว พันธ์ทิพย์ ดีเจริญ” ที่ก่อนจะมาเป็นร้าน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” เค้าเปิดคาเฟ่มาก่อนนะชื่อ “Better Beam café” และมีเมนูชาเย็นเป็นซิกเนเจอร์และเป็นเมนูขายดีของที่ร้าน หลังนั้นประมาณ 2 ปี เค้าก็เลยเกิดไอเดียอยากแตกแบรนด์ใหม่ออกมา ขายแค่ “ชาเย็น” ที่เป็นเมนูที่ตัวเองคุ้นเคยดี เพราะที่บ้านชอบกินชาและเค้าเป็นคนใต้ด้วย (จ.นครศรีธรรมราช) ทำให้รู้เรื่องชาในแต่ละภาค ว่าแตกต่างกันยังไงบ้าง จนในปี 66 ที่ผ่านมา ก็ได้ทำแบรนด์นี้ขึ้นมา

 

---

 

 

ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน..ทำไมต้องชื่อนี้ ?

 

ต้องบอกก่อนว่าในตอนแรกอะ ร้านเค้าใช้ชื่อว่า BEAMS CHA มาก่อนนะ หลังจากนั้นสักพักถึงมาเปลี่ยนเป็นชื่อ “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” by BEAMS CHA แบบที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้นี่แหละ แล้วที่เค้าใช้ชื่อนี้ก็เพราะว่า อยากจะเจาะกลุ่มคนที่เป็นชาเย็นเลิฟเว่อร์ และอยากจะสโคปให้ชัดว่าร้านเค้าเป็นสเปเชียลเรื่องนี้จริง ๆ เลยเปลี่ยนชื่อทำให้คนเห็นแล้วเก็ทในทันที..ซึ่งก็จริงนะ เพราะอ่านชื่อร้านปั๊บก็รู้ปุ๊บเลย ว่านี่คือร้านที่เน้นเมนูชาเย็นจริง ๆ

 

---

 

 

จุดเด่นของแบรนด์..คืออะไร 

 

สำหรับชาเย็นแบรนด์นี้ เค้ากลายเป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงเป็นอันดับ 8 ในโซเชียล (ข้อมูลจากบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด) เพราะงั้นเค้าต้องมีจุดเด่นอยู่หลายอย่างแน่ ๆ งั้นลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ?

 

แค่ชื่อก็เด่นแล้ว : อย่างแรกเลยก็คงจะไม่พ้นชื่อร้าน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” คือพูดตรง ๆ นะ ตอนอ่านครั้งแรกก็ต้องเอ๊ะ! ว่านี่คือชื่อร้านจริง ๆ หรอ เราว่ามีความยูนีคและเข้าใจง่ายอะ ไม่แปลกใจที่เค้าจะเข้าถึงกลุ่มคนรักชาเย็นได้ง่าย ๆ

 

การออกแบบแพ็กเกจจิ้ง : ทั้งโลโก้และแพ็กเกจจิ้งมีความน่ารักและทันสมัย เค้าเลือกสีได้แมตช์กันดีอะ คือน้ำเงินกับส้ม ทำให้สินค้าดูเด่นขึ้นมา แล้วยังมีคำคมสโลแกนบนแก้วด้วย อย่างเช่น ชาเย็น..แต่ไม่เย็นชา ซึ่งเป็นกิมมิคที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้าดี

 

ออกอีเวนต์ : ทางแบรนด์ได้ไปออกบูธงานอีเวนต์ต่าง ๆ บ่อยมาก เพื่อเป็นการทำให้ลูกค้าจำแบรนด์เค้าได้ และบูธจะมีการตกแต่งแบบน่ารักเลยให้น่าสนใจ เห็นที่ไหนก็จำร้านนี้ได้

 

ทำการตลาดผ่านโซเชียล : ถ้าเห็นในหน้าฟีดบ่อย ๆ ก็ต้องแบรนด์นี้แหละ ที่เค้าทำการตลาดทางโซเชียลในช่องทางต๊อก ๆ ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ฮิตมาก ๆ ในตอนนี้ นี่เลยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว จนหลายคนอยากจะไปลองกิน และมีคนรีวิวเยอะมากด้วย

 

สูตรชาของร้าน : ชาของที่นี่จะมีความละมุนเข้มข้นกลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป ซึ่งทางร้านเค้าใช้ชาจากภาคใต้ผสมกับภาคกลาง เป็นสูตรพิเศษของทางร้านเลย

 

ทำเลที่ตั้ง : ย่านที่มาแรงฮิตสุดใน พ.ศ. นี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “ย่านบรรทัดทอง” ซึ่งเค้าเปิดร้านอยู่ที่นี่ แล้วช่วง 2 อาทิตย์แรก เค้าขายได้ วันละ 20,000 แก้วเลยนะ! นี่ทำให้รู้เลยว่า..ทำเลสำคัญมาก ๆ

 

ทำคอนเทนต์ดี : ทั้งการโปรโมทในช่องทางต่าง ๆ การทำภาพ ทำคลิปออกมาให้ดูน่าสนใจ และคอยอัปเดตโปรดัคต์อยู่ตลอด นี่เลยทำให้ร้านไม่เคยตกเทรนด์เลย

 

---

 

 

เมนูฮิตอันนี้แหละ..ทำหลายคนหลงรัก!

 

เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ต้องขอยกให้เมนูนี้เลย “สเลอปี้ชาเย็น” ที่จุดเด่นของเค้าคือใช้ชาล้วน ๆ ไม่ใช้น้ำแข็งเลย แต่เอามาทำให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง กินกับไข่มุกเม็ดเล็กของเค้าก็คือเข้ากันสุด! แล้วเค้ายังมีไซซ์มินิด้วยนะ ราคาเริ่มต้น 70.- เอาเป็นว่าใครไปต้องสั่งเมนูนี้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูน้ำ Cha Yen With Boba 80.- / Lemon Tea Rich Lemon Tea 70.- และอื่น ๆ อีก อย่างพุดดิ้งชาเย็น กับเมนูน้ำแบบใส่ขวดแก้วไว้ไปกินที่บ้านด้วย 😍

 

📍 แล้วตอนนี้เค้ามี 4 สาขาน้า : สาขาบรรทัดทอง1 / สาขาบรรทัดทอง2 (grab&go) ตรงข้ามสาขา1 / สาขาตลาดรวมทรัพย์อโศก และ สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์

 

---

 

เป็นยังไงกันบ้าง..วันนี้เราก็ได้รู้ที่มาของชื่อร้าน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” แล้วได้มาดูว่าเค้ามีจุดเด่นอะไรบ้าง ที่ทำให้ฮิตในโซเชียลขนาดนี้...อะไหนใครได้ลองแล้ว ชอบเมนูอะไรกันบ้าง มาแนะนำได้น้า 💖

 

---

 

👉🏻 อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.pro/3SgoYfR , https://ppro.pro/41YCfwI , https://ppro.pro/3RZ9z2a , https://ppro.pro/3O22nRT , https://ppro.pro/3HhuWHa 

 

👉🏻 ขอบคุณรูปภาพจาก : ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน